วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 24, 2554

ที่สุดของแต่ละราศี

ราศีมังกร 16 ม.ค- 12 ก.พ
ราศีกุมภ์ 13 ก.พ- 13 มี.ค
ราศีมีน 14 มี.ค- 12 เม.ย
ราศีเมษ 13 เม.ย- 13 พ.ค
ราศีพฤษภ 14 พ.ค- 13 มิ.ย
ราศีเมถุน 14 เม.ย- 14 ก.ค
ราศีกรกฏ 15 ก.ค- 16 สิ.ค
ราศีสิงห์ 17 สิ.ค- 16 ก.ย
ราศีกันย์ 17 ก.ย- 16 ต.ค
ราศีตุลย์ 17 ต.ค- 15 พ.ย
ราศีพิจิก 16 พ.ย- 15 ธ.ค
ราศีธนู 16 ธ.ค- 15 ม.ค

--------------------------------------------------------------------------------


ราศีที่ขี้เบื่อที่สุด - ราศี เมถุน

ราศีที่ฟอร์มจัดที่สุด - ราศี พฤษภ

ราศีที่อกหักซ้ำซากที่สุด - ราศี ตุลย์

ราศีที่ขี้เหนียวที่สุด - ราศี มังกร

ราศีที่ฮึดที่สุด - ราศี สิงห์

ราศีที่ขัดแย้งกับตัวเองที่สุด - ราศี กรกฏ

ราศีที่อ่อนน้อมถ่อมตนมากที่สุด - ราศี ตุลย์

ราศีที่หาเงินง่าย แต่จ่ายแหลกที่สุด - ราศี มีน

ราศีที่ครบเครื่องเรื่องกิเลสตัณหาที่สุด - ราศี สิงห์

ราศีที่หัวโบราณที่สุด - ราศี กันย์

ราศีที่เจ้าชู้เงียบที่สุด - ราศี ธนู

ราศีที่มีชุดชั้นในหรือกางเกงในเซ็กซี่ที่สุด - ราศี พิจิก

ราศีที่กล้าลองสิ่งแปลกใหม่ที่สุด - ราศี เมษ

ราศีที่ขี้น้อยใจที่สุด - ราศี กรกฏ

ราศีที่เจ้าชู้โฉ่งฉ่างที่สุด - ราศี ตุลย์

ราศีที่ทื่อมะลือที่สุด - ราศี มังกร

ราศีที่เป็นคนเจ้าน้ำตาที่สุด - ราศี กรกฏ

ราศีที่จู้จี้ จุกจิกที่สุด - ราศี กันย์

ราศีที่จอมบงการที่สุด - ราศี เมษ

ราศีที่หูเบาที่สุด - ราศี มีน

ราศีที่ขี้งอนที่สุด - ราศี กรกฏ

ราศีที่ระเบียบจัดที่สุด - ราศี ตุลย์

ราศีที่มีลางสังหรณ์แม่นที่สุด - ราศี กุมภ์

ราศีที่มีรักไฟแลบที่สุด - ราศี เมษ

ราศีที่เจ้าชู้ งุบงิบที่สุด - ราศี ธนู

ราศีที่เลือดร้อนที่สุด - ราศี กุมภ์

ราศีที่โก๊ะที่สุด - ราศี พฤษภ

ราศีที่มากรักหลายใจที่สุด - ราศี ธนู

ราศีที่รักเดียวใจเดียวที่สุด - ราศี เมษ

ราศีที่รักนะแต่ไม่แสดงออกที่สุด - ราศี กรกฏ

ราศีที่กะล่อนที่สุด - ราศี ตุลย์

ราศีที่เก็บกดที่สุด - ราศี พฤษภ

ราศีที่เจ้าเลห์ เพห์ทุบายที่สุด - ราศี สิงห์

ราศีที่หัวใจเจ็บแล้วไม่จำที่สุด - ราศี กันย์

ราศีที่รักจริง เกลียดแรงที่สุด - ราศี มังกร

ราศีที่มีรักแท้ ดูแลดีที่สุด - ราศี เมถุน

ราศีที่รักนะ แต่ฟอร์มจัดที่สุด - ราศี พฤษภ

ราศีที่เอาแต่ใจที่สุด - ราศี กรกฏ

ราศีที่จับจดที่สุด - ราศี เมถุน

ราศีที่เผด็จการที่สุด - ราศี กันย์

วันพุธ, กุมภาพันธ์ 23, 2554

100 เรื่องเด่นความรู้เพื่อส่งเสริมสุขภาพสำหรับประชาชน | ศาลาสาระ ศูนย์ข้อมูล สสส.

http://info.thaihealth.or.th/library/12377
หัวข้อต่างๆแล้วแต่จะสนใจเลือกอ่านครับ
ผมลิสหัวข้อมาให้อ่านครับ
แต่ต้องดาวโหลดหนังสือทั้งเล่มครับ

http://info.thaihealth.or.th/system/files/documents/100_eruuengedn_1-cchb.pdf

ตากแดดวันละ 30 นาทีช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
นักสูบควรตรวจสมรรถภาพปอดเพื่อค้นหาปอดอุดกั้นเรื้อรังระยะต้น
น้ำหนักตัวมีผลต่อโรคข้อเข่าเสื่อม
“6อ” แนวทางมหาวิทยาลัยสร้างสุข
ทำอย่างไรไม่ให้ลูกตัวอ้วนของเราบาดเจ็บ
เปิดเทอมใหม่ เด็กไทยไหล่ทรุดหลังงอ
สอนลูกน้อยให้เดินถนนอย่างปลอดภัย
เลือกเนิร์สเซอรี่ทั้งทีควรเน้นที่ “คุณภาพ”
รถหัดเดิน...เมื่อไหร่จะเลิกใช้?
จำเป็นไหมที่เด็กยุคใหม่ต้องว่ายน้ำเป็น
วิธีสอนลูกให้ใช้สนามเด็กเล่นอย่างปลอดภัย
วิธีสร้างภูมิต้านทานให้วัยรุ่น
ความรุนแรงในครอบครัวบรรเทาได้จากทุกคนในชุมชน
วิธีลดความเสี่ยงในการนอนโรงพยาบาลของผู้สูงอายุ
ออกกำลังกายแค่ไหนจึงจะดีต่อสุขภาพ
อยากกล้ามเนื้อแข็งแรงควรออกกำลังกายแบบไหนดี
ออกกำลังกายเพื่อหัวใจแข็งแรง
ทำอย่างไรจึงจะเดินออกกำลังกายมากขึ้น
ออกกำลังกายโดยการวิ่งเหยาะกันดีกว่า
ออกกำลังกายแบบใดให้ผลดีต่อสุขสมรรถนะ
กล้ามท้องที่เซ็กซี่
ป้องกันผิวเสียจากแสงแดดขณะออกกำลังกายอย่างไรดี
ก่อนแอโรบิกส์ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
วิ่งเพื่อสุขภาพกาย อิ่มใจ และได้บุญ
ช่วยชุมชนพ้นภัยบุหรี่
AF ภารกิจพิชิตอ้วนกำจัดพุง
“สุขภาวนา” สุขภาพจิตดีเริ่มที่ความสงบ
7 อาการแสดงของความเครียดที่ควรตระหนัก
9 วิธีพิชิตความเครียด
กินเป็นจริงหรือ
ความเชื่อเกี่ยวกับการออกกำลังกาย
“ตรวจสุขภาพประจำปี” จำเป็นหรือไม่
อาหารการกินสำหรับหญิงวัยทอง
ครอบครัวสร้างเสริมสุขภาพ
ดูแลใบหูให้ถูกวิธีกันดีกว่า
การสร้างเสริมสุขอนามัยของจมูกและไซนัส
คอมพิวเตอร์กับสายตา
กินอะไรจึงจะบำรุงสายตา?
เครื่องดื่มเสริมสุขภาพแฝงน้ำตาลตัวร้าย
การดูแลเท้าผู้สูงอายุ
ปวดหลัง ป้องกันได้ไม่ยาก
หลักการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคนิ่วไตและการเกิดนิ่วซ้ำ
เลือกกินไขมันให้เกิดประโยชน์กันดีกว่า
ไขมันแปลงสภาพ อันตรายที่แฝงเร้น
การขึ้น-ลงบันได: ประโยชน์ที่ถูกมองข้าม
การป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ
ขวดน้ำเพิ่มพลัง กระชับกล้ามเนื้อ
โรคภัยจากการอยู่ในอาคาร (Sick Building Syndrome)
ปวดไหล่แก้ไขได้
สุขนิสัยในการนอนเพื่อการหลับที่เป็นสุข
ความเครียดในชีวิตประจำวัน
วิธีคลายเครียดและหลีกเลี่ยงความเครียด
6 วิธีรักษารูปร่างให้ผอมเพรียวช่วงปิดเทอม
อาหาร 8 ชนิดเพื่อการนอนหลับอย่างเป็นสุข
เดินอย่างไรให้สง่างามและถูกสุขลักษณะ
อาหารเพิ่มพลังงาน ลดคลอเรสเตอรอล
มากินอาหารเช้ากันเถอะ
ทำอย่างไรให้คนใกล้ตัวเลิกบุหรี่สำเร็จ
ความเชื่อที่ผิด 5 ประการเกี่ยวกับการกิน
คลายเครียดง่ายๆ ใน 2-3 นาที
มองโลกในแง่ดีด้วยวิธีง่ายๆ
อาหารว่างสร้างสรรค์ 7 ชนิดเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี
เทคนิค 3 ประการเพื่อความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
วิธีสร้างเสริมสุขภาพสำหรับคนทำงานออฟฟิส
เปลี่ยนห้องทำงานให้ดีต่อสุขภาพ
ปรับมื้ออาหารอย่างไรให้หลับสบาย
4 วิธีง่ายๆ ป้องกันโรคภัยเบียดเบียน
คุยกับลูกเรื่องเซ็กส์
พื้นที่สีเขียวทำให้สุขภาพดีได้
8 วายร้ายที่ทำให้เราแก่ก่อนวัย
4 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพความจำ
ควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีรักษาสมดุลของร่างกาย
ไม่สูบบุหรี่ในที่สาธาณะมีผลดีต่อหัวใจของคนรอบข้าง
อาหารบำรุงดวงตา
แนวทางการรับประทานอาหารสำหรับสตรีสูงวัย
วิธีป้องกันไม่ให้เผลอกินเยอะโดยไม่รู้ตัว
อาหารว่างเพื่อสุขภาพสำหรับเด็ก
9 วิธีการดูแลเมื่อลูกเกิดความเครียด
ทำอย่างไรเมื่อลูกโดนแกล้งที่โรงเรียน
วิธีแนะนำให้ลูกรับมือกับความกังวล
เตรียมลูกอย่างไรไม่ให้อิจฉาน้อง
วิธีพาลูกเข้านอนที่พ่อแม่ควรทราบ
วิธีฝึกให้เด็กเล็กรู้จักควบคุมตนเอง
วิธีฝึกให้เด็กวัยเรียนรู้จักควบคุมตนเอง
ทำอย่างไรเมื่อลูกน้อยคุมตัวเองไม่อยู่
5 วิธีช่วยให้กินผักผลไม้ได้มากขึ้น
เรื่องที่พ่อแม่ควรรู้เกี่ยวกับบุหรี่และวัยรุ่น
เหตุผลดีๆ 5 ประการที่สาวๆ ควรเล่นกีฬา
ลูกๆ จะรับมือกับพ่อแม่ที่ติดเหล้าได้อย่างไร
วิธีสร้างบ้านรักการอ่านสำหรับลูก
เลือกหนังสือเป็นของขวัญกันเถอะ
สุขนิสัยในการดูโทรทัศน์สำหรับเด็ก
สุขนิสัยในการเล่นวิดีโอเกมและใช้อินเตอร์เน็ตสำหรับเด็ก
อโรมาเธราปีลดความเครียดในห้องทำงาน
5 วิธีวางแผนและจัดระเบียบในห้องทำงาน
วิธีสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในสถานที่ทำงาน
เทคนิคการแบ่งเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
6 วิธีคลายเครียดในที่ทำงาน
เทคนิคแก้ง่วงตอนบ่าย
อาหาร 8 ชนิดที่ควรเปลี่ยนเพื่อชีวิตที่ยืนยาวขึ้น




วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 20, 2554

วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 10, 2554

ขาดความทุกข์

 

ยายยิ้ม หญิงร่างเล็ก หลังงุ้ม ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสมชื่อ
อาศัยในบ้านไม้ที่เกือบเสร็จท่ามกลางป่าเขา
จ.พิษณุโลก อยู่ลำพังอย่างเดียวดาย ห่างไกลผู้คนและเงียบสงัด

เมื่อ 20 ปี ก่อน ยายมีบ้านอยู่ที่อำเภอพรหมพิราม พร้อมลูกหลาน
ตอนนั้นลูกชายคนเล็กตั้งใจจะมาบุกเบิกทำมาหากินบริเวณที่อยู่ปัจจุบัน
แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้ง ความไกล ไข้ป่า และความลำบาก
ส่งผลให้ลูกชายของยายเลือกที่จะไปขับรถแท๊กซี่ใน กทม.

และไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ และการไม่อยากเป็นภาระลูกหลานหรืออื่นๆ
ยายยิ้มจึงตัดสินครั้งสำคัญ อาศัยอยู่ที่บ้านในป่าผืนนั้น เป็นต้นมา

ลูกหลานขอร้องให้ยายกลับมาอยู่บ้านแต่ยายไม่กลับ
ลูกหลานจึงได้แต่มาเยี่ยมยายเป็นระยะรวมถึงการนำเสื้อผ้าผ้าห่ม
ข้าวสารอาหารแห้งมาให้ยาย ลูกชายคนที่ยังอยู่ในอำเภอพรหมพิรามบอกว่า
"แม่เขาจะบอกว่าไม่ต้องเอามาให้มากนะ ในชีวิตเขา แม่เขาไม่เคยอยากได้อะไรเลย
เคยถามเขาก็บอกว่า เขาพอแล้ว สมัยยังเด็กบ้านเราจนกันมาก
พ่อก็ตายตอนที่เรายังเล็ก ๆ แต่แม่คนเดียวก็หา
เลี้ยงลูกได้ มานึกดูแกต้องทำงานหนักมาก แม่ถึงเน้นสอนให้เข้มแข็ง
หนักเอาเบาสู้ไม่เลือกงาน"


ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาท่ามกลางขุนเขา ยายไม่มีนาฬิกา
แต่ทุกเวลาล้วนมีคุณค่า การมีชีวิตอยู่ของยายหมดไปกับการปลูกต้นไม้
ทำฝายเล็ก ๆ ที่ยายได้อาศัยในยามหน้าแล้งและยังเป็นสายธาร
หล่อเลี้ยงบรรดาสัตว์และต้นไม้บนผืนแผ่นดินนี้
และตั้งใจถวายในหลวงและพระราชินี ยายรักในหลวงและพระราชินีมาก

กิจวัตรประจำวัน ตื่นแต่เช้า จุดธูปไหว้พระ เก็บมุ้ง กระย่องกระแย่งมาจุดฟืนหุงข้าว
ตักข้าวสุกแรกเก็บไว้ ตักข้าวกินกับน้ำพริก หรือ ปลาแห้งที่เก็บไว้
ลงมากวาดลานบ้าน ซักผ้า หาบน้ำที่ลำห้วย ออกไปหาฟืนหาไม้ มาเก็บไว้


ก่อนจะคดข้าวใส่กล่อง น้ำพริก ใส่ย่าม สวมที่ขาดวิ่น ใช้พร้าแทนไม้เท้าเวลาเดิน
ข้ามห้วย ข้ามหนอง เข้าไปในป่าลึก ผ่านฝายเล็กๆ หรือคันนาที่ยายทำไว้ 11 ฝาย
เป็นคันดินที่ยายใช้ "จอบกับใจ" ค่อยๆขุดขึ้นมา กลายเป็นแอ่งน้ำเล็กๆกักเก็บน้ำ
พอให้สัตว์เล็กได้มาอาศัย ต้นไม้ชุ่มชื่น ระหว่างนั้นก็เอาข้าวมาโปรยให้สัตว์
ในแอ่งดินกันทำคันดินนี้เสร็จ ก็เข้าไปลึกเรื่อยๆ ที่ละฝาย ทีละฝาย
เวลาแต่ละวันผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ เหนื่อยก็พัก แล้วก็เดิน กลับบ้าน
ชีวิตยาย เป็นไปอย่างเรียบง่าย

ทุก ๆ วันพระ ยายจะเดินลงมาจากเขา ด้วยระยะทางเกือบ 8 กิโล
บวกกับวัยชราของยาย จึงทำให้ยายใช้เวลาใน การเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ศรัทธาของยายเสื่อมถอยลง ลำพังคนหนุ่มสาว
จะให้เดินขึ้นลงเขา สัก 7-8 กิโลเมตร ยังเล่นเอาเหงื่อตก
แต่สำหรับยายยิ้มถือเป็นกิจวัตรสม่ำเสมอทุกวันโกน วันพระเพราะไม่ว่าฝนจะตก
ฟ้าจะร้อง ยายก็ต้องไปถึงวัดไม่เคยขาด

ระยะทางไกลที่เต็มไปด้วยหล่มโคลน ถนนเป็นร่อง ขรุขระ ยายยิ้ม
จะออกเดินเท้าจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด เหนื่อยก็พัก ถึงวัดกี่โมงไม่รู้
รู้แต่เมื่อถึงวัดก็เปลี่ยนชุดชาว สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ทำความสะอาดวัด
ทำบุญ เมื่อกลับจากวัด แกก็จะมานับวันหลังจากนั้นไปถึงวันโกนวันพระอีกที
ก่อนที่เดินกลับบ้านในป่า ยายเลือกใช้ชีวิตเพียงลำพัง
และใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอย่างมีความสุขอีกครั้ง

เราขาดในสิ่งที่ยายยิ้มมี นั่นคือ ความพอเพียง ความศรัทธา ความไม่โลภ  
เรามีในสิ่งที่ยายขาด นั่นคือ ความทุกข์

พิธีกร : ข้าวสารอาหารแห้งเอามาจากไหน
ยายยิ้ม : ลูกหลานเข้าเอามาให้ เขาเอามาให้ก็ต้องกิน
           
เขาจะได้บุญและก็ต้องกินอย่างประหยัดๆ ไม่ฟุ่มเฟือย

พิธีกร : ฝนตกเปียกไหม
ยายยิ้ม : ก็หลบๆเอา ไม่ลำบาก
อย่าคิดว่ามันลำบาก


พิธีกร : เสื้อผ้า ขาดแล้วยังใส่อยู่
ยายยิ้ม : ลูกหลานเข้าเอามาให้ ใส่ไว้
เขาจะได้บุญ


พิธีกร : ลูกหลานอยากให้ไปอยู่ด้วยกัน
ยายยิ้ม : ไม่ใช่ว่าจะไม่พึ่ง แต่
ให้หมดค่าก่อนค่อยพึ่ง ป่วยไม่สบายไม่มีแรงค่อยพึ่งเขา


พิธีกร : ทำฝายไปให้ใคร
ยายยิ้ม : ให้ในหลวงพระราชินี ท่านเป็นถึงเจ้าแผ่นดินยังทำงาน เราก็ต้องทำให้ท่านบ้าง..
             ส่วนสิ่งที่ทำในหลวงไม่เห็นผีสางเทวดาก็เห็น

พิธีกร : ได้ประโยชน์อะไรจากฝาย
ยายยิ้ม : ในหลวงบอกมีฝายมีน้ำ มีป่า มีปลาเล็กเป็นอาหารนกอีกทีรวมถึงได้ใช้ยามหน้าแล้ง

พิธีกร : กลัวล้มไหมเวลาเดินไปไหน
ยายยิ้ม : กลัวแต่ก็ต้องทำ ทำแล้วมีความสุข

พิธีกร : เหนื่อยไหมที่ทำมา
ยายยิ้ม : เหนื่อย แต่ทำแล้วมีความสุข

พิธีกร : เดินไปวัดลำบาก เหนื่อยไหม
ยายยิ้ม : เหนื่อยก็พัก แล้วเดินต่อ
ทางไปสวรรค์มันรก ทางไปนรกมันเรียบ เห็นพระก็หายเหนื่อย


พิธีกร : สรุปว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ
ยายยิ้ม : คนอื่นว่าลำบากแต่ถ้าเราคิดว่ามันเป็นสวรรค์มันก็ไม่ลำบาก

พิธีกร : ยายมาทำบุญทุกวันพระไหม
ชาวบ้าน : ยายมาประจำแหละ ยายแกชอบทำบุญ ได้เบี้ยเดือน 500 แกยังทำบุญหมดเลย

พระ (กางมุ้งให้ยายนอนในศาลาวัด) : ไม่บาปหรอกยาย ช่วยๆกัน ดูแลกัน
ยาย (นั่งยิ้มด้วยความจำนน)
ยาย เอาเงินที่เก็บๆรวมถึงเงินที่ชาวบ้านให้ไว้มาทำบุญ
ยาย อวยพรให้และภาวนาให้คนที่ทำบุญด้วย
พิธีกร : ยายรู้จักเขาเหรอ
ยายยิ้ม : (ยิ้ม) ไม่รู้จักหรอก เห็นบอกว่าจะบวชก็เลยทำบุญ
            ให้ยายทำบุญนะ (สงสัยคงจะเป็นเงินที่ทางรายการให้)
พิธีกร : ทำเถอะยาย ไม่ว่าอะไรหรอก

พิธีกร : ยายมีของแค่นี้เหรอ (หยิบกระเป๋าใบเล็กที่บรรจุเสื้อผ้า หยูกยาที่จำเป็น บัตรประชาชน)
ยายยิ้ม : แค่นี้แหละเตรียมไว้ เวลาเจ็บป่วยขึ้นมา เอาไปใบเดียว คนอื่นจะได้ไม่ลำบากหา

พิธีกร : จะไม่เป็นการแช่งตัวเองหรือ
ยายยิ้ม : ยิ่งเจ็บ ยิ่งต้องพึ่งตัวเอง ยิ่งต้องเตรียมตัว

พิธีกร : เวลายายไปตัดไม้ไผ่ ทำฝายไม่เกินกำลังเหรอ เอาแรงมาจากไหน
ยายยิ้ม : หัวเราะเบาๆแล้วตอบว่า มันเกินกำลังอยู่แล้วล่ะ แต่ต้องมีความพยายามยายบอกวันนี้หมดแรง นอนพัก พรุ่งนี้แรงก็มาใหม่

พิธีกร : ยายยังขาดอะไรอีกในชีวิต
ยายยิ้ม : ยายยิ้มสมกับชื่อ แล้วตอบอย่างภาคภูมิใจว่า
ขาดความทุกข์



 

วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 08, 2554

ซักผ้ากันเองหรือเปล่า

ชอบแช่ผ้าไว้นานๆก่อนซัก

คนที่มีนิสัยการซักผ้าแบบนี้ แสดงว่าเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องจุกจิก หยุมหยิม รักความสะดวกสบายเป็นพิเศษ ไม่ชอบความลำบากนัก แต่เมื่อถึงครวต้องสู้หรือต้องทำอะไรก็จะ ทำให้ดีที่สุด และก็มักจะเป็นคนขี้เกียจนิดๆ

มีนิสัยชอบผลัดวันประกันพรุ่ง บางครั้งอาจตกปากรับคำให้สัญญากับใครง่ายๆแต่ก็ด้วยน้ำใสใจจริงเป็นที่ตั้ง

ชอบแช่ผ้าไว้สักครู่หนึ่งก่อน 

ส่วนคนที่ก่อนซักผ้า ก็จะแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกก่อนชั่วครู่ แสดงว่าเป็นคนที่มีระเบียบแบบแผน และรักความสะอาด ชอบความเรียบร้อย มักจะเป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้ มีใจกว้าง รักเพื่อน 

แต่อีกด้านหนึ่งคือเป็นคนที่มีความตั้งใจสูงไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตาม ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆ ก็จะไม่ท้อถอยกลางคัน ยกเว้นว่ามีความอึดอัดใจก็จะไม่ยอมทนเด็ด ขาด

ชอบแยกผ้าเป็นหมวดหมู่ก่อนซัก

คนที่เวลาจะซักผ้าแล้วชอบแยกผ้าขาว ผ้าสีออกจากกัน หรือแยกเสื้อ กางเกง ชุดชั้นใน ออกไว้เพื่อซักเป็นหมวดหมู่ขั้นตอน แสดงว่าเป็นคนรอบคอบ มักมีความฝันหรือจุด หมายพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งในชีวิต

นอกจากนี้ยังเป็นคนไม่กลัวงานหนัก เมื่อพบปัญหาจะพยายามแก้ไข ถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกหดหู่ท้อแท้ แต่เมื่อมีกำลังใจก็จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เป็นคนขยัน ชอบอยู่ในที่โล่งที่ มีอากาศบริสุทธิ์ และรักธรรมชาติมาก

ชอบซักผ้าปนกันไปหมด 

ส่วนคนที่ซักผ้าปนกันไปหมด ไม่มีแยกผ้าสีขาวหรือเสื้อกางเกงใดๆ แสดงว่าเป็นคนที่ไม่ใส่ใจเรื่องละเอียดหยุมหยิม จัดการสิ่งต่างๆได้ไม่ดีนัก ค่อนข้างจะไร้ระเบียบพอ สมควร แต่ว่ามักมีความสนใจในเรื่องศิลปะ

นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ไม่มีฝีมือในเรื่องการบ้าน งานครัว แต่สำหรับงานอื่นๆในสังคม ก็เอาตัวรอดได้โดยไม่ยาก เป็นคนรักเพื่อนเช่นกัน แต่อาจหงุดหงิดง่ายกับเพื่อนที่มี ทัศนะความคิดเห็นไม่ตรงกัน

ชอบซักผ้าแบบรีบเร่ง

คนที่ชอบซักผ้าแบบรีบเร่ง ต้อแงการให้เสร็จเร็วๆนั้น แสดงว่าเป็นคนที่ใจร้อน มีความกระตือรือร้นสูง รักอิสระ แต่ว่าก็มักจะเบื่อง่าย สนใจอะไรได้ไม่ยาวนาน

นอกจากนี้ยังเป็นคนตรงๆ ชอบพูดอย่างที่ใจคิด โดยไม่สนใจคนฟัง และยังมีความทะเยอทะยานสูง เมื่อต้องการสิ่งใดก็จะพยายามไขว่คว้ามาให้ได้ ในด้านความรักเป็นคนที่ เจ้าชู้ทีเดียว ชอบความหวือหวาเปลี่ยนแปลงที่ทำให้หัวใจตื่นเต้น

ชอบซักผ้าอย่างประณีต 

สำหรับคนที่ซักผ้าอย่างประณีตไปทุกขั้นตอน ใส่ใจกับทุกรอยเปื้อนบนเนื้อเผ้า แสดงว่าเป็นคนใจเน็น รู้จักหน้าที่ของตัวเงดี และเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง แต่ก็ไม่ชอบ ความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆที่ตั้งรับไม่ทัน

และยังเป็นคนติดที่ เมื่อมีความทรงจำหรือประทับใจอะไรที่ไหน ก็จะแวะเวียนไปหรือพูดถึงเสมอๆ เป็นคนที่ชอบความปลอดโปร่งผ่อนคลาย ชอบการสะสางแก้ไขปัญหาไม่ ให้คั่งค้าง ไม่ชอบเรื่องที่ซีเรียสหนักๆชวนปวดหัว

ชอบซักผ้าบ่อยๆ แต่ต้องทีละไม่มาก

ส่วนคนที่ซักผ้าทีละนิด ซักน้อยๆแต่ซักบ่อยนั้น แสดงว่าเป็นคนที่มักจะคิดก่อนทำ หรือคิดก่อนพูด ทำอะไรก็จะไตร่ตรองวางแผนไว้

แม้บางครั้งวางแผนพลาดไปก็จะเก็บเอา ประสบการณ์มาเป็นบทเรียน เป็นคนระวังตัว ไม่ประมาท แต่ด้านความรักมักไม่กล้ารักใครแบบทุ่มเท อย่างไรก็ตามจะต้องเผื่อใจเอาไว้ จนหลายๆครั้งก็ฝืนใจตัวเอง

ไม่ชอบซักผ้าเอาเสียเลย 

ส่วนคนที่ไม่ชอบซักผ้าเอาเสียจริงๆ ถ้าเลี่ยงหรือเลือกได้ก็จะดีใจมาก แสดงว่าเป็นคนที่รักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาคาดหวังตัวเอง และตัวเองก็มักไม่คาดหวังคนอื่น เป็นคนใจดี มีโลกส่วนตัวอยู่พอสมควร

บางครั้งอาจเงียบขรึม บางครั้งอาจร่าเริง เป็นคนที่เดาใจยากพอสมควร แต่นิสัยที่โดดเด่นคือเป็นคนใจร้อน เบื่อง่าย แต่ถ้าลุ่มหลงติดพันสิ่งใดก็จะผูกพันอยู่นาน (จนกว่าจะ เบื่อ...อีกนั่นแหละ)

 

วันพุธ, กุมภาพันธ์ 02, 2554

ก่อนจ่ายภาษี อย่าลืมหักค่าค้างแรมในประเทศ

เพื่อนที่ยังไม่จ่ายภาษี อย่าลืมดูข้อนี้นะครับ

 

รายการลดหย่อนและยกเว้นหลังจากหักค่าใช้จ่าย

12.

ค่าการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ

 

ค่าการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ (คู่สมรส)

 

 

 

การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่ได้จ่ายไปในระหว่างวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ 
(
๑) เป็นผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท 
(
๒) กรณีผู้มีเงินได้ซึ่งมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีมีคู่สมรส
      (ก) กรณีสามีหรือภริยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้ยกเว้นภาษีให้แก่สามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ตามจำนวนที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

      (ข) กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ โดยความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี และภริยาจะใช้สิทธิแยกยื่นรายการและเสียภาษีต่างหากจากสามีตามมาตรา 57 เบญจ แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ก็ตาม ให้สามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินคนละ ๑๕,๐๐๐ บาท ถ้าความเป็นสามีภริยามิได้มีอยู่ตลอดปีภาษีที่ได้รับยกเว้นภาษี ให้สามีและภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินคนละ ๑๕,๐๐๐ บาท

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๘๗)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้
สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจ
นำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม
ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
-----------------------------------------------------

                       อาศัยอำนาจตามความในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๗๘ (พ.ศ. ๒๕๕๓) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ดังต่อไปนี้

                       ข้อ ๑ ในประกาศนี้
                                        
ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
                                        
ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

                       ข้อ ๒ การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่ได้จ่ายไปในระหว่างวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ 
                                        (
๑) เป็นผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินไดตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท 
                                        (
๒) กรณีผู้มีเงินได้ซึ่งมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีมีคู่สมรส
                                              (
ก) กรณีสามีหรือภริยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้ยกเว้นภาษีให้แก่สามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ตามจำนวนที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท
                                              (
ข) กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ โดยความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี และภริยาจะใช้สิทธิแยกยื่นรายการและเสียภาษีต่างหากจากสามีตามมาตรา 57 เบญจ แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ก็ตาม ให้สามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินคนละ ๑๕,๐๐๐ บาท ถ้าความเป็นสามีภริยามิได้มีอยู่ตลอดปีภาษีที่ได้รับยกเว้นภาษี ให้สามีและภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินคนละ ๑๕,๐๐๐ บาท

                       ข้อ ๓ ผู้มีเงินได้ต้องเป็นผู้จ่ายค่าบริการตามข้อ ๒ เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวของผู้มีเงินได้

                       ข้อ ๔ ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานการรับเงินจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวหรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยระบุชื่อผู้มีเงินได้ จำนวนเงิน วัน เดือน ปี ที่จ่ายเงิน

                       ข้อ ๕ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ ให้ผู้มีเงินได้มีสิทธินำเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีไปคำนวณหักจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ แห่งประมวลรัษฎากร หลังจากหักค่าใช้จ่ายตามมาตรา ๔๒ ทวิ ถึงมาตรา ๔๖ แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว

                       ข้อ ๖ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

สาธิต รังคสิริ
(
นายสาธิต รังคสิริ) 
อธิบดีกรมสรรพากร

วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 01, 2554

3 x 8 = 23


เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ  
มีอยู่วันหนึ่ง เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อม อยู่ที่หน้าร้านขายผ้า จึงเข้าไปสอบถามดู
จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า 
 
ด้ยินลุกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า “3x8ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย24เหรียญล่ะ!” 
เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า 
พี่ชาย 3x8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง?   พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก 
 
คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า   
 
ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินเรื่องนี้ได้ก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น   ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน 
 
เอี่ยนหุยกล่าวว่า ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?” 
คนซื้อผ้ากล่าวว่าหากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?” 
 
อี๋ยนหุยกล่าวว่า หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)” 

ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น
 
เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า 
 
“3x8ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย  เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย” 

เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้ 

ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป 

ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น 

เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป
 
พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ
 
ขงจื้อรู้ว่าเอี๋ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้สอบถามมากความ อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้ 

ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว
 
พร้อมกันนั้นก็ได้กำชับว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง
 
เอี๋ยนหุยคำนับพร้อมกล่าวว่า “ิษย์จะจำใส่ใจ” แล้วลาอาจารย์ออกเดินทาง
 
เมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่
 
จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัยอยู่ไต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ที่ว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่  อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง” 

เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานาน ลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง คิดได้ดังนั้น จึงเดินออกจากต้นไม้ใหญ่ 

ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมาให้เห็นต่อหน้าต่อตาเอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด 
 
คำกล่าวของพระอาจารย์ประโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รู้สาเหตุ?
 
เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้านเลยใช้ดาบที่นำติดตัวมาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา 
เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน!
 
เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง
 
เสียงกำชับของอาจารย์ก็ดังขึ้นมา อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง
 
เมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง 

พอฟ้าส่าง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนัก 
เมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าวว่า  “ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้
 
ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์บ้าง?” 

ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า “เมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่
 
จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่
 
และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย
อาจารย์จึ้งเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”
 
เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ ท่านอาจารย์คาดการดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน
 
ขงจื้อจึงตักเดือนเอี๋ยนหุยว่า อาจารย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก ที่จริงแล้วเธอคิดว่าอาจารย์แก่แล้ว ความคิดเลอะเลือน ไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว
 
เธอลองคิดดูสิ อาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 23 
 
เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก
 
หากอาจารย์บอกว่า 3x8ได้ 24 เขาแพ้ นั่นหมายถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง เธอคิดว่าหมวกหรือชีวิตสำคัญล่ะ? ”

เอี๋ยนหุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่า 
 
ท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะเลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด
 
จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่เคยห่างกาย 

จากตำนานเรื่องเล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเพลงๆหนึ่งของอิวเค่อหลี่หลิน(นักร้องดูโอของไต้หวัน)
 
ที่ร้องว่า หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง
 
เช่นกัน บางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ” 

เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้ แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต 

เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างาม 

 
ทะเลาะกับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก) 

ทะเลาะกับเถ้าแก่ ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ตรวจผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก) 

ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน) 

ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปเลย) 

ใบชา เกิดสีสวยและกลิ่นหอมน่าลิ้มลองได้ ก็เพราะโดนน้ำร้อนลวก 
ชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน เพราะเผชิญกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า 
จึงเหลือไว้ซึ่งเรื่องราวเป็นตำนานให้ได้เล่าขานน่าตามติด
 
ผู้ที่รู้สำนึกคุณอยู่เสมอ จึงเป็นผู้มีวาสนามากที่สุด
 
 
 
-----------------------------------------------------------------------
 
 
ถูกต้อง ถูกใจ ถูกแล้ว ถูกที่ถูกทาง ถูกที่สุด  ถูกกาละเทศะ โอ้ย ถูกของแน่ อ่านแล้วมึน