วันอาทิตย์, มกราคม 31, 2553

วิดีโอสั้น




short porches shot

พี่ชายเอากล้องมาให้ลบไวรัสในการ์ด เจอวีดิโอปอเช่ครับ

คิดถึงจัง ยิ่งเวลากินข้าวต้มกระดูกหมู คิดถึงทุกครั้ง

วันอังคาร, มกราคม 26, 2553

ปวดท้อง


อาการปวดท้องมักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ 
  
แต่ส่วนมากเราจะไม่ค่อยรู้สาเหตุว่าปวดเพราะอะไร ทนได้ก็ทน แค่ถ้าทนไม่ได้ถึงจะกินยาแก้ปวด มูลนิธิหมอชาวบ้านจึงให้คำแนะนำว่า หน้าท้องแข็งเป็นดาน กดแล้วเจ็บ หรือกดแล้วท้องยุบลงไป แต่เจ็บทันทีที่ปล่อยมือ มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระมีสีดำ ปัสสาวะไม่ออกหรือถ่ายเป็นเลือด หน้าซีด เป็นลม ตัวเย็น เหงื่อออก ไม่รู้สึกตัว เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลือง อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือข้อใดข้อหนึ่ง ต้องรีบไปหาหมอทันที 


เราสามารถแบ่งบริเวณที่ปวดท้องได้เป็น 9 ส่วน คือ 


1. ชายโครงขวา คือตับและถุงน้ำดี 

    อาการที่พบมักจะกดแล้วเจอก้อนแข็งร่วมกับอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่า อาจเป็นโรคเกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดี เช่น ตับอักเสบ ฝีในตับ ถุงน้ำดีอักเสบ 


2. ใต้ลิ้นปี่ คือ กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ตับ และกระดูกลิ้นปี่ 

       - ปวดเป็นประจำเวลาหิวหรืออิ่ม อาจเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะ 

       - ปวดรุนแรงร่วมกับคลื่นไส้อาเจียน อาจเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ 

        - คลำเจอก้อนเนื้อค่อนข้างแข็งและมีขนาดใหญ่ อาจหมายถึงตับโต 

        - คลำได้ก้อนสามเหลี่ยมแบนเล็กๆ มักเป็นกระดูกลิ้นปี่ 


3. ชายโครงขวา คือ ม้าม ซึ่งมักจะคลำเจอก้อนเนื้อบริเวณนี้ 


4. บั้นเอวขวา คือท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่ 

    - ปวดร่วมกับถ่ายอุจจาระผิดปกติหรือถ่ายเป็นเลือด อาจเป็นเพราะลำไส้ใหญ่อักเสบ 

    - ปวดร้าวถึงต้นขา อาจเป็นนิ่วในท่อไต 

    - ปวดร่วมกับปวดหลัง มีไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่น อาจเป็นกรวยไตอักเสบ 

    - คลำเจอก้อนเนื้อ อาจเป็นไตโตผิดปกติหรือเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ 


5. รอบสะดือ คือ ลำไส้เล็ก มักพบในโรคท้องเดินหรือไส้ติ่งอักเสบ (ก่อนจะย้ายมาปวดท้องน้อยขวา) แต่ถ้าปวดแบบมีลมในท้อง ก็อาจเป็นเพราะกระเพาะลำไส้ทำงานผิดปกติ 


6. บั้นเอวซ้าย คือ ท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่ (เหมือนข้อ 4) 


7. ท้องน้อยขวา คือ ไส้ติ่ง ท่อไต และปีกมดลูก 

   - ปวดเกร็งเป็นระยะ ร้าวมาที่ต้นขา อาจเป็นเพราะมีก้อนนิ่วในกรวยไต 

    - ปวดเสียดตลอดเวลา กดแล้วเจ็บมาก มักเป็นไส้ติ่งอักเสบ 

   - ปวดร่วมกับมีไข้สูง หนาวสั่น มีตกขาว มักเป็นเพราะปีกมดลูกอักเสบ 

   - คลำแล้วเจอก้อนเนื้อ อาจเป็นก้อนไส้ติ่งหรือรังไข่ผิดปกติ 


8. ท้องน้อย คือ กระเพาะปัสสาวะและมดลูก 

   - ปวดเวลาถ่ายปัสสาวะหรือถ่ายกระปริบกระปรอย มักเป็นเพราะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ 

  - ปวดเกร็งเวลามีประจำเดือน เป็นอาการปวดประจำเดือน แต่ในรายที่ปวดเรื้อรังในหญิงแต่งงานแล้วไม่มีบุตร อาจเป็นเนื้องอกในมดลูก 


9. ท้องน้อยซ้าย คือ ปีกมดลูกและท่อไต 

   - ปวดเกร็งเป็นระยะและร้าวมาที่ต้นขา มักเป็นนิ่วในท่อไต 

    - ปวดร่วมกับมีไข้ หนาวสั่น ตกขาว เป็นเพราะมดลูกอักเสบ 

    - ปวดร่วมกับถ่ายอุจจาระผิดปกติ อาจเป็นเพราะลำไส้ใหญ่อักเสบ 

     - คลำพบก้อนร่วมกับอาการท้องผูกเป็นประจำ อาจเป็นเนื้องอกในลำไส้. 

จาก หนังสือ ชีวจิต

วันจันทร์, มกราคม 25, 2553

Advanced System Care (Care you computer)

Rating:★★★
Category:Computers & Electronics
Product Type: Computers
Manufacturer:  iobit


free download http://www.iobit.com/advancedwindowscareper.html

Care you computer

Advanced SystemCare เป็นโปรแกรมที่ช่วยดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา และยังเน้นในเรื่องของการลบสปายแวร์, ทำความสะอาดรีจิสทรี

คุณสมบัติเด่นของโปรแกรม Advanced SystemCare
สามารถลบไฟล์ขยะที่อยู่ในเครื่องของเรา
การดูแลในส่วนของ Registry
การทำความสะอาหรือลบ Cookie ที่มาจากการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว
การลบ Junk File หรือไฟล์ที่เสี่ยงต่อความปลอดภัย
ปรับปรุงระบบเพื่อช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ช่วยในการ Defragment อย่างรวดเร็ว ข้อนี้เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจสุดๆ
สามารถจัดการ Ram ในส่วนที่ไม่ได้ใช้งานให้กลับมาใช้งานในระบบ
ความสามารถในการ Back Up driver
สามารถป้องกันสปายแวร์และการบุกรุกอื่นๆ
ลบสปายแวร์เมื่อตรวจพบ
และจุดเด่นอีกหลายอย่าง
FreeWare : ผู้พัฒนาแจกให้ใช้งานฟรี

Advanced SystemCare™ Free v3
Trusted by 35 Million Users to Care for Their PCs

Advanced SystemCare Free (formerly Advanced WindowsCare Personal) has a one-click approach to help protect, repair, clean, and optimize your PC. With over 35 MILLION downloads since 2006, this fantastic, award-winning free registry cleaner and system optimizer is a "must-have" tool to speed up your slow computer. 100% safe with no adware, spyware, or viruses; a PC maintenance program that’s incredibly easy to use.

Why waste money on expensive "registry cleaners" to fix your PC when Advanced SystemCare Free will repair, tune, and maintain it for you – for free!
You’re just minutes away from a faster, more stable and error-free PC

Key Benefits
Enjoy That New PC Feeling Again New!
Whatever version of Windows you’re running, enjoy that “good as new” speed usually only experienced on a brand new PC.
Powerful Hard Drive Defragmentation New!
Fast, powerful and incredibly effective Disk Defrag function to defragment hard drives - up to 10 times faster than other defragmentation tools.
Next-generation Free Windows XP/Vista/7 Registry Cleaner and System Optimization New!
Safely clean registry junks, compact registry bloat and defragment the registry for blistering-fast performance.
Defends PC Security with Extra Protection Improved!
Secure your PC – quickly and easily. Scans and removes spyware and adware using up-to-date definition files. Prevents spyware, hackers and hijackers from installing malicious items on your computer. Erases and updates your PC’s activity history with this powerful free XP registry cleaner. Security and Privacy assured!
Quick and Extensive Clean-up for Hard Drives Improved!
Boosts your system’s performance with Advanced SystemCare Free, the powerful free XP registry cleaner by cleaning missing files, destroying unwanted files, deleting obsolete files, and removing junk files. Supports deep-cleansing of more than 50 types of junk files.
Speeds Up PC Performance and Internet Access Improved!
Tunes up Windows by releasing the built-in power of your system. Dramatically improves both system and Internet performance by up to 400%.
Fixes Multiple System Errors Improved!
More than a mere free XP registry cleaner – keeps your PC stable and running at peak efficiency. Eliminates system bottlenecks and prevents crashes.
Extremely Easy to Use
Completes its work with just one click! Scans, repairs and secures your PC in one minute.
Safe and Free
100% free with no spyware or adware! Advanced SystemCare Free is a safe and trusted PC protection and maintenance solution from a leading software vendor.


ให้สามดาว เพราะยังใช้ไม่หมดทุกด้าน และดูมันจะเก่งมากเกินไปหุหุ

วันอาทิตย์, มกราคม 24, 2553

แก้ปวดหัว

หลานสาว (ในเนต) ส่งเมล์มาให้อ่าน 

อ่านแล้วก็พิจารณาเผยแพร่ครับ   แบบว่าเป็นคนไม่ค่อยปวดหัว เลยไม่รู้ว่าได้ผลไหม

หาหนูทดลองดีกว่า

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อาการปวดหัวทั่วไป: 

1. หัวโน
เอา ดินสอพองหรือแป้งทาตัวเด็กผสมกับน้ำมะนาวให้พอเหลว พอกตรงที่ใน ปล่อยทิ้งไว้ ๖ ชั่วโมง จึงเปลี่ยน ยานี้ถ้ารีบทำใหม่ๆ จะเห็นผลชัดมาก

2. ปวดหัวเพราะเครียด
เอา ผ้าชุบน้ำร้อนวางที่หลังคอ และนวดบริเวณคอ ไหล่ และร่องสะบัก และใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นค่อยๆคลึงที่ ขมับเบาๆ และใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดหน้าอีก
...............................................................................................
# ปวดหัว มักเกิดจากการคิดมาก ขาดการออกกำลัง การอดนอน
ขนานที่ ๑ เอาใบมะยมแก่ทั้งก้านและใบ ๑ กำมือ ต้มกับน้ำตาลกรวดกินต่างน้ำ
ขนานที่ ๒ ให้ชงชาแก่ๆ อุ่นๆ บีบน้ำมะนาวครึ่งลูกลงไปแล้วดื่ม อยู่นิ่งสัก ๕ นาที
ขนานที่ ๓ เอากาฝากมะม่วงทั้งต้น ต้มกินต่างน้ำ
ขนานที่ ๔ เอาว่านหางจระเข้มาฝานเป็นแผ่นบางๆ เอาปูนแดงทาบางๆ ปะที่ขมับ หมั่นเปลี่ยนเมื่อรู้สึกร้อน
ขนานที่ ๕ เอามะนาวมาฝานเป็นแว่นบางๆ เอาปูนแดงทาบางๆ แปะที่ขมับ หมั่นเปลี่ยนเมื่อรู้สึกร้อน
...............................................................................................
3. ปวดหัวจากความดันโลหิตสูง
ขนาน ที่ ๑ เอาขึ้นฉ่ายสดทั้งต้น ๑ กำมือ ตำคั้นเอาน้ำกิน (ให้ทำกินได้เพียงครั้งเดียว ห้ามทำกินซ้ำ เพราะจะทำให้ความดันลดลงมากเกินไป 
ขนานที่ ๒ เอาใบมะยมแก่ทั้งก้านและใบ ต้มกับน้ำตาลกรวดกินต่างน้ำ
ขนานที่ ๓ ใช้กาฝากมะม่วงทั้งต้นต้มกินต่างน้ำ


  mad ลักษณะอาการปวดหัวแต่ละแบบ : 

ปวดหัวจากความเครียด 

มีอาการปวดบริเวณรอบศีรษะ รู้สึกมมึนๆเหมือนสมองถูกบีบ มักเกิดจากความเครียดหรืออาการอ่อนเพลีย การพักผ่อนให้เพียงพอหรือนวดบริเวณต้นคอและขมับจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวชนิด นี้ได้ หรือจะใช้วิธีการฝึกหายใจเข้าออกช้าๆ และหายใจลึกๆและสำหรับการทำงานที่ติดต่อกันหลายชั่วโมงก็ควรจะหยุดพักเป็น ระยะๆ รวมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยป้องกันการเกิดอาการปวดหัวชนิดนี้ได้ค่ะ 


ปวดหัวจากแอลกฮอล์ 

มักมีอาการปวดบริเวณเบ้าตา ,ถ้าคืนไหนคุณดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์มากเกินไปก่อนเข้านอนควรจะดื่ม น้ำตามมากๆด้วยเนื่องจากน้ำจะช่วยต้านฤทธิ์ของแอลกฮอล์ได้ส่วนรุ่งเช้าควร ดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้ จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากเมาค้างได้ 


ปวดหัวจากไซนัส 

จะมีอาการปวดบริเวณดั้งจมูกและเบ้าตาวิธีการบรรเทาอาการปวดหัวแบบนี้ ต้องพึ่งยาลดน้ำมูก เพื่อให้จมูกโล่ง หรืออาจจะใช้วิธีประคบด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น การจิบเครื่องดื่มอุ่นๆก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่ถ้าคุณมีไข้ ควรจะหาหมอด้วยนะคะ 


ปวดหัวจากคาเฟอีน 

จะมีอาการปวดตุ๊บๆบริเวณด้านบนของศีรษะอาการส่วนใหญ่จะคล้ายๆกับปวดหัวที่ เกิดจากความเครียด ถ้าคุณปวดหัวแบบนี้ การพักผ่อนให้เต็มอิ่ม จะช่วยได้ดีทีเดียว การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และการนอนเป็นเวลาจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการปวดหัวชนิดนี้ได้แต่ถ้าคุณติด กาแฟ ก็ควรจะดื่มให้เป็นเวลา(เวลาเดียวกันทุกวัน) และดื่มเพียงวันละ1-2 แก้ว จะดีกว่า 


ปวดแบบไมเกรน 

จะ มีอาการปวดตุ๊บๆ บริเวณศีรษะข้างใดข้างหนึ่งบางคนอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดไมเกรนนั้น เชื่อว่าเกิดจากระดับฮอร์โมนผิดปกติ อาหารบางชนิดอาจทำให้บางคนเกิดอาการไมเกรนกำเริบมากขึ้นได้ เช่น ไวน์แดง เนื้อสัตว์แปรรูป ผงชูรสการเปลี่ยนแปลงของอากาศ เช่นร้อนอบอ้าวเกินไปความหิว ความตื่นเต้น การเดินทางหลายๆแห่งในช่วงเวลาสั้นๆ อาจทำให้เกิดไมเกรนได้คนที่เป็นไมเกรนบ่อยๆ จึงควรหมั่นสังเกตว่าเกิดจากปัจจัยอะไรจะได้หลีกเลี่ยงได้ การเข้านอนเป็นเวลา และหลับให้เต็มตา จะช่วยผ่อนคลายอาการไมเกรนได้ ส่วนเซ็กส์ที่สุขสมนั้น มีงานวิจัยยืนยันว่า เป็นยาขนานเอกในการบำบัดอาการไมเกรนกันทีเดียว 

 อาการปวดหัวนั้น ไม่จำเป็นที่คุณต้องพึ่งยาเสมอไป ลองมาบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติดูก่อนดีไหมคะ pillmedical

1. บำบัดด้วยน้ำ 

วางถุงน้ำแข็งบนหน้าผาก หรือจะใช้ผ้าเย็น ๆ โพกศีรษะก็ได้ค่ะทำไปพร้อมกับการแช่เท้าในน้ำอุ่น ค่อย ๆเพิ่มความร้อนของน้ำขึ้น ใช้เวลา 15-20 นาที อาการปวดหัวจะทุเลาลงค่ะ 


2. งดอาหาร 

อาหารแสลงบางชนิด เช่น เนื้อรมควัน ชอคโกแล็ค ผงชูรส ไส้กรอก เบคอน และ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน มักเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดหัวได้ 


3. ใช้วิตามิน 

การขาดวิตามิน B- COMPLEX อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ลองมองหาอาหารที่มี วิตามินบีมาก ๆ เช่น ผักโขม กะหล่ำปลีข้าวซ้อมมือ และอาหารธัญพืชต่าง ๆ 


4. ขิง 

มีงานวิจัยพบว่า ขิงมีคุณสมบัติในการแก้ไมเกรน หากมีอาการปวดหัวในช่วงบ่าย ๆ ลองจิบน้ำขิงอุ่น ๆ สักแก้ว ถ้าไม่สะดวกจะต้มเอง ขืงผงบรรจุซอง ก็สะดวกดีค่ะ 


5. น้ำมันหอม 

น้ำมันหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ มีคุณสมบัติในการลดความกระวนกระวายใจได้ ลองนำมานวดบริเวณขมับ ไรผม และต้นคอ จะช่วยผ่อนคลายได้ 


6. นวด 

การนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ หาใครสักคนมาคอยนวดที่ต้นคอ และช่วงไหล่หรือจะนวดเองก็ได้ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดค่ะ 


7. ไปเดินเล่นสักห้านาที 

การเดินเล่นจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดฟินส์ ซึ่งเป็นยาแก้ปวดขนานเอก 


8. ดนตรีบำบัด 

ถ้าคุณปวดหัวจากความเครียด ในทางการแพทย์ค้นพบว่า ดนตรีช่วยบำบัด อาการได้ โดยเฉพาะดนตรีทีมีท่วงทำนองเรียบง่ายฟังสบาย ๆ อาจมีสรรพเสียง ของธรรมชาติ เช่น เสียงนกร้องเกลียวคลื่น เสียงนก หรือลมฝน จะช่วยกล่อมจิตใจให้สงบนิ่งขึ้นช่วยลดความตึงเครียดได้ 


เป็นวิธีแก้อาการปวดหัว แบบธรรมชาติกันจริงๆ ใครชอบแบบไหนก็ลองทำดูนะคะ รับรองว่าไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ถ้าทำทุกวิธีแล้วยังไม่หาย ก็ก็ถึงเวลาที่คุณควรไปพบแพทย์แล้วล่ะค่ะ

 ประเภทอาหารที่คนปวดหัวบ่อย ควรหลีกเลี่ยง : 
cakecheeseburgerbeerchocolatemad

คน ที่มีอาการปวดหัวเรื้อรัง ปวดหัวบ่อยๆ นักวิจัยเขาแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสาร Tyramines และ Nitrite เพราะบางคนอาจจะมีความไวต่อสารสองชนิดนี้ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดและระบบประสาท ทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ 


ช็อกโกแลต ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยที่เป็นไมเกรน จะมีอาการกำเริบขึ้นทุกครั้งที่กินช็อกโกแลต คนที่ชื่นชอบช็อกโกแลต อย่าเพิ่งเศร้าใจนะคะ เพราะนักวิจัยเขาบอกต่ออีกว่า ช็อกโกแลตชนิดขาวกินได้ไม่ทำให้ปวดหัวหรอกค่ะ 


ไวน์ แดง ผลการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มไวน์แดง จะเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มวอดก้ามะนาว ซึ่งไม่เกิดอาการดังกล่าว ผู้ที่มีอาการไมเกรนเรื้อรัง ควรหลีกเลี่ยงไวน์แดงจะดีกว่า 


กุนเชียง เนื้อแดดเดียว เป็นอาหารที่ผ่านกรรมวิธีทำให้มีสีแดงโดยเติมดินประสิวลงไป ซึ่งก็คือสาร Nitrite ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการปวดหัวได้ 


ลูกชิ้นเด้งทั้งหลาย ผู้ผลิตบางรายจะใส่สารบอแร็กซ์ ซึ่งเป็นสารอันตราย ทำให้บางคนเกิดอาการปวดหัว คลื่นใส้ และอาเจียนได้ 


สาร ให้ความหวานแทนน้ำตาล สำหรับคนที่มีอาการปวดหัวเรื้องรัง ควรหลีกเลี่ยง เพราะผลการวิจัยระบุว่า ผู้ป่วยไมเกรนจะมีอาการกำเริบขึ้นเมื่อกินสารชนิดนี้เข้าไป 


แม้อาการปวดหัว อาจจะไม่ได้เกิดจากอาหารเหล่านี้โดยตรง แต่สำหรับคนที่เป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง ควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่าค่ะ


โดย: DR. NO 

วันอังคาร, มกราคม 19, 2553

Zoomit โปรแกรมขยายจอภาพ

Rating:★★★★★
Category:Computers & Electronics
Product Type: Computers
Manufacturer:  By Mark Russinovich
ใช้เวลา พรีเซ้นงานฮะ

ดาวโหลดได้จากที่นี่
http://technet.microsoft.com/en-us/sysinternals/bb897434.aspx

ขออนุญาตคัดลอกวิธีใช้งานมาให้อ่านจากเวปนี้ครับ
http://www.oknation.net/blog/hrdeverywhere/2009/08/05/entry-1


------------------------------------------------------------------------------------


เชิญมามุงดู ZoomIt ของดีที่ไม่ควรพลาด
Posted by HRD.Everywhere , ผู้อ่าน : 481 , 16:35:46 น.
หมวด : ทั่วไป
พิมพ์หน้านี้

คุณเคยมีปัญหาเวลานำเสนองาน ไม่ว่าจะด้วย Powerpoint, Excel หรือโปรแกรมอื่น ๆ แล้วข้อมูลตัวเล็กมาก ๆ แต่อยากจะแสดงให้คนดูเห็นชัด ๆ ไหมครับ วันนี้ผมมีของดี ๆ มานำเสนอ (บางท่านอาจจะใช้งานอยู่แล้วก็ได้)

ผมได้มีโอกาสไปอ่านบทความของคุณ Sekyicy เพื่อนบ้านของผม ได้พบเครื่องมือดี ๆ ZoomIt สำหรับใช้ในการนำเสนอ จึงอยากจะมาประชาสัมพันธ์ต่อ งานนี้ต้องขอขอบคุณและต้องให้เครดิตกับคุณ Sekyicy ครับ




โปรแกรมมันทำอะไรได้หลาย ๆ อย่างนอกจากซูม เช่น ระหว่างซูมก็วาดรูป พิมพ์ข้อความได้ มี Function จับเวลาถอยหลังได้ เป็นต้น ถ้าสนใจตามไปดูต้นฉบับได้ที่

http://www.oknation.net/blog/sekyicy/2009/08/01/entry-1

เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพผมจึงไปหาวิธีใช้มาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมจาก Web http://www.ehow.com (ผมฝึกแปลภาษาอังกฤษไปในตัว ก่อนเริ่มแปลหนังสือของอาจารย์ไชยยศ) หลังจากนั้นผมมาทดลองใช้ในการนำเสนองาน ผลตอบรับดีมาก

มาเริ่มต้นนะครับ

ก่อนจะเริ่มคงต้องไป Download โปรแกรมมาก่อน (ดูตามวิธีได้ที่ Link ของคุณ Sekyicy นะครับ)

พอ Download เสร็จมาดูวิธีการใช้ครับ

เราจะเริ่มโปรแกรม โดยการไป unzip (จะแปลว่าปลดซิปก็น่าหวาดเสียว) ไฟล์ ZoomIt.exe
หลังจากที่เรา Run ไฟล์ ZoomIt.exe ในครั้งแรกแล้ว เราอาจจะถูกถามให้ยอมรับในเงื่อนไขของโปรแกรม หลังจากนั้น โปรแกรม ZoomIt มันจะถูกย่อไปอยู่ที่ System Tray (เป็นไอคอนรูปแว่นขยาย อยู่ที่มุมล่างขวามือของจอใกล้ ๆ นาฬิกาของเครื่อง) เราสามารถใช้ Click ขวาเข้าไปดูได้


3. Click ขวา ที่ ไอคอน และเลือก Option ในเมนู เมื่อหน้าต่าง Option โผล่แว๊ปขึ้นมา ในหน้าต่างนี้จะมีอยู่ทั้งหมด 5 Tab คือ 1. Zoom 2. Live Zoom 3. Draw 4. Type 5. Break เราสามารถเข้าไปตั้งเงื่อนไข และ Hotkey (กุญแจร้อน) ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ (แนะนำว่าในส่วนของ Zoom และ Draw อย่าไปเปลี่ยนอะไร เดี๋ยวจะงง)

ถ้าสังเกตเวลาเรา Click ขวาที่ ไอคอน ZoomIt แล้ว ยังมีเมนูให้เราเลือก เป็น Break Timer, Draw, Zoom ตรงนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสั่งการโปรแกรม


การใช้ Break Timer
Function นี้ เป็นนาฬิกาแบบนับถอยหลัง เราสามารถไปตั้งแบบ Advance ที่ Tab “Break” ใน Option ได้ โดยจะเลือกรูปภาพมาเป็นพื้นหลังนาฬิกา หรือจะเลือกใช้พื้นหลังของจอก็ได้ จะตั้งเสียงตอนหมดเวลาก็ได้

นอกจากนี้ระหว่างที่เราใช้นาฬิกาอยู่ เราสามารถกลับมาที่หน้าจอของโปรแกรมอื่น ๆ ได้ โดยกด Alt+Tab และถ้าจะกลับมาที่นาฬิกาอีกครั้งก็กลับไป Click ที่ ไอคอน ZoomIt และถ้าจะออกจาก Function นาฬิกาก็กด Esc


ถ้าต้องการจะซูม กด CTRL + 1 (หรือจะไป Click ขวาที่ไอคอนแล้วเลือก Zoom ก็ได้)
เวลาจะซูมเข้าซูมออก ก็ใช้ Scroll ของ Mouse หรือจะใช้ลูกศรขึ้นหรือลงก็ได้ หลังจากนั้นก็หมุน Mouse ไปมาเพื่อซูมในจุดที่ต้องการขยาย

ถ้าจะออกจาก Function ก็กด Esc




ถ้าต้องการจะวาด หรือเขียน กด CTRL + 2 (หรือจะไป Click ขวาที่ไอคอนแล้วเลือก Draw ก็ได้ และถ้าอยู่ที่ Zoom อยู่แล้วก็วาดเขียนได้เลยเช่นกัน)
ถ้าต้องการเปลี่ยนสีสิ่งที่จะวาดหรือเขียน ทำได้ดังนี้
กด R จะเป็นสีแดง

กด G จะเป็นสีเขียว

กด B เป็นสีน้ำเงิน

กด Y เป็นสีเหลือง

กด P เป็นสีชมพู

(แต่ถ้ากดดันมาก ๆ ให้ไปสงบสติอารมณ์ก่อนนะครับ)

ถ้าต้องการจะลากเส้นตรงให้กด Shift ไปพร้อมกับกด Mouse
ถ้าต้องการจะสร้างวงกลม หรือวงรีให้กด Tab ไปพร้อมกับกด Mouse

ถ้าอยากจะลบสิ่งที่วาด ก็กด e




ถ้าจะสร้างพื้นที่เปล่าสำหรับเขียนในกด w จะได้พื้นที่ว่างเป็นสีขาว กด k จะได้พื้นที่ว่างเป็นสีดำ




ถ้าต้องการจะ Save สิ่งที่วาดกด CTRL + S

ที่ Function Draw ถ้าต้องการจะพิมพ์ กด t และไป Click ตรงที่ที่จะพิมพ์ เมื่อพิมพ์จบกด Click 1 ครั้งก็จะออกมาที่ Function Draw อีกครั้ง
ถ้าต้องการจะออกจาก Program ZoomIt ให้ Click ขวาที่ Icon และกด Exit





ผมไม่รู้ว่าแปลรู้เรื่องหรือไม่ ยังไงเบญจ์ และ พี่อู๊ด IT ตัวพ่อช่วยกระหน่ำวิจารณ์ด้วยนะครับ

HRD.Everywhere (พ่อหนูไหม ศิษย์ไชยยศ)

วันพฤหัสบดี, มกราคม 14, 2553

Portal in Thailand

http://portal.in.th/
Portal in Thailand เป็นระบบบริการสร้างเว็บไซต์ เพื่อให้องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และกลุ่มบุคคลต่างๆ สามารถสร้างเว็บศูนย์รวมของหน่วยงานได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ ทางเทคโนโลยี

Portal.in.th เป็นหนึ่งในบริการของชุดโครงการระบบออนไลน์เพื่อการจัดการความรู้สุขภาวะ ดำเนินการโดย UsableLabs มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สนับสนุนโดย สสส. บริการนี้เป็นบริการฟรีสำหรับคนไทยทุกคน

Portal.in.th ทำงานโดยใช้ซอฟต์แวร์ UsablePortal พัฒนาโดยการสนับสนุนจาก สกว. ซอฟต์แวร์นี้เป็นซอฟต์แวร์เปิดเผยต้นฉบับ (open source)

UsableLabs
คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90112

อีเมล: support at portal dot in dot th

วันจันทร์, มกราคม 11, 2553

แรกรัตติกาล (Twilight)

Rating:★★★★★
Category:Books
Genre: Romance
Author:สเตเฟนี่ เมเยอร์ (Stephenie Meyer) เขียน เจนจิรา แปล
บางที การอยู่ในโลกของหนังสือ
มันก็ใช้จินตนาการของเราดี
การที่จินตนาการถูกกระตุ้นให้นำมาใช้บ้าง
มันก็หลุดจากโลกนี้ได้ดีพอสมควร

หากล้องใหม่แก้เบื่อ

ตอนที่คิดจะหันเห มาถ่ายรูป ตอนนั้นเกิดอาการเบื่อหน่ายชีวิตอย่างแรง 
คิดไปคิดมาได้เจ้า A80 มาครอง จนปลดระวางมาใช้เจ้า A640 
ตอนนี้มันเกิดอาการเรรวน ซ่อมไม่หายสักที
แถมอาการเบื่อโลกกลับมาเยือนอีกครา 

คิดไปคิดมา  สงสัยจะได้ lx3 มาแก้เบื่อซะงั้น 

lx3 เอ้ย รอตกรุ่นก่อนแล้วเจอกันเน้อ   

วันศุกร์, มกราคม 08, 2553

ศิลปินแห่งชาติ ปี 2552 สาขาทัศนศิลป์ด้านภาพถ่าย

บล้อคนี้ มอบให้เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลครับ 

คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้ประกาศรายชื่อศิลปินแห่งชาติประจำปี 2552 ในสาขาทัศนศิลป์ ด้านการถ่ายภาพ ได้แก่ วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ครับ

National Artist (Visual Art/ Art Photography) 2009




เวปพี่เขาละ  http://www.hobby555.com/

































































































รูปประกอบจาก

บทสัมภาษณ์ เมื่อนานมาแล้ว

เมื่อเร็ว ๆนี้ สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถือโอกาสเป็นโต้โผเลี้ยงแสดง
ความยินดีแก่ วรนันท์ ชัชวาลทิพากร ช่างภาพชาวไทย ที่เพิ่งได้รับรางวัล นักถ่ายภาพอันดับ 1 ของโลก ประเภทภาพ
ท่องเที่ยว จากสมาคมถ่ายภาพแห่งอเมริกา (PSA) แต่ใครจะรู้บ้างว่า ครั้งนี้ไม่ใช่แรกสำหรับเขา เพราะรางวัลที่ 1 ที่ว่านี้ เขา
สามารถคว้ามันมาครองถึง 13 ครั้งแล้ว ขณะเดียวกันก็ติดอันดับ TOP 10 ของโลกมาโดยตลอด นับตั้งแต่ปี 1987 ที่พาตัวเอง
เข้าแข่งขันในเวทีโลก จนถึงเวลานี้ถ้านับทุกเวทีที่เคยแข่งขันมา หนึ่งพันรางวัล ไม่ถือว่ามากไปสำหรับเขา

มาสนใจถ่ายภาพได้อย่างไร
ตอนปลายปี 2524 ได้อ่านพบในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า เขามีเปิดอบรมที่วิทยาลัยเทคนิค
กรุงเทพ ทุ่งมหาเมฆ ตอนนั้นทำงานที่จังหวัดนนท์ แถวบางบัวทอง นั่งรถเมล์เข้ามาแต่เช้า
เพื่อมาเรียนที่เทคนิคกรุงเทพ เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์พูล เกษจำรัส ซึ่งเป็นศิลปินแห่ง
ชาติ สาขาภาพถ่าย เราเรียนถึง 4 ขั้นตอนคือ เบื้องต้น ขั้นสูง ภาพโฆษณา ภาพสี เขาอบรม
นักศึกษาภาคฤดูร้อนไม่ได้เรียนยาวนาน

เวลานั้นอายุสักเท่าไหร่ค่ะ
ประมาณ 24 ปี

แล้วทำไมจึงสนใจเข้าไปอบรมถ่ายภาพในครั้งนั้น
ก็เพราะผมเป็นคนชอบท่องเที่ยว มีความคิดว่าในระหว่างที่เราไปเที่ยว ได้สามารถเก็บภาพ
ที่เราประทับใจเป็นเจ้าของจะดีมาก เพราะว่าเที่ยวเสร็จมันก็ลืม ทำให้อยากจะหัดถ่าย พอ
เขาประกาศกาศมีอบรม ก็เลยเริ่มเข้ามาเรียนที่เทคนิคกรุงเทพ

ภาพที่ชอบถ่ายในครั้งแรกเป็นภาพลักษณะไหน
เป็นภาพกึ่งท่องเที่ยว แล้วก็เข้าเป็นสมาชิก สมาคมถ่ายภาพในพระบรมราชูปถัมภ์ซึ่งมีที่ทำการอยู่ที่เทคนิคกรุงเทพ เราก็ไป
สมัครเป็นสมาชิก ครั้งแรกๆ ก็เป็นรูปที่เขาจัดให้สมาชิกเอาไปถ่าย เป็นรูปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด หลังจากนั้นก็เริ่มส่งภาพ
เข้าประกวด 3 แห่งเลย คือ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย สมาคมถ่ายภาพสยามคัลเลอร์-สไลด์ สมาคมถ่ายภาพกรุงเทพ
จากที่เราได้ชนะเลิศแต่ละสมาคมประจำปีเสร็จปุ๊ป เราก็จะเลิกส่ง เปิดโอกาสให้ช่างภาพรุ่นใหม่เขาได้โอกาสได้ส่ง แล้วก็หัน
เริ่มไปเล่นตามต่างประเทศ เล่นประเภทคัลเลอร์กับประเภทท่องเที่ยว

ประกวดมาจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ได้รางวัลมามากมายขนาดไหนแล้ว
คิดว่าพันกว่ารางวัล

ประกวดมากี่เวที ทำไมถึงคว้ารางวัลมาได้มากมายขนาดนั้น
ปีหนึ่งก็ประมาณร้อยแห่ง เพราะว่าตอนนั้นมีการเก็บสะสมคะแนนท็อปเท็น ผมก็เริ่มเล่นท็อปเท็นของโลกซึ่งจัดโดยสมาคม
ถ่ายภาพแห่งอเมริกา ปีหนึ่งมันก็จะมีการจักทั่วโลกสักร้อยแห่ง เราต้องเริ่มส่งตั้งแต่มกราคมถึงธันวาคม คือแห่งละสี่ภาพ
ทางสมาคมถ่ายภาพอเมริกาเป็นผู้รวบรวม เขาก็จะรวบรวมว่าจัดเมืองไทยเราได้กี่แต้ม จัดที่อเมริกาได้กี่แต้ม มาเลเซีย สิงคโปร์
แต่ละประเทศมารวมกันที่อเมริกา อเมริกาก็จะเป็นผู้รวบรวมและเก็บผลคะแนนปลายปีถึงเดือนธนวาคมแล้วเขาก็จะแจ้งผล
ในเดือนเมษายน ก็จะมีออกวารสารในเดือนนี้ว่าใครได้ท็อปเท็นของโลก ซึ่งผมเริ่มเล่นตั้งแต่ปี 1987 จะทำให้ว่าเราไม่สามารถ
จะส่งไปแก้ตัวได้

อะไรทำให้สนใจส่งภาพเข้าประกวดบ่อยครั้งขนาดนั้น
เพราะว่าเมื่อเราเล่นของไทยจบแล้ว เราก็ได้ที่หนึ่งของทั้งสมสมาคม ประจำปีแล้ว เราก็มีความคิดว่าควรจะเปิดโอกาสให้คน
รุ่นใหม่ ได้มีโอกาสแข่งขัน เราก็ไปโกอินเตอร์ เราได้แชมป์ประจำปีไปแล้วก็คงไม่ต้องมาแข่งกับเขา ก็เลยเริ่มเล่นเมืองนอก
แข่งไปทั่วโลก ปี 1986 เราก็แหยมไปนิดหน่อย พอปี 1987 เราก็เริ่มส่งเต็มตัว


ภาพที่รับรางวัลล่าสุดเป็นภาพไหน
ปีหนึ่งมันไม่ใช่รูปเดียวต้องได้รางวัล มันต้องส่งเป็นร้อย
ครั้ง ไม่ใช่ว่ารูปเดียวได้ เหมือนกับการแข่งเซอร์กิตรถ
ยนต์ ต้องเอาจากทั่วโลกว่าใครได้สูงสุด มีคนจะถามเยอะ
มาก ว่ารูปไหนที่ได้ที่หนึ่งมันก็พูดยาก เพราะผมเคยได้
เหรียญทองยอดเยี่ยมของงานก็เกือบร้อยแห่ง บางรูปแค่รูป
เดียวได้มา สิบถึงห้าสิบรางวัล

รูปที่เคยส่งที่เมืองไทยสามารถส่งประกวดอีกใน
ต่างประเทศได้ไหม

ได้เพียงแต่ว่าที่ต่างประเทศเราไม่สามารถที่จะซ้ำกัน สี่ภาพ
เราก็หมุนเวียน รูปนั้นบ้าง รูปนี้บ้าง เราจะซ้ำก็ได้ แต่มันจะ
เสียเปรียบ เราต้องหมุนเวียนว่า แถบยุโรปอาจจะชอบรูป
พระ แต่แถบเมืองไทย ไม่ชอบรูปพระเพราะเขาไม่เคยเห็น
เราก็ต้องใช้รูปหมุนเวียน

ภาพชุดที่ได้รับรางวัลในครั้งล่าสุดนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
ส่วนมากจะว่าด้วย เรื่องราวศิลปะวัฒนธรรมไทย สีสัน และเรื่องเกี่ยวกับศาสนา ซึ่งที่อื่นเขายังไม่ค่อยมี อย่างเช่นการแข่ง
เรือยาว การวิ่งควาย พระสงฆ์กำลังสวดมนต์ นั่งปักกลด ถ้าเราจะส่งเราต้องรู้ว่าแต่ละประเทศเขามีรูปอะไรเด่น อย่างทางยุโรป
เขาส่ง ถ้าคุณส่งแลนด์สเครปไปเราก็สู้เขาไม่ได้ สภาพภูมิทัศน์ เขาสวยกว่าเรา ภาพชีวิตสัตว์ในธรรมชาติต่างๆ เขาก็สวยกว่า
เราก็เอาที่เขาไม่มี สีสันวัฒนธรรมเมืองไทย มันก็จะเป็นที่แปลก สะดุดตาเขา มีโอกาสที่จะเข้ารอบได้รางวัลเยอะกว่า

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้มีโอกาสผ่านเข้ารอบและได้รับรางวัลมามากมาย
คนอื่นๆเขาก็ส่งกันเยอะ เราได้หลายปี เพราะว่าหนึ่งเราพอจะจับจุดเขาได้ ว่าเขาต้องการรูปแนวไหน สองเรามีความอดทน
ขยันนิดนึง เพราะเราต้องทุ่มทั้งกำลังใจกำลังทรัพย์ และก็มีความอดทนที่จะส่งไปต่อเนื่อง เพราะว่าเราต้องทุ่มทั้งกำลังใจ
กำลังทรัพย์ และก็มีความอดทน ที่จะส่งไปต่อเนื่อง เพราะงบมันก็เยอะ ส่วนรางวัลที่ได้ก็ได้แต่กล่อง ได้แต่ชื่อเสียง ซึ่งเมืองนอก
เขาอาจจะรู้จักเราเยอะกว่าคนไทยด้วยซ้ำ

แสดงว่าจนปัจจุบัน สิ่งตอบแทนที่ได้ก็เป็นกล่องเสียส่วนใหญ่
ถ้าเล่นท็อปเท็นก็จะเป็นกล่องหมด จะมีรางวัลก็มีบางครั้ง อย่างเช่นรูปมุสลิม รูปนี้เคยได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบินไปกลับรอบโลก
2 ที่นั่ง ปีนั้นเป็นปีที่ซัดดัมรบหนัก เขาก็เลยให้เงิน 5 พันปอนด์ ประมาณ 2 แสน 5 หมื่น รูปอื่นก็ได้บ้างแต่ได้แค่หมื่น รูปมุสลิม
ที่ได้ รู้สึกว่าจะปี 1990 ถ่ายที่ยะลา สมัยนั้นผมก็ได้รับเชิญไปบรรยาย ให้กับสมาคมถ่ายภาพยะลา ให้กับชมรมสามจังหวัดภาคใต้
พอหลังจากบรรยายเสร็จเราก็บอกเพื่อนๆ ว่าผมอยากถ่ายภาพมุสลิม ไปเจอนักเรียน ชั้นประถมปีที่ 3 พอดีวันนั้นเขาไปเรียน
ผมก็ขอเด็กทั้งชั้นถ่ายรูป เขาก็พาไปมัสยิดกลางที่ยะลา ถ่ายโดยใช้แสงธรรมชาติ รูปนี้เนื่องจากมุสลิมทางภาคใต้ผิวเข้ม
แล้วตาก็กลมสวย เราก็เลือกเอาคนที่ผิวเข้มให้หันหน้ามา ซึ่งรูปนี้ได้รับรางวัลเยอะของทั่วโลก


เอกลักษณ์ในงานภาพถ่ายของตัวเองคืออะไร
งานที่เมืองนอกเขาให้ความสนใจเราเน้นเกี่ยวกับประเพณี
วัฒนธรรมของไทย แล้วก็เรื่องของศาสนา พระสงฆ์บ้านเรา
จีวรมันสีสะดุดตา สองก็คือความสงบสันติ อย่างพระที่กำลัง
สวดมนต์ในโบสถ์ดูแล้วน่าศรัทธา

ตั้งแต่เริ่มถ่ายภาพมาเดินทางมาเยอะขนาดไหน
เมืองไทยก็ไปมาคิดว่าเกือบจะครบ 50 – 60 จังหวัด ส่วน
ต่างประเทศก็ไปมาเยอะ ส่วนมากจะไปทางแถบเอเชีย
เช่นจีนไปบ่อย เพราะว่าจีนเป็นเสมือนเมืองพี่เมืองน้อง
และผมก็สามารถพูดแมนดารินได้ ทำให้สะดวกต่อการเข้า
ออก ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง ส่วนทางบ้านเราก็ลาว พม่า กัมพูชา
เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย ยุโรปส่วนมากจะไปดูงานมาก
กว่าไม่ค่อยได้ถ่ายรูป เพราะชอบถ่ายทางแถบเอเชียมากว่า

ประทับใจที่ไหนที่สุด
ในเรื่องถ่ายรูปก็คงเป็นจีนกับพม่า ยังคงถ่ายสนุก ส่วนเมืองไทยก็หลายๆที่ เช่นแถวสังขละบุรี ก็ได้รูปดีๆแถวนี้เยอะ เพราะว่า
แถวนั้นยังมีชีวิตของชาวมอญและรามัญอาศัยอยู่ ดูคล้ายๆว่าชีวิตของชาวบ้านยังล้าสมัยกว่าในกรุงเทพฯเป็น 20 ปี มันดูแล้ว
น่าถ่ายรูป ดูเป็นธรรมชาติ ชีวิตชาวบ้าน ถ้าเราไปหน้าหนาวก็จะมีหมอกขาวๆ ทำให้รูปมันน่าสนใจ

มีประสบการณ์ในการถ่ายภาพที่สนุกๆอยากเล่าให้ฟังบ้างไหม
ถ้าเปรียบเทียบที่สังขละก็คือ บางครั้งบางสถานที่ เราจะไม่เคยไป พวกเราไป ตื่นเต้นอยากออกแต่เช้าตั้งแต่ตีห้า เราไม่รู้ว่า
จุดที่เราไปหน้าตาเป็นยังไง เราก็ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ไปเที่ยวงานแสงสีเสียง จากนั้นเราก็ตีรถไปถึงสังขละ ตีสี่ตีห้าต้องไป
ปลุกโรงแรมให้เปิดให้เรานอน นอนได้สักหกโมงเราก็ลุกออกมา สมัยแรกที่ไปเราไม่รู้ว่าสังขละมันเป็นอย่างไร เพราะรู้แต่ว่า
ในเมืองสังขละเมื่อก่อน หลังจากเขาสร้างเขื่อน เมืองทั้งเมือง วัดหลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังวิเวกการามจมน้ำ เรามีข้อมูลเท่านี้

เราไปถึงเช้าเราก็ตื่นเต้นมาก เพราะเราอยู่ในมุมสูง บนสะพานสูง ถ่ายลงมาข้างล่าง จะมีตอไม้ ที่จมอยู่ในน้ำ ชีวิตชาวบ้านที่
สัญจรไปมาริมน้ำ เรือที่เขาพาย ตอไม้ สะพานไม้ที่เชื่อมระหว่างเมืองกับตัวอำเภอสังขละบุรี ตรงหมู่บ้านที่เขาเรียกอังวะ
เชื่อมระหว่างวัดกับตัวอำเภอ มีชีวิตที่น่าถ่ายรูปมาก ไม่ว่าจะคนแบกของทูนบนหัว คนเดินไปเดินมา พระสงฆ์ ชีวิตชาวบ้าน
ไปดูเหยื่อที่ดักปลา มันทำให้เราตื่นเต้น ถ่ายตั้งแต่เช้ายันเกือบจะเที่ยว พอเที่ยงแถวนั้นมันก็เป็นแพเยอะ เราสามารถกิน
อาหารบนเรือนแพ พอหมอนเขาหลับงีบ แล้วก็ตื่นขึ้นมาถ่ายใหม่ ซึ่งเป็นมุมชีวิตที่ง่ายๆ น่าถ่ายรูปมาก

เมื่อก่อนที่ชอบท่องเที่ยวมาก ตอนนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่ไหม
ยังเหมือนเดิม ถ้ามีโอกาสก็จะไปเที่ยวตลอด ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ไม่ค่อยตายตัว วันหยุดยาว หรือว่าช่วงไหน
ที่อากาศดีเราก็จะไป แต่ละช่วง แต่ละที่บรรยากาศไม่เหมือนกัน ช่วงไหนเดือนหกดี เราก็จะไปเดือนหก เดือนเก้าดีเราก็จะไป
เดือนเก้า ไม่ตายตัวแน่นอน ทางภาคเหนือเดือนนี้ดีเราก็ไป พอตอนหลังงานเยอะเกินเราก็ไม่ได้กำหนดตายตัว

ภาคไหนของเมืองไทยที่ชอบที่สุด
จริงๆแล้วทุกภาคสวยหมด แต่ว่าภาคที่ชอบและก็ถ่ายง่ายน่าจะเป็นภาคเหนือ เพราะบรรยากาศดี การเดินทางไม่ไกลมาก
ภาคใต้หลายๆแห่งมันเดินทางไกล ภาคกลางก็ชอบ มันไม่ต้องไปไกลมาก อย่างเช่น ราชบุรี อยุธยา อยุธยาไปบ่อยเพราะมัน
ใกล้บ้านเราไปเช้าเย็นกลับ ถ่ายรูปเยอะมาก เพราะเป็นเมืองเก่า


มืออาชีพอย่างคุณกล้องที่ใช้เป้นอย่างไร
ผมก็ใช้กล้องมาเกือบทุกอย่าง สมัยก่อน Nikon,Lica ตอนหลังมาใช้
หนักเป็น Cannon เนื่องจากเราอายุมาก สายตาเริ่มไม่ค่อยดี ก็ต้อง
ใช้พวก Auto Focus เพราะตายาว การ Focus จะมีปัญหา กล้องไม่
จำเป้นต้องดีมาก สิ่งที่อยากแนะนำคนรุ่นใหม่ๆ ที่สำคัญคือกล้องที่ใช้
งานได้ ต้องอ่านคู่มือทุกอย่างให้เข้าใจ อันนี้สำคัญกว่า

การถ่ายทำลักษณะนี้ควรจะใช้เลนส์อะไรใช้ขาตั้งเป็น ทำให้ภาพคม
ชัดสำคัญกว่า เหมือนกับที่หนังกำลังภายในว่า ‘กระบี่อยู่ที่ใจ’ คือถ้า
เรารู้ กล้องอะไรก็พอถ่าย ขอให้รู้มุมแสง เรื่องราวต่างๆสำคัญกว่า

เวลานี้มีคนมาขอคำแนะนำมากไหม
เยอะ..ตามชมรม สมาคม จุฬาฯ หรือตามมหาวิทยาลัย ก้ต้องไป
บรรยาย ตามชมรมต่างจังหวัดก็ไปบ่อย ทางลำปาง ก็เป้นชมรมถ่าย
ภาพแม่เมาะ สมาคมถ่ายภาพต่างๆในเมืองไทย หรือชมรมของบริษัท
ห้างร้านที่เขาจัดงาน

แล้วตอนนี้ธุรกิจที่ทำควบคู่ไปกับการถ่ายภาพคืออะไร
ขายอุปกรณ์ถ่ายภาพ ล้าง อัด ขยาย(ร้านโฟโต้ ฮอบบี้ อาคารธนิยะ
ชั้น 2 ถ. สีลม) ซึ่งคือรายได้ แต่สมัครเล่นเราเสียเงินมากกว่า ไม่ค่อย
มีรายได้ ทำมาประมาณ 10 ปีกว่า เมื่อก่อนอยู่ที่สยามเว็นเตอร์ ไฟ
ไหม้ก็ย้ายมาอยุ่ที่ธนิยะ ได้ 6-7 ปี




ถ่ายภาพมายาวนาน ค้นพบอะไรบ้าง
ค้นพบว่า บ้านเมืองเรามีสิ่งที่ต้องให้เราช่วยกันบันทึก เป็นประวัติศาสตร์เยอะ อย่างเช่น ผมชอบเกี่ยวกับพระพุทธรูป
ระหว่างออกถ่าย ผมก็รูปพระพุทธรูปมาเยอะแยะ ได้ทำหนังสือพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองออกมา ถ้าพวกเราช่างภาพช่วยกัน
บันทึกช่วยกันเก็บ ให้งานดีๆเก็บเป็นประวัติศาสตร์ ให้ลูกหลานเราได้เห็นจะดีมาก ดีกว่าปล่อยให้มันผ่านไปแต่ละปี
ธรรมชาติ โบราณสถาน โบราณวัตถุจะเปลี่ยนไปเรื่อย อยากให้คนรุ่นหลังรู้ว่าถึงแม้พวกเราจะตายไป ก็ยังมีงานที่จะเก็บให้
พวกเขาได้ดูว่ายุคปี สองพันหาร้อยกว้าๆ วัตถุโบราณต่างๆมันเป็นยังไง คนรุ่นหลังก็สามารถค้นคว้าได้

มองย้อนกับไปสมัยที่เริ่มฝึกถ่ายภาพ กับตอนนี้มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง
สมัยก่อนเรากว่าจะหาเงินซื้อกล้องซื้ออะไรมันยากนิดนึง เพราะว่าเริ่มทำงานก็ต้องค่อยๆซื้อสะสม พอถึงปัจจุบัน เริ่มมีเงินซื้อไหว
โอกาสและเวลาที่จะออกไปก็น้อยลง งานมันยุ่งขึ้น อยากฝากบอกพวกเราคนที่ชอบถ่ายรูปว่า มีกำลังมีอะไรไหวก็ควรจะออกไป
ถึงแม้จะเริ่มมีเงินทอง ตอนที่อายุกำลังมีให้ไป พออยุมากอยากจะไปมากแต่บางทีมัน 7 0 – 80 ไปแล้ว ถึงตอนนั้นกำลังใจสู้
แต่สังขารร่างกายไม่ไป

กลุ่มเพื่อนที่ออกไปถ่ายภาพเป็นเพื่อนกันมีใครบ้าง
ก็มีเยอะครับ เป็นกลุ่มวันศุกร์ เราจะนัดกินข้าวกันทุกวันศุกร์แถวสามย่าน รวมกันได้ยี่สิบกว่าคน ก็จะไปกันประจำ
เช่นคุณม่อน ก้องทอง และก็หลายคน เมื่อก่อนคุณสุรจิต จามรมารก็เคยไป ตอนหลังก็มีคุณชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล
ที่ไปมากันหลายครั้ง หรือคุณจินดา คุณรชต อิศรางกูร มีหลายคน

แล้วมากลุ่มถ่ายภาพในงานประชุมเอเปกได้อย่างไรคุณสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นายกสถาคมถ่ายภาพในพระบรมราชูปถัมภ์ ท่านก็มาถามว่า ไปช่วยกันถ่ายงานนี้ได้ไหม
ก็เสนอชื่อไปให้กระทรวงต่างประเทศ ผมมีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนของพระที่นั่งอนันตสมาคม อยู่ในจุดที่เดียวกับนักข่าวที่
เขากำหนดให้ยืนถ่าย

มีคนมาขอภาพไปใช้งานเยอะไหม
ก็มีเยอะ ทั้งขอด้วย และให้ไปช่วยด้วย ส่วนมากจะเป็นของราชการ เช่น งานชีวิตเด็กและเยาวชนไทย มรดกโลกอยุธยา
ราชอาราจักรไทย และตอนหลังที่จะช่วยประจำก็คือ สารานุกรมไทยฉบับเยาวชน เป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว เขาก็จะขอรูปประจำ ขาดรูปอะไรเขาก็โทรมา เราก็ช่วยเขาไป ของต่างประเทศก็ได้ไป 2-3 ประเทศ เช่น
ตอนเซี่ยงไฮ้ครบรอบ 50 ปี รวมถึงมาเก๊าที่คืนเกาะ และสิงคโปร์ก็มีออกไปถ่าย

ล่าสุด Unseen in Thailand ก็มีส่วนช่วยเขา ตอนนี้กำลังถ่ายก็คือ ช่วยกรมประชาสัมพันธ์ หนังสือ ชุดแม่ของแผ่นดิน
ภาคภาษอังกฤษ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้า ครบ 72 พรรษา ก็จะพุ่งไปงานศิลปาชีพ


อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตช่างภาพ
ผมคิดว่าอุปกรณ์ก็มีส่วน แต่ไม่สำคัญทีเดียว แต่ที่สำคัญช่างภาพต้อง
สามารถเรียนรู้ประสบการณ์ และพื้นที่ท้องถิ่นที่เราไปถ่ายรูป มันเป็น
อย่างไร และก็มุมกล้อง แสง เลนส์ กล้อง อุปกรณ์ ฟิล์มก็มีส่วน ซึ่งจะ
เป็นอันดับท้ายๆ แต่เราต้องเรียนรู้ถึงพื้นที่ๆเราจะไป มันจะง่ายกว่า
เรารู้จักและเข้าใจมัน เราก็จะถ่ายทอดมันได้ มีกล้องมากแต่เราไม่รู้
จัก ก็ถ่ายมาไม่ได้ ต้องเข้าไปรู้จักกับเขา รู้ว่าแสงตอนไหนจะดี จะไป
ช่วงไหนอันนี้สำคัญกว่า


คิดว่าความสุขที่ได้รับจากการถ่ายภาพของตัวเองคืออะไร
หนึ่งคือทำให้เราเห็นโลกที่กว้างขึ้น ได้เห็นประเพณีวัฒนธรรมแต่ละ
ท้องถิ่น ได้เห็นสิ่งสวยงามที่เรานึกไม่ถึงว่ามันมีในเมืองไทย ได้เห็น
จิตใจ น้ำใจของคนที่ต่างกับเรา ได้เพื่อน ได้รู้จักคนอีกเยอะแยะใน
ต่างจังหวัด เช่นเราไปถ่ายงาน 50 ช่างภาพให้ ททท. ผมรับผิดชอบ
หัวข้อเชียงใหม่ ผมก็ไปค้นจนกระทั่งเจอ ช่างแกะสลักช้างที่เป็นไม้
ทั้งตัว ฝีมือดีแถวสันกำแพง ชื่อ ช่างเพชร วิริยะ พอเราเริ่มรู้จักเขา
ทุกอย่างมันจะง่ายยิ่งขึ้น ผมมีโอกาสซื้อช้างของเขา ชิ้นเล็กๆ เขาก็ให้
เรา ในราคาพิเศษสุดๆ พอเราถ่ายไป เขาก็ดีใจ ผมเอารูปไปให้เขา
สมาชิกต่อมาก็ไปถ่ายกันเยอะ เราลงในหนังสือต่างประเทศก็ส่งไป
ให้เขาดู และในหนังสือ 50 ช่างภาพ เขาก้ดีใจ ทุกครั้งที่ออกไปถ่ายรูป
เราก็เลยได้ทั้งเพื่อน ได้ความรู้ ได้ออกไปพักผ่อน

วันจันทร์, มกราคม 04, 2553

สนุกเล่น – เป็นง่าย Multiply สร้างแกลเลอรี่ออนไลน์สไตล์คุณ +CD

Rating:★★★★★
Category:Books
Genre: Computers & Internet
Author:หนูออด
หนังสือเล่มนี้ เหมาะสำหรับผู้ต้องการเรียนรู้และใช้งาน Multiply ครับ

-มีรูปประกอบ พร้อมคำอธิบาย ไม่ต้องกลัวทำไม่เป็น

-บอกทุกขั้นตอนตั้งแต่ สมัครเข้ามา ยันลาออกจากเวป

-มีแผนผังอธิบายโครงสร้างความสัมพันธ์ ของลิ้งต่างๆในเวป

-อธิบายถึงทุกลิ้ง ทุกปุ่มในมัลติพลาย

"ผมว่าผมก็ปรุโปร่งกับมัลติพลายพอสมควรแล้วนะ มาอ่านในหนังสือ ก็มีอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้แฮะ"

ปล.ข้างใน สีหวาน ผีเสื้อสวยดีครับ

สนใจก็ซีเอ็ดครับ
http://www.se-ed.com/eshop/Products/Detail.aspx?No=9786160800872&AspxAutoDetectCookieSupport=1

วันเสาร์, มกราคม 02, 2553

Dropbox - กระเป๋าโดเรมอน ออนไลน์

http://www.dropbox.com/referrals/NTM3Nzc4NjQ5
หากคุณเริ่มสับสนกับการพกพายูเอสบีไดร์ไปมา ส่งเมล์ไปมา มีไฟล์หลายไฟล์แล้วงง อันไหนอัพเดท


ลองตัวนี้ครับ โดยไอเดียคือ
-ไดร์ออนไลน์ขนาดสองกิ้ก
-ติดตั้ง ได้ที่คอมหลายๆเครื่อง
-เข้าถึงได้จากไดร์ทางเวปไซต์ด้วย
-อัพเดทข้อมูลใหม่ล่าสุดทันทีที่ออนไลน์

ลองดูวิดิโอประกอบที่หน้าเวปเขาครับ ผมว่าแจ่มดี

Visit www.dropbox.com to get started.

- The Dropbox Team