วันพุธ, มกราคม 09, 2551

ปริญญาใบที่สอง

"ปริญญาวิชาชีพกับปริญญาชีวิต"   


อยากให้ทุกคนได้อ่านบทความดีๆ เสี้ยวหนึ่งจาก ท่าน ว.วชิรเมธี

ที่เมืองไทยปีที่แล้วมีข่าวเกรียวกราวมาก คือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมาก เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน
ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร มาเรียนที่อเมริกา เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุดแม้กระทั้งล้างจาน ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดูว่าสะอาดจริงมั้ย
กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลย...ต้องให้ดีที่สุด

เวลาแกไปเสนองานอะไรต่างๆ แกจะเขียนไว้สามแผน แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ แกเสนอแผนที่สอง แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สาม ใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย

แกมีบ้าน มีรถ มีลูก มีภรรยา มีธุรกิจ มีชื่อเสียงทุกอย่าง...แกมีทุกอย่าง

วันหนึ่งแกพักผ่อน หลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย ลูกเมียไปขอพบ บอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิศ วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่อง ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุบลงไป ภรรยาพาเข้าโรงพยาบาล ตรวจพบมะเร็ง
พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย จริง ๆ เค้าก็เตือนตลอด แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้ แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคนบันทึกชีวิตแก

ก่อนจะเสียชีวิต แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่ กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก

ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า พ่อผมเคยบอกว่า เกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ

ปริญญาใบที่หนึ่ง "ปริญญาวิชาชีพ" เราจะต้องทำมาหากินเป็น กินอิ่ม นอนอุ่น พูดง่ายๆ ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้ อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง แค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ

แต่"ปริญญาวิชาชีวิต" ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้ แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง
ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก เพราะอะไร...เพราะทำงานจนป่วยตาย

ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง บ้าน รถ มอบมันให้กับลูกและภรรยา แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ครั้งนี้ สิ่งที่ว่านี้คือผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมีย เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย

นี่คือปริญญาวิชาชีวิต ธรรมะเราจะต้องมี ถ้าเราไม่มีธรรมะ เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเอง ที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี ดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวันนะ

แต่ละวันควรจะมีเวลาให้ดูแลตัวเอง ดูจิต ดูใจตัวเอง ว่าเอ๊ะมันทุกข์ มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า
แบกเรื่องโน้นเรื่องนี้ เกินไปหรือเปล่า พยายามลดลงในแต่ละวันๆ เพื่อที่ว่าอะไร...เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิต

หนึ่งปริญญาวิชาชีพ เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง มีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่ แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สอง คือวิชาธรรมะ สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือนร้อนเกินไป

ทำอะไรให้พอดี พอดีอยู่ดีมีสุข อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว อยากพักให้ได้พัก อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ
ลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด และมารู้สึกตัวอีกทำจนล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี เพราะอะไร เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา

เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเ้จ้า ว่าอะไรคือสิ่งสูงค่่าที่สุด  บางคนก็ตอบเงิน .บางคนก็ตอบเพชร บางคนก็ตอบทอง บางคนก็ตอบอำนาจ บางคนก็ตอบราชบัลลังก์พร

ะพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือ "สุขภาพและชีวิต" สุขภาพก็คือการที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อยนะ

ปริญญาวิชาชีพกับปริญญาชีวิต"

11 ความคิดเห็น:

namb nam กล่าวว่า...

วิชาชีวิต----^^--

kitti khamsiri กล่าวว่า...

ขอบคุณที่นำบทความดี ๆ มาให้อ่านครับ

POOPOO som-sook กล่าวว่า...

รับทราบ น้าเม้ง .....ขอบคุณอีกแล้วสำหรับเรื่องดีๆ เรื่องที่สองในวันนนี้

RaBBiT LighTing กล่าวว่า...

จะบอกว่า..เคยอ่านจากบ้านอื่นแล้วค่ะ
แต่ก็ขอบคุณ..ที่นำเรื่อง ดี..ดี มาแบ่งปัน

YUTTANA 59 กล่าวว่า...

ผมดูคนค้นคนเทปนี้
น่าสงสารมาก

ไอดิน กลิ่นฝน กล่าวว่า...

ยังไม่ได้สักใบ
อยากเรียนจบใจจะขาดอยู่แล้ว ทำไมยิ่งใกล้มันยิ่งยากจัง

ขอบคุณค่ะสำหรับบทความดีดี

明 เม้ง  ^__^ กล่าวว่า...

เก็บสักสามใบ เลยหนูโอ๋ สองใบนี้ รวมกับปริญญาโทต๊องอีกใบ

ไอดิน กลิ่นฝน กล่าวว่า...

เหอะๆๆ เอาใบแรกก่อนดีกว่าเนอะ

apinya tissamana กล่าวว่า...

อ่านแล้วพบสัจธรรมว่า ชีวิตต้องตั้งอยู่บนทางสายกลาง ตึงไปก็ขาด หย่อนไปก็ไม่ดี ดังนั้นคนเราจงเป็นอย่างที่เราควรจะเป็นดีกว่า เป็นตามปากคนอื่น

MonLaporn S. กล่าวว่า...

งั้น เราก็ ต้อง เรียน ปริญญา ใบที่สอง และ ดูแล อนุปริญญา 2 ใบเล็กก ให้ ดี ต่อไป

ขอบคุณค่ะคุณเม้ง

phyche phyche123 กล่าวว่า...

คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อย
..เห็นด้วยที่สุดเลยยยย