วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 31, 2549

4 คำถาม ไขความเป็นคุณ

Rating:★★★★★
Category:Computers & Electronics
Product Type: Computers
Manufacturer:  http://www.kapstar.com/myers/myers.html
ไปเจอมาครับสนุกดีเลยเอามาฝากกัน จะได้รู้ว่าเพื่อนๆเป็นคนแบบหนาย อิอิ
เล่นที่นี่ครับ มีคำอธิบายและสถิติ
http://www.kapstar.com/myers/myers.html

ส่วนนี่เป็นแบบสรุปอ่านประกอบอีกที
http://202.183.214.244/webboard/topic.php?id=12655

มาเล่น วัด ไอคิวกันเถอะ

Rating:★★★★★
Category:Computers & Electronics
Product Type: Computers
Manufacturer:  http://www.iqtest.dk/main.swf
เล่นง่ายๆ ได้คะแนนทันทีครับ
http://www.iqtest.dk/main.swf

วันจันทร์, สิงหาคม 28, 2549

ทางเลือก ในยามเช้า


เคยอ่านที่ไหนมาจำไม่ได้แล้ว เค้าบอกว่า

ทุกเช้าที่เราตื่นขึ้นมา เรามีทางเลือกอย่างน้อยสองทาง คือ

1.เลือกให้วันนี้เป็นวันที่สดใสของเรา รึ
2.เลือกที่แบกความทุกข์ความเครียด ต่างๆ ที่รุมล้อมจากสิ่งแวดล้อมภายนอก

ดั่งคำว่า สวรรค์ในอก นรกในใจ ความรู้สึก สุข ทุกข์ ย่อมถูกกำหนดจากภายในใจของเราเอง โดยมีสิ่งกระทบจากภายนอกเป็นตัวเร่งเร้า

ดังนั้น หากเราบอกตัวเราเองในยามลืมตาว่า what ever will be will be อะไรจะเกิดมันก็เกิดอย่าไปเครียด ทำวันนี้ให้สดใสดีกว่า

เช้าวันนั้น และทั้งวันก็จะเป็นเช้าและวันที่สดใส

แต่ในทางตรงข้าม ถ้าเราคิด เครียด ทุกข์ กับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ไม่อาจแก้ไข รึสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ยังมาไม่ถึง ย่อมเป็นการสร้างความหดหู่ให้กับชีวิตของเราเองโดยใช่เหตุ

เช่นนี้แล้ว ทุกเช้า เราจงเลือกที่จะลืมตาตื่นขึ้นมา พร้อมกับความสดใส เบิกบานเถิด แล้ววันนั้นจะเป็นวันที่ดีของเราเทอญ







โปรแกรมค้นหาไฟล์ สำหรับคนคอมรก

Rating:★★★★★
Category:Computers & Electronics
Product Type: Computers
Manufacturer:  http://desktop.thaiquest.com/
พูดง่ายๆก็คือถ้าคุณหาอะไรไม่เจอ ในคอมคุณเองเหมือนผม อิอิ

โปรแกรม ไทยเควสท์เดสก์ท็อป (ThaiQuest Desktop)
นี้จะช่วยคุณได้ครับ เป็น full text search และแน่นอน ฟรี

ลองโหลดมาใช้กันได้เลย ที่http://desktop.thaiquest.com/



วันศุกร์, สิงหาคม 25, 2549

คุณละ เมาแล้วเป็นแบบไหน

*+* ทายนิสัยจากอาการเมา *+*

สิ่งที่สามารถบอกถึงนิสัยแท้จริงของคนเราได้นั้นมีอยู่หลายเรื่อง และหนึ่งในนั้นก็คือ กิริยาท่าทางของคนยามที่เขาตกไปอยู่ในภาวะมึนเมา โดยเฉพาะเมาเหล้า ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่สามารถควบคุมสติตนเองได้ อาการสามารถบ่งบอกถึงนิสัยลึกของเขาได้ มาลองทายกันนะ ว่าตรงรึป่าวนะคะ ใครไม่ดื่มก็เอาไว้ทายคนอื่นก็ได้นะจ้ะ

พูดมาก

สำหรับคนที่เมื่อเมาเหล้านั้น จะกลายเป็นคนที่พูดมากขึ้น พูดเก่งขึ้นกว่าปกตินั้น แสดงถึงนิสัยของการเป็นคนร่าเริง รักความสนุกสนาน
มองโลกในแง่ดี ชอบชีวิตที่หรูหรา ฟู่ฟ่า และการอยู่ในวงล้อมของมิตรสหาย แต่ในขณะเดียวกันนั้น ก็จะเป็นคนที่เชื่อมั่นในความสามารถตนเอง เย่อหยิ่ง ดูถูกคน ชอบมองว่าคนอื่นโง่ คิดว่าตัวเองฉลาดเสียเต็มประดา คนจึงเกลียดมากพอๆกับคนที่รักใคร่ชอบพอ

เงียบขรึม หรือไม่มีสติ

คนที่แปรเปลี่ยนกลายเป็นคนที่เงียบขรึม หรือไม่มีสติ หลังจากที่ดื่มน้ำเปลี่ยนนิสัยเข้าไปนั้น เป็นลักษณะนิสัยคนที่ช่างคิดและคิดมากจนเกือบจะเป็นคนหมกมุ่นเลยทีเดียว แล้วก็จะสนิทกับคนยาก และหากถูกกดดันมาก ๆ จะชอบหนีไปอยู่ในโลกส่วนตัวที่ตนสร้างขึ้นมา และไม่ชอบให้ใครเข้าไปข้องเกี่ยว ลึกๆแล้วเป็นคนขี้เหงา ว้าเหว่ แต่ไม่ชอบแสดงความรู้สึกอ่อนแอของตนออกมาให้คนอื่นเห็น เจ้าชู้เงียบ ๆ ไม่ชอบให้ใครมาผูกมัด

ร้องไห้คร่ำครวญ

พื้นฐานนิสัยจริงๆนั้น เป็นคนอ่อนแอจิตใจอ่อนไหว ขี้ใจน้อย สะเทือนใจง่าย แต่จะไม่ใช่คนที่แสดงออก จึงมีกเก็บทุกสิ่งเอาไว้เงียบๆคนเดียว
น้อยคนนักที่จะรู้จักจริงๆ ลึกๆแล้วเป็นคนที่ต้องการให้คนอื่นสนใจตนเองต้องการให้คนมารักใคร่ห่วงใย บางครั้งจึงเหมือนคนเจ้าชู้ คบหาคนไปเรื่อยๆเล่นๆไปวันๆ แต่จริงๆแล้วแสวงหารักแท้

ทะลึ่งทะเล้น

คนที่เมื่อดื่มเหล้าเข้าไปแล้ว จะมีอาการทะลึ่งทะเล้นจนเห็นได้ชัดนั้น แสดงถึงนิสัยที่เปิดเผย รักสนุกโดยเฉพาะในเรื่องรักๆใคร่ๆ
จะให้ความสนใจเป็นพิเศษละมีพลังทางด้านนี้สูง ไม่มีความเขินอายเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ แล้วก็ยังสนใจศาสตร์ที่เกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ด้วย
แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นคนที่รักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาผูกมัดหรือครอบครองตนเพราะเป็นคนจะเบื่อง่ายและไม่ชอบการที่จะต้อง
อยู่ในระเบียบหรือกฏเกณฑ์ของใคร

หน้าแดง

คนที่เวลาเมาเหล้าแล้วมักหน้าแดงนี้ เป็นคนที่เก็บความรู้สึกไม่เป็น หรือไม่อาจเก็บรักษาความลับอะไรได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่คนที่เปิดเผยอีกเหมือนกัน แต่ก็จะเฉพาะกับเรื่องราวของตัวเองเท่านั้น เป็นคนที่มักมีปัญหาเรื่องสุขภาพ จึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลตนเองมาก
มักจะมีความวิตกกังวลสูงกับเรื่องความเจ็บป่วย ชอบแสวงหาความมั่นคงในทุกรูปแบบให้กับชีวิตของตน

โวยวายหาเรื่อง

คนที่ชอบโวยวายหาเรื่องคนอื่นเมื่อเหล้าเข้าปากนั้น แสดงถึงนิสัยที่เป็นคนอารมณ์รุนแรง เปลี่ยนแปลงง่าย ประเดี๋ยวดี แต่อีกเดี๋ยวเดียวก็โมโหโกรธาเสียแล้ว จะเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วเหมือนกัน ใจคอว้างขวาง ชอบมีเพื่อนฝูงเยอะๆ เป็นคนเถรตรง พูดจาไม่ค่อยถูกหูคนนัก คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ไม่ชอบงานที่มีพิธีการมากมาย                           

กล่องใบหนึ่งนั้นวางอยู่ในใจฉัน






วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 24, 2549

ปล่อยวาง

ปล่อยวาง


   โดย  รินใจ

จาก http://www.budpage.com/ba133.shtml
สนใจอ่านสิ่งดีดี  ไปที่  http://www.budpage.com/





    สุพจน์นั่งอยู่ในร้านกาแฟชื่อดัง แต่แทนที่จะมีความสุขกับคาปูชิโนรสโปรด กลับมีสีหน้าขุ่นเคือง ไม่เสบยเอาเสียเลย

    เพื่อนคนหนึ่งเผอิญเดินเข้าไปในร้าน เห็นอาการของสุพจน์แล้ว แปลกใจจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น

    "ก็เจ้าพนักงานเก็บเงินที่เคาน์เตอร์น่ะสิ" สุพจน์ตอบ " ดูสายตาของมันสิ"

    "ทำไมเหรอ เขาก็ดูปกติดีนี่" เพื่อนว่า

    "แกไม่รู้อะไร มันรังเกียจคนอีสาน ดูมันมองฉันสิ "

    "เพิ่งรู้ว่าแกเป็นคนอีสาน"

    "ใครว่า หน้าตาฉันแค่เหมือนอีสาน แต่ฉันเป็นคนกรุงเทพ ฯ ทั้งแท่ง"


      ถ้าคุณเป็นเพื่อนของสุพจน์
คงอดงงงวยไม่ได้ พนักงานคนนั้นดูถูกคนอีสานจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่ถึงจะจริง สุพจน์ก็ไม่น่าจะไปหัวเสีย
ก็ในเมื่อตัวเองไม่ได้เป็นอีสานสักหน่อย จะไปเดือดร้อนทำไม
ถ้าจะทุกข์ร้อนแทนคนอีสานก็ว่าไปอย่าง
แต่นี่กลับไปรับสมอ้างว่าเป็นคนอีสาน แล้วก็เลยทุกข์เสียเอง


      ฟังเรื่องของสุพจน์แล้ว ใคร ๆ ก็ต้องบอกว่าเขาหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ อยู่ดีไม่ว่าดี


      แต่เอ๊ะ บ่อยครั้งเราก็เป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือ
เวลาคนอื่นเข้าใจผิดคิดเราว่าคดโกง ไม่รับผิดชอบ เห็นแก่ตัว ฯลฯ
ทำไมเราถึงโกรธในเมื่อเราก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดสักหน่อย
เหตุใดเราถึงไปรับสมอ้างว่าเป็นอย่างเขาว่า



      ลองคิดดูว่าวันหนึ่ง ๆ
เราเป็นทุกข์เพราะไปรับสมอ้างในเรื่องที่เราไม่ได้เป็น กี่สิบกี่ร้อยครั้ง
ใหม่ ๆ ก็รับสมอ้างด้วยความเผลอ
แต่ในที่สุดก็อาจปักใจเชื่อว่าตัวเองแย่อย่างที่เขาว่าจริง ๆ
ไม่มีอะไรที่แย่กว่านี้อีกแล้ว


      มีเหมือนกันที่บางครั้งเรารู้ดีว่าตัวไม่ได้เป็นอย่างที่เขาว่า
แต่ก็ยังทุกข์อยู่ ถามว่าเป็นเพราะอะไร คำตอบก็คือ
เราทนไม่ได้ที่เขาเห็นเราแย่
เราเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าคนอื่นเห็นเราอย่างไร "เป็น" กับ
"เห็น"นั้นต่างกันมาก
แต่บ่อยครั้งเรากลับให้ค่ากับความเห็นหรือสายตาของคนอื่น
ยิ่งกว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่จริง ๆ


      นี้คือปัญหาของตัวตนที่ครอบงำใจเรา
ตัวตนหรืออัตตานั้นปรารถนาการพะเน้าพะนอ
ไม่มีอะไรที่ทำให้มันพองโตเท่ากับคำยกย่องสรรเสริญหรือการพินอบพิเทา
เมื่อมีคนชื่นชม เราไม่ค่อยสนใจเหตุผลของเขามากเท่ากับคำว่า "คุณเก่ง"
หรือ "คุณสวย"

 ในทำนองเดียวกันเมื่อมีคนตำหนิ
เหตุผลของเขามีความหมายต่อเราน้อยกว่าคำว่า "เธอแย่" หรือ "เธอขี้เหร่"
ตัวตนใหญ่โตเท่าไหร่ ก็เจ็บมากเท่านั้น เพราะรับเอาแรงกระแทกไปเต็ม ๆ ทั้ง
ๆ ที่หลบได้ แต่ไม่หลบเพราะไปยึดถือเอาคำต่อว่านั้นมาเป็น "ของฉัน" หรือ
"ของกู" ที่จริงเหตุผลของเขาอาจจะดี แต่พอไปคิดแค่ว่า "เขาว่าฉัน ๆๆ"
ก็เลยได้แต่ฟูมฟาย ไม่เอาเหตุผลของเขามาพิจารณาว่าถูกต้องหรือไม่

      เป็นธรรมดาของตัวตนที่ชอบยึดถือสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็น
"ของฉัน" เช่น บ้านของฉัน แฟนของฉัน ชื่อเสียงของฉัน ปัญหาก็คือ
พอยึดจนเคยตัวแล้ว ของไม่ดีก็ยึดว่าเป็นของฉันด้วย
ผลก็คือแบกเอาคำตำหนิติเตียนมาไว้ในใจทั้งวันทั้งคืน
จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะวางก็วางไม่เป็น เพราะยึดไว้เป็นนิสัยเสียแล้ว


      พอยึดถือหนักเข้า ทีนี้อะไรที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
แม้ไม่เกี่ยวข้องกับตัว ก็ไปยึดไปแบกเอาไว้จนเป็นทุกข์
เพียงแค่มีเสียงดังเท่านั้น ก็ไปคว้าเอาเสียงนั้นมาเล่นงานตัวเอง
เสร็จแล้วก็ไปต่อว่าเจ้าของเสียงนั้น แทนที่จะหันมาดูจิตใจของตัวเอง


      คราวหนึ่งหลวงปู่บุดดา
ถาวโรได้รับนิมนต์ไปฉันเพลที่บ้านโยมในกรุงเทพ ฯ
เมื่อฉันเสร็จโยมก็นิมนต์ให้ท่านเอนกายพักผ่อนก่อนเดินทางกลับวัดที่สิงห์บุรี

      ระหว่างที่ท่านพัก
ก็มีเสียงเกี๊ยะดังมาจากข้างบ้านซึ่งเป็นร้านขายของ
ศิษย์คนหนึ่งซึ่งอุปัฏฐากท่านอยู่ก็บ่นขึ้นมาดัง ๆ ว่า "แหม
เดินเสียงดังเชียว"

      หลวงปู่แม้จะหลับตาอยู่ แต่ก็รับรู้ตลอด จึงพูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า "เขาเดินของเขาอยู่ดี ๆ เราเอาหูไปรองเกี๊ยะเขาเอง"


      ไม่ใช่หูเท่านั้น แต่ตาของเราก็ชอบหาเรื่องไม่ใช่ย่อย
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะใจของเรานั่นเองที่ชอบเผลอไปยึดไปแบกอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน
ปล่อยวางเสียบ้าง แล้วอะไรต่ออะไรจะดีเอง


วันจันทร์, สิงหาคม 21, 2549

เรื่องของชา



รู้หรือไม่?....ชาชนิดใดเหมาะกับเรา







1. ผู้ที่ทำงานแบบใช้สมอง ต้องซีเรียสเครียดทั้งวัน
หรือนักเรียนนักศึกษาที่ตรากตรำอ่านตำหรับตำราจนดึกดื่น



ควรดื่ม ชามะลิ



2. ผู้ที่รักการออกกำลังกาย หรือทำงานที่ต้องใช้แรง
เสียเหงื่อมาก เหมาะกับ ชาอูหลง



3. ผู้ที่ต้องผจญสูดดมอากาศเป็นพิษอยู่เสมอ
อาทิ ผู้ที่ขับขี่หรือสัญจรไปมาด้วยรถจักรยานยนต์เป็นประจำ



เหมาะกับ ชาเขียว



4. ผู้ที่ในแต่ละวันนั่งตัวติดกับเก้าอี้
ไม่ค่อยขยับเขยื้อนกายไปไหนเลย อีกทั้งปกติไม่ชอบออกกำลังกายด้วยแล้ว
เหมาะอย่างยิ่งกับ ชาเขียว หรือ ชาดอกไม้



5. ผู้ที่ชอบดื่มสุรา
เครื่องดื่มมึนเมา ควรดื่ม ชาเขียว



6. ผู้นิยมรับประทานเนื้อสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ
เหมาะกับ ชาอูหลง



7. ผู้ที่เข้าห้องน้ำแต่ละครั้งช่างทุกข์ทรมานเสียเหลือเกิน
แล้วยังมักท้องผูกเสมอๆ เหมาะกับชาผสมน้ำผึ้ง



8. ผู้ที่มีระดับคอเรสเตอรอลสูง ไขมันในเลือดสูง
เหมาะที่จะดื่ม ชาอูหลงหรือชาเขียว



9.มนุษย์ยุคไฮเทคที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันทั้งคืน
หากได้ดื่มชาเป็นประจำจะดีมากๆ (ชาอะไรก็ได้ทั้งนั้น) เช่น
 ว่างเมื่อไหร่ก็คว้าแก้วน้ำชาข้างมือยกมาดื่มสักอึกสองอึกแก้กระหาย
จะช่วยป้องกันรังสีที่แผ่ออกมาจากเครื่อง อีกทั้งช่วยคลายเส้นคลายกระดูก
ลดความอาการอ่อนเพลียได้อย่างชะงัดนักแล



วันเสาร์, สิงหาคม 19, 2549

ขอส่งเรื่องงานพืชสวนโลกมาให้ชมครับ ใครใคร่ชม ก็ไปชมนะครับ


งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549
สถานที่ : ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ต.แม่เหียะ จ. เชียงใหม
วันที่ : 1 พฤศจิกายน 2549 - 31 มกราคม 2550
งานพืชสวนโลก

งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549- 31 มกราคม 2550 นี้ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ต.แม่เหียะ จ.เชียงใหม่ บนพื้นที่ 470 ไร่ เป็นงานที่รวบรวมสุดยอดความมหัศจรรย์แห่งพรรณไม้ ในพื้นที่เขตร้อนชื้นที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความหลากหลายมากที่สุดของพรรณไม้กว่า 2,200 ชนิด กว่า 2.5 ล้านต้น

งานพืชสวนโลก นี้ยังเป็นการประกาศศักยภาพการผลิตพืชผลทางการเกษตรของไทยด้าน พรรณไม้ดอกไม้ประดับ ไม้สมุนไพร พืชสวนครัว ไม้แปลกหายาก และ พืชผลทางการเกษตร สู่เวทีตลาดการค้าโลก ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
และฉลองพระชนมายุ 80 พรรษา เพื่อแสดงศักยภาพในการเพาะปลูกพันธุ์ไม้เขตร้อน และเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านการเกษตรของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีก้านพรรณไม้เขตร้อนทั่วโลก และเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กระตุ้นภาคเศรษฐกิจ สังคม และพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านกาเกษตร ภายใต้ Theme ของงาน
“เพื่อนำความรักสู่มนุษยชาติ” (To Express the Love for Humanity)

การจัดงานสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ได้รับการรับรองในการจัดงานในระดับ A1 อย่างเป็นทางการจากสำนักงานมหกรรมโลก ( Bureau of International Exposition – BIE ) สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ ( Association of Horticulture Producers – AIPH )
และภายใต้การสนับสนุนจาก สมาพันธ์ดอกไม้โลก ( World Flower Council – WFS ) และสมาคมพืชสวนนานาชาติ ( International Society for Horticultural Science – ISHS ) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพในการจัดงานของประเทศไทยทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะความพร้อมนด้านขนาดพื้นที่ ระยะเวลาการจัดงาน สาระนำเสนอในระดับสากล และความหลากหลายของพืชพรรณไม้ที่นำมาจัดแสดง






ภายใน งานพืชสวนโลก ประกอบด้วยไฮไลท์หลัก 7 ส่วน ได้แก่


1. หอคำหลวง (Royal Pavillion) รายละเอียด...
หอคำหลวง คือพื้นที่จัดแสดงส่วนกลางที่โดดเด่นที่สุดของงาน ตั้งอยู่บนเนินดิน
เนื้อที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร บริเวณถนนทางเข้าตกแต่งด้วยซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ฯ 30 ซุ้ม แต่ละซุ้มมีกรอบภาพพระบรมฉายาลักษณ์สี่ด้านติดกัน นำเสนอพระราชกรณียกิจและพระบรมราโชวาท ขนาบด้วยต้นราชพฤกษ์ตลอดสองข้างทาง ส้วนตัวอาคารเป็นเรือนไม้ครึ่งตึก 2 ชั้น ที่มีความงามสง่าและสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนา

คำว่า “หอคำ” หมายถึง พระตำหนักของกษัตริย์ในอาณาจักรล้านนา ส่วนคำว่า “หลวง” นั้นก็หมายถึง ใหญ่ นั่นเอง


2. สวนเฉลิมพระเกียรติ
รายละเอียด...
แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ นิทรรศการสวนนานาชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่การจัดแสดงสวนของประเทศต่างๆ
ในนามของประมุข รัฐบาล และประชาชนของประเทศนั้นๆ การจัดสวนของแต่ละประเทศแสดงถึง
ความงดงามทางวัฒนธรรม และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ โดยขณะนี้มีประเทศที่ตอบรับ
เข้าร่วมงานอย่างเป็นทางการ 33 ประเทศ จาก 5 ทวีปทั่วโลก

ส่วนที่ 2 คือ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ประเภทองค์กร ได้แก่ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ จากองค์กรต่าง ๆ ในประเทศ ทั้งภาครัฐ และเอกชน เป็นการนำทฤษฎีการเกษตรของในหลวง มาเป็นแนวคิดการจัดสวน

ตัวอย่างของสวนเฉลิมพระเกียรติภายใน งานพืชสวนโลก

ตัวอย่าง สวนทิวลิป
เนเธอร์แลนด์

ตัวอย่าง สวนทิวลิป
เนเธอร์แลนด์

ตัวอย่าง สวนทิวลิป
เนเธอร์แลนด์

จังหวัด เชียงใหม่

ธนาคารเพื่อการเกษตร
และ สหกรณ์การเกษตร

การประปานครหลวง


3. นิทรรศการในอาคารและการประกวด (อาคารศูนย์การเรียนรู้ - Indoor Exhibition) รายละเอียด...
จัดแสดงนิทรรศการพรรณไม้ เทคโนโลยี และการประกวดพรรณไม้ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ได้แก่ นิทรรศการดอกไม้นานาชาติ, นิทรรศการอลังการจักรวาลดอกไม้, นิทรรศการไม้น้ำและบัว นิทรรศการพรรณไม้แปลกหายากและพันธุ์ใหม่ เป็นต้น


4. นิทรรศการและประกวดกล้วยไม้ (Orchid Pavilion) รายละเอียด...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมมือกับสมาคมพืชสวน แห่งประเทศไทยและ สมาคม/ชมรมกล้วยไม้ต่างๆ รวมถึงหน่ายงานราชการ สถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง จัดสร้าง Orchid Pavilionขึ้น เพื่อจัดแสดงนิทรรศการและประกวดกล้วยไม้ บนพื้นที่ 4 ไร่
ภายใต้แนวคิด “Orchids of the World” เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจัดแสดงนิทรรศการ และการประกวดกล้วยไม้ที่ยิ่งใหญ่ และมีระยะเวลาการจัดงานที่ยาวนานที่สุดถึง 92 วัน


5. สวนพรรณไม้เขตร้อนชื้น(Fruit Hub) รายละเอียด...
เป็นพื้นที่จัดแสดงพันธุ์ไม้เขตร้อนชื้นที่มีความหลากหลาย และใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนพันธุ์ไม้มากกว่า 2,200 ชนิด รวมแล้วกว่า 2.5 ล้านต้น มาจัดแสดง เช่น ไม้ผล ผัก ไม้ทะเลทราย ไม้ในวรรณคดี ไม้พุทธประวัติ ไม้ในร่ม ไม้เลื้อย ไม้สะสม (กล้วยไม้, โป๊ยเซียน, โกสน, บอนไซ เป็นต้น)


6. ส่วนการแสดงพิเศษ รายละเอียด...
• สวนสมุนไพร เป็นส่วนจัดแสดงความหลากหลายของสมุนไพรไทยและการนำมาใช้ประโยชน์ ที่นำเสนอในรูปแบบของการจัดสวน ที่เน้นการจัดกลุ่มสมุนไพรตามลักษณะการใช้ประโยชน์ และการประชุม เป็นต้น
• การแสดงศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีทั้งในและต่างประเทศ เป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศต่าง ๆ ได้แสดงถึงวัฒนธรรม ประเพณีอันงดงามเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง ในช่วงระยะเวลา 92 วันของการจัดงาน ซึ่งการแสดงต่างๆ นั้นจะเกิดขึ้นใน 4 บริเวณ
ได้แก่ เวทีใหญ่ (Main Amphitheatre) เวทีในสวน (Mini Amphitheatre) เรือนไทย 4 ภาค (Thai Regional Houses) ถนนหน้าหอคำหลวง
• เรือนไทย 4 ภาคและอาคารชานพักเรือนไทย ลักษณะโดยรวมของอาคารเป็นเรือนหมู่เครื่องสับ (เรือนไม้) และมีเรือนเครื่องผูก (ใช้ไม้ไผ่และวัสดุในท้องถิ่น) โดยเนื้อหาของการจัดแสดงเป็นเรื่องเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม การตั้งถิ่นฐาน ขนบธรรมเนียม
ประเพณี งานสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมดนตรี นาฏศิลป์ การละเล่นและภูมิปัญญาท้องถิ่น
• ศูนย์การเรียนรู้โลกแมลง (Bug World) เป็นโลกแมลงเต็มรูปแบบในห้องปฏิบัติการมีชีวิตขนาดใหญ่ ด้วยแนวคิด “แมลงมีค่าล้ำ นำธรรมชาติสมดุล”
• กลุ่มอาคารเรือนกระจก เป็นอาคารเรือนกระจกควบคุมอุณหภูมิที่จัดแสดงด้านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่ทันสมัย และนำเสนอเทคโนโลยีที่มีการคิดค้นขึ้นเอง
• หอความรู้ (หอเกียรติยศ) เป็นอาคารสดุดีบุคคลหรือองค์ที่มีส่วนพัฒนาพืชสวนไทยให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ โดยมีวัตถุประสงค์แสดงความเป็นหนึ่งด้านพืชสวนในด้านศักยภาพพืชสวนไทยในระดับนานานาชาติ และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพืชสวนของบุคคลทั่วไป


7. การจัดประชุมวิชาการนานาชาติและสัมมนาเชิงปฏิบัติการนานาชาติ รายละเอียด...
นอกจากจะเป็นการจัดแสดงพันธุ์ไม้เขตร้อนที่ดีที่สุดในโลกงานหนึ่งแล้ว ยังได้จัดการเผยแพร่ความรู้วิชาการด้านพืชสวนเขตร้อน และเทคโนโลยีทางการเกษตรที่นักวิชาการของไทยมีความรู้ความสามารถในระดับนานาชาติ


ข้อมูลพื้นที่สำหรับการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรม

1. เวทีใหญ่ (Main Amphitheatre)
ลักษณะเวที : เวทีกลางแจ้ง รูปครึ่งวงกลม มีผ้าใบสีขาวขนาดใหญ่ คลุมเวที พื้นปูน ผิวขัดหยาบ
ขนาด : กว้าง 22.5 ม. ลึก 14 ม. ยกพื้น 1.1 ม.
ความจุผู้ชม : 1,000 ที่นั่ง จุสูงสุดประมาณ 1,500 คน
วันเวลาจัดการแสดง : จัดการแสดงเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ วันละ 1 รอบ เวลา 15.30-17.00 น.
แนวทางการแสดง : การแสดงมหรสพ ที่มีรอบการจัดแสดง เช่น การแสดงโขน การบรรเลงคอนเสิร์ต

2. เวทีในสวน (Mini Amphitheatre)
ลักษณะเวที : เวทีรูปวงกลม กลางแจ้ง พื้นปูน ผิวขัดหยาบ
ขนาด : เส้นผ่าศูนย์กลาง 4.6 ม. ยกพื้น 1.1 ม.
ความจุผู้ชม : 500 ที่นั่ง
วันเวลาจัดการแสดง : จัดการแสดงทุกวัน วันละ 2 รอบ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. และ 15.00 น.
แนวทางการแสดง : เป็นเวทีการแสดงดนตรีในสวน ที่นำเสนอดนตรีหลากหลายรูปแบบ
: เป็นวงดนตรีเล็ก ๆ สำหรับเป็นจุดพักผ่อนสำหรับผู้เข้าชมงาน
: เป็นเวทีการแสงพื้นบ้าน ที่มีผู้แสดงไม่เกิน 15 คน

3. เรือนไทย 4 ภาค (Thai Regional Houses)
ลักษณะเวที : บ้านทรงไทย 4 หลัง ตามลักษณะเอกลักษณ์แต่ละภาค ได้แก่ เรือนไทยภาคเหนือ เรือนไทยภาคกลางและตะวันออก
เรือนไทยภาคตะวันออกเฉีบงเหนือ และเรือนไทยภาคใต้
ความจุผู้ชม : 30 คน
วันเวลาจัดการแสดง : จัดการแสดงทุกวัน หมุนเวียนตลอดทั้งวัน
แนวทางการแสดง : เป็นส่วนการแสดงและสาธิตวิถีชีวิตทางวัฒนธรรมของแต่ละภาค
: การแสดงการละเล่นพื้นเมือง และวัฒนธรรมพื้นบ้านที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิต

4. ถนนหน้าหอคำหลวง
ลักษณะเวที : ถนนเส้นตรง ต้นถนนมีพื้นที่วงกลม ลักษณะคล้ายปรอท และตลอดสองข้างทางจะปลูกต้นราชพฤกษ์ตลอดแนว
ขนาด : กว้าง 10 ม. ยาว 70 ม.
วันเวลาจัดการแสดง : จัดการจัดการแสดงทุกวัน หมุนเวียนตลอดทั้งวัน
แนวทางการแสดง : ส่วนแสดงศิลปะร่วมสมัย อาทิ การวาดภาพเหมือนงานปฏิมากรรม มีศิลปินแสดงผลงานทางศิลปะ โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถเข้ามีส่วนร่วม เช่น วาดภาพและระบายสี ปั้น แกะสลัก เครื่องปั้นดินเผา การประกวดวาดภาพ
ซึ่งถ้าผู้เข้าชมงานสนใจชิ้นงานที่เสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถซื้อได้ในราคา ย่อมเยาว์


การจำหน่ายบัตร

บัตรประเภทเข้าชมงานครั้งเดียว
ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาในเขตกรุงเทพมหานคร
ทุกสาขาในเขตอำเภอเมือง อำเภอหาดใหญ่ หัวหิน และพัทยา

บัตรประเภทเข้าชมงานไม่จำกัดจำนวนครั้ง และบัตรประเภทหมู่คณะ
ศูนย์จำหน่ายบัตรราชพฤกษ์ 2549
สำนักงานผู้แทนไทย ชั้น 1
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนิน
ร้าน Direct 2U ทั่วประเทศ


เงื่อนไขการจำหน่ายบัตร
เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้เข้าชมงาน มหกรรมราชพฤกษ์ 2549 เปิดรับผู้เข้าชมงานเพียงวันละ 35,000 คนเท่านั้น
บัตรทุกใบจะออกโดยการระบุวันเข้าชม
ท่านสามารถเปลี่ยนวันเข้าชมได้ตามจำนวนครั้งที่กำหนด ณ เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตร (ยกเว้นบัตรอภินันทนาการ)
บัตรเข้าชมงานประเภทไม่จำกัดจำนวนครั้งจะต้องระบุชื่อผู้ซื้อบนบัตร
บัตรเข้าชมงานประเภทหมู่คณะ จะออกบัตรเพียง 1 ใบต่อคณะเท่านั้น
ท่านที่ซื้อบัตรล่วงหน้าจะได้รับส่วนลดพิเศษ 50 เปอร์เซ็นต์ทุกประเภท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
  • ศูนย์บริการข้อมูลราชพฤกษ์ โทร 0 2686-7272
  • ศูนย์บริการท่องเที่ยวการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 1672


การเดินทาง
เพื่อป้องกันปัญหาการจราจรคับคั่ง ทางผู้จัดงานพืชสวนโลก จึงไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้ามา
จอดภายในงานได้
การเดินทางเข้าชมงานพืชสวนโลก
ต้องขึ้นรถ Shutter Bus ของงานพืชสวนโลกเท่านั้น

สำหรับจุดขึ้นรถ Shutter Bus นั้น ทางผู้จัดงานฯ ได้ประสานกับจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ทางจังหวัดจัดหาจุดขึ้นรถ Shutter Bus ที่เหมาะสมต่อไป



สรุปข้อมูลสำคัญของงาน "ราชพฤกษ์ 2549"

จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
ในปี 2549 และจะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปี 2550
จัดเป็นเวลา 3 เดือน ระหว่าง 1 พฤศจิกายน 2549 - 31 มกราคม 2550 บนพื้นที่ 470 ไร่ ที่ตําบลแม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่
เป็นงานแสดงพันธุ์ดอกไม้ พืช และผลไม้เขตร้อนที่ดีที่สุดงานหนึ่งของโลก
จัดแสดงพันธุ์ไม้ 2,200 ชนิด จํานวนกว่า 2 ล้าน 5 แสนต้น
จัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจและโครงการในพระราชดําริในส่วน “หอคําหลวง
เป็นงานระดับนานาชาติที่รวมไว้ซึ่งความหลากหลายของพันธุ์ดอกไม้และศิลปวัฒนธรรมในส่วน สวนนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ (International Garden)
ได้รับความร่วมมือจากองค์กรชั้นนําในไทย สร้างสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ประเภทองค์กร (Corporate Garden) โดยได้ทฤษฎีด้านการเกษตรในพระราชดําริเป็นคอนเซ็ปท์ในการจัดสวน
แสดงความหลากหลายและจัดประกวดพืชพันธุ์ประเภทต่าง ๆ ในส่วนนิทรรศการหมุนเวียนภายในอาคาร (Indoor Exhibition) หัวข้อต่างกันทุกสัปดาห์
กว่า 80 พันธุ์พืชหาชมยากจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ
นับร้อยการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมจากทั่วประเทศและหลายประเทศที่ร่วมแสดง


ปฎิทินและกิจกรรมการแสดง

วันที่ กิจกรรมการแสดง
1 - 12 พ.ย.49 พิธีเปิดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ
การจัดงาน มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับนานาชาติ
8 พ.ย.49 งานเทศกาลลอยกระทง
11 - 19 พ.ย.49 มหกรรมการแสดงพรรณพืช ผัก ผลไม้ และเห็ด
18 - 26 พ.ย.49 การจัดแสดงพรรณพืช ประเภทไม้น้ำ
25 พ.ย. - 3 ธ.ค.49 ผลไม้เขตร้อน และพรรณพืชประเภทกล้วย
2 - 5 ธ.ค.49 การจัดแสดงพรรณไม้ดอกสีเหลือง และไม้ประดับ
5 ธ.ค.49 วันเฉลิมพระชนม์พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช
9 - 17 ธ.ค.49 การจัดแสดงพรรณไม้ ประเภทบอนไซ เฟิร์น ไม้บวบน้ำ และปาล์ม
16 - 24 ธ.ค.49 การจัดแสดงพรรณไม้กลิ่นหอม ไม้ใบ และไม้ตัดใบ
23 - 31 ธ.ค.49 การจัดแสดงไม้กระถาง
30 ธ.ค.49 - 14 ม.ค.50 การจัดแสดงกล้วยไม้
31 ธ.ค.49 - 1 ม.ค.50 นับถอยหลังวันส่งท้ายปีเก่า - ต้อนรับปีใหม่
13 - 21 ม.ค.49 การจัดแสดงไม้สมุนไพรและยา
20 - 28 ม.ค.50 การจัดแสดงพรรณไม้ดอกไม้ประดับเขตร้อน พิธีปิดงาน



อ้างจาก  http://www.ezytrip.com/festival/Royal_Flora/royal_flora.htm




ข้อค้นพบในการโฟกัส


ใช้กล้องตัวนี้ (a80) มานานจนซ่อมไปสองรอบ สีลอกไปรอบตัว และพยายามแงะีวิธีโฟกัสออกมาจนคิดว่ารู้หมดแล้ว
ตามนี้ http://notbirth.multiply.com/journal/item/13


แต่ก็เพิ่่งจะค้นพบวิธีโฟกัสอีกแบบนึง หุหุ
ตามปกติที่ผมเข้าใจ เวลาโฟกัส แล้วกดปุ่มโฟกัสกล้องลงครึ่งนึง ให้กล้องมันจับออโต้โฟกัส ได้กรอบสีเขียว
ถ้าถึงขึ้นนี้จะมีทางเลือกสองทาง คือ

1. กดชัตเตอร์แล้วปล่อยชัตเตอร ์ไปหาโฟกัสเอาใหม่่คราวหน้า
รึ 2. ล้อคโฟกัสไว้เลย คราวหน้าจะได้ไม่ต้องไปหาใหม่

วันนี้เองเพิ่งค้นพบทางเลือกที่สาม คือ กดชัตเตอร์ไปแล้วคืนชัตเตอร์แค่ครึ่งทาง ไม่ต้องคืนสุดนิ้ว จะพบว่ากรอบ ออโต้โฟกัสจะยังขึ้นสีเขียวอยู่ สามารถกดชัตเตอร์ต่อเนื่องได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาหาโฟกัสใหม่

หุหุ ได้ฟามรู้ใหม่เสียแล้วสิเรา



วันจันทร์, สิงหาคม 14, 2549

เพลงค่าน้ำนม เด็กร้อง




สามารถโหลดได้โดยการเซฟไฟล์จากลิงค์ด้านใต้นี้ (คลิ้กขวา เซฟแอด)
kanamnom.swf ครับผม


แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลัง
เมื่อยังนอนเปล
แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่
กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห
ไปจนไกล

เมื่อเล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
เติบ โตโอ้เล็กจนใหญ่
นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนา
เพราะค่าน้ำนม

ควร คิดพินิจให้ดี
ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม
โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม
เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนม
ให้ลูกดื่มกิน

ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้า
หนักกว่าแผ่นดิน
บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้น
พระคุณแม่เอย

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ค่าน้ำนมจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เพลงค่าน้ำนม เป็นเพลงที่แต่งโดย ไพบูลย์ บุตรขัน ขับร้องบันทึกเสียงครั้งแรกโดย ชาญ เย็นแข เมื่อ พ.ศ. 2492 ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก เป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับไพบูลย์ บุตรขัน และชาญ เย็นแข มากที่สุด ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงที่เป็นรากฐานของเพลงลูกทุ่ง ในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2532


เพลงค่าน้ำนม เป็นเพลงหนึ่งในจำนวน 5-6 เพลง ที่ไพบูลย์ บุตรขัน แต่งให้กับมารดา คือนางพร้อม ประณีต (ครูไพบูลย์ มีนามสกุลเดิมว่า ประณีต) ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลครูไพบูลย์อย่างใกล้ชิดมาตลอด ตั้งแต่วัยหนุ่มจนท่านเสียชีวิตในวัย 70 กว่าปี เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2508 ถึงแม้ครูไพบูลย์จะป่วยเป็นโรคเรื้อนซึ่งได้รับความรังเกียจจากบุคคลทั่วไป


เพลงค่าน้ำนม เป็นเพลงแรกที่ชาญ เย็นแข ได้รับการบันทึกเสียง โดยในครั้งแรกครูไพบูลย์ตั้งใจจะให้บุญช่วย หิรัญสุนทรเป็นผู้ขับร้องบันทึกเสียงกับวงดนตรีศิวารมย์ของครูสง่า อารัมภีร แต่บุญช่วย หิรัญสุนทรเกิดป่วยไม่สามารถมาร้องได้ ครูสง่าจึงเสนอให้ชาญ เย็นแขซึ่งเป็นลูกศิษย์ มาขับร้องแทน


ในการขับร้องบันทึกเสียงครั้งแรก ครูสง่า อารัมภีร เป็นผู้เล่นเปียโน บันทึกเสียงเพียงไม่กี่ครั้งก็ใช้งานได้ เรียบเรียงเสียงประสานโดย สง่า อารัมภีร และ ประกิจ วาทยกร (บุตรชายของพระเจนดุริยางค์) วางจำหน่ายเมื่อ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2492 โดยบริษัทนำไทย จำกัด แผ่นเสียงตราสุนัขสลากเขียว แผ่นครั่งขนาด 10" ความเร็ว 78 รอบต่อนาที ขายได้ 800 แผ่น


หลังจากแผ่นเสียงเพลงนี้ออกจำหน่าย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ลาวัณย์ โชตามระ นักหนังสือพิมพ์บันทึกไว้เมื่อ พ.ศ. 2508 ว่า เป็นประวัติการณ์ที่ว่า พอถึงวันแม่ซึ่งทางการยุคหนึ่งกำหนดให้ถือเอาวันที่ 15 เมษายน ตลอดวัน วิทยุก็จะกระจายเสียงแต่เพลงที่เขาแต่งขึ้น นั่นคือ เพลงค่าน้ำนม ที่มีเนื้อร้องขึ้นต้นว่า "แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง..."

เพลงใคร เวอชั่นเด็ก




คนที่เหงาคนหนึ่ง นั้นรอใครที่จะเข้าใจ
มาเป็นเพื่อนดูหนัง เป็นเพื่อนฟังเพลงใกล้ๆ
แบ่งปันทุกข์และสุข พูดคุยยามที่เหนื่อยหัวใจ
แต่ว่าคน ๆ นั้น จะได้เจอกันวันไหน
มองปฏิทินที่เปลี่ยนเข้ามาใหม่ มองคนรักเขาเดินเคียงใกล้
ฉันคงได้แต่มอง อยู่ตรงนี้

ใคร...สักคนที่เกิดมาเพื่อผูกพัน ใคร...ที่เกิดมาคู่กับฉัน
ใคร...คือคนนั้นช่วยมา บอกฉันที
ให้ใจที่หวั่นไหวได้พึ่งพิงซักที่ ให้รู้ว่าซักวันฉันจะเจอคน ๆ นี้
และใคร...ที่รอคนนี้ มีจริงใช่ไหม

วันที่แสนว่างเปล่า ทุกคราวพยายามเข้าใจ
แต่ว่าในวันนี้ ข้างในกลับทนไม่ไหว
มองปฏิทินที่เปลี่ยนเข้ามาใหม่ มองคนรักเขาเดินเคียงใกล้
ฉันคงได้แต่มอง อยู่ตรงนี้

ใคร...สักคนที่เกิดมาเพื่อผูกพัน ใคร...ที่เกิดมาคู่กับฉัน
ใคร...คือคนนั้นช่วยมา บอกฉันที
ให้ใจที่หวั่นไหวได้พึ่งพิงซักที่ ให้รู้ว่าซักวันฉันจะเจอคน ๆ นี้
และใคร...ที่รอคนนี้ มีจริงใช่ไหม

ใคร...สักคนที่เกิดมาเพื่อผูกพัน ใคร...ที่เกิดมาคู่กับฉัน
ใคร...คือคนนั้นช่วยมา บอกฉันที
ให้ใจที่หวั่นไหวได้พึ่งพิงซักที่ ให้รู้ว่าซักวันฉันจะเจอคน ๆ นี้
และใครที่รอคนนี้ มีจริงใช่ไหม

และใคร...ที่รอตอนนี้ เขาอยู่ที่ไหน

คลิกขวาเซฟได้ที่นี่ครับ krai_boy_daughter.wma

มาเล่นกล้องกันเถอะ

Rating:★★★★★
Category:Computers & Electronics
Product Type: Digital Cameras
Manufacturer:  makezine
ไปเจอเวปนี้เข้า http://www.makezine.com/blog/archive/imaging/
เป็นเวปเกี่ยวกับการ "โม" กล้อง ต่างต่างนานาจิตตัง แล้วแต่จะคิด

เห็นแล้วอึ้ง โดยเฉพาะการทำสายชัตเตอร์ให้กับเจ้า A 80 โอ้ ยอดที่ซู้ดดดดดด
http://www.infotbs.com/pierre/A80_remote/remote.htm

วันอังคาร, สิงหาคม 08, 2549

การบริหารเจ้านาย

มีผู้คนจำนวนมากพยายามที่จะพัฒนาตนเองในด้านการบริหาร
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มุ่งที่จะ บริหารบุคคล
 ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของงานการบริหาร  (แต่น้อยมากที่จะคิดพยายามที่จะบริหารตนเอง) ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว
 งานบริหารบุคคลที่คิดกันอยู่ก็คือ
   การบริหารผู้ใต้บังคับบัญชาของตน
  จะมีใครคิดบ้างไหมว่าคนที่เราน่าจะคิดบริหารมากที่สุด(นอกจากตัวเราเองแล้ว)
 ก็คือ ผู้บังคับบัญชา หรือ เจ้านาย
ของเรานั่นเอง

        การบริหารเจ้านาย
      มิได้หมายความถึงการพยายามทำให้เจ้านายอยู่ภายใต้อาณัติของเรา
    หรือเป็นเสมือนหุ่นเชิดของเรา
ถ้าใครคิดเช่นนั้นถือว่าเป็นความผิดอย่างมหันต์

    และไม่สมควรอย่างยิ่ง

        เจ้านาย(BOSS) หรือผู้บังคับบัญชา
 ก็คือผู้ที่มีอำนาจเหนือเราในการดำเนินงานที่ทำอยู่เป็นกิจวัตรประจำวัน
  เจ้านายอาจจะมีบางอย่างหรือหลายอย่างด้อยกว่าเรา  เช่น  ความรู้ด้อยกว่า
  วิสัยทัศน์(VISION)สั้นกว่า  หรืออีกหลายๆอย่างที่แย่กว่า(ในความเข้าใจของเราเอง)
 แต่เจ้านายทุกคนไม่ขาดเลยก็คือ  อำนาจที่เหนือกว่า
อำนาจที่จะลงโทษหรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแก่เรา
และอย่าลืมว่าทุกคนมีเจ้านาย
อย่าคิดว่าตนเป็นเจ้านายของผู้อื่นเท่านั้น

        ทำไมบางคนจึงเข้าหาเจ้านายได้   เรามักมองคนที่เข้าเจ้านายได้ดีว่าเป็นคนประจบสอพลอ
เป็นคนเลียแข้งเลียขา
 แต่เราก็มักแอบอิจฉาอยู่ในใจตลอดมาว่า
   ทำอย่างไรเจ้านายจึงจะรักเราเช่นนั้นได้
ทำอย่างไรจึงจะทำให้คนที่เราทั้งรัก
   ทั้งเกลียด ทั้งกลัว
รักเราได้

        นายแพทย์กระแส  ชนะวงศ์ นายแพทย์แมกไซไซ
เคยให้หลักในการบริหารเจ้านายไว้
10 ประการ
คือ

1. จงเป็นนักฟังที่ดี
คือต้องไม่ แกล้งฟัง (ทำท่าว่าฟัง แต่ไม่รู้เรื่อง) ต้องตั้งใจ
และตีความหมายแท้จริงที่เจ้านายพูดให้ได้ สรุปความให้ได้

   อย่ามัวประสาทเมื่อเจอเจ้านาย
    สบสายตาบ้าง  (แต่อย่าตลอดเวลา) เมื่อเจ้านายพูดจบ   อาจถามทวนเพื่อความแจ่มชัด (เท่าที่จำเป็น)  จดข้อความที่จำเป็น(อย่าเอาแต่จด)    และโปรดจำไว้ว่า เจ้านายเหมือนกันทุกคนคือ
ไม่ชอบบอกซ้ำเรื่องเดิมบ่อยๆ

2. พูดตรงประเด็น
กระทัดรัด
  เวลามีค่าสำหรับผู้บริหารทุกคน ใช้เวลาให้น้อยที่สุด
 เลือกเฉพาะที่สำคัญ พูดให้ตรงจุด ไม่อ้อมค้อม
ชัดเจน
 หากทำรายงาน   ควรจำกัดความยาวเพียง 1 หน้ากระ
ดาษเป็นดีที่สุด การเขียนสั้นๆ แต่มีประสิทธิภาพนั้น
แสดงว่าได้คิดและกลั่นกรองแล้ว

3. ใช้หลักการทูต
ข้อเสนอต่างๆ
 ควรเปิดโอกาสให้เจ้านายได้เป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย
    ด้วยความภาคภูมิใจ สบายใจ
   (เราเองก็จะได้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเสนอ)
      อย่าปฏิเสธข้อเสนอของเจ้านายทันทีทันใด  เพราะอย่างน้อยท่านต้องคิดถึงข้อดีข้อเสียแล้ว
  ถ้าไม่เห็นด้วยจริงๆอาจจะลองเสนอว่าถ้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้จะเป็นอย่างไร
แต่อย่ามัวเกรงว่า เรื่องบางอย่างอาจจะกระทบเจ้านายให้ไม่พอใจ

   เพราะอาจเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของเจ้านาย
ลูกน้องที่เต็มใจบอกเจ้านายอย่างสุภาพว่า ท่านลืมรูดซิบ

  ดีกว่าลูกน้องที่ชมกันตะพึดตะพือ
อย่างไม่ลืมหูลืมตา

4. แก้ปัญหาด้วยตนเอง   ทุกวันนี้ไม่มีอะไรที่ทำให้ผู้บริหารเสียเวลา  และเสียหัวสมองมากเท่ากับการคอยแก้ปัญหาให้ลูกน้อง

5. ส่งเสริมภาพพจน์ที่ดีของเจ้านาย
   ควรหาจุดเด่นของเจ้านาย
  และหาโอกาสส่งเสริมจุดเด่นเหล่านั้น
อย่าทำให้เจ้านายเป็นตัวตลก หรือตัวโง่
 (แม้แต่รู้สึก)  บางครั้งอาจต้องยอมให้เครดิตแก่เจ้านาย  แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นของตนเอง เมื่อเจ้านายดีขึ้น
เราก็มีโอกาสดีขึ้นด้วย


6. มองโลกในแง่ด
 นักบริหารที่ประสบผลสำเร็จล้วนแต่มองโลกในแง่ดี
อย่ามองทุกอย่างเป็นปัญหา แต่ให้มองเป็นสิ่งที่ท้าทาย เวลาพูดกับเจ้านาย
ถึงผู้ร่วมงานจงพูดแต่สิ่งที่ดี
แสดงถึงการเป็นคนที่ทำงานกับผู้อื่นได้

7. อย่าทำงานล่วงเวลา    แต่จงทำงานก่อนเวลา    การทำงานแต่เช้าบอกให้รู้ว่า ท่านกระหายที่จะทำงาน
  ในขณะที่ทำงานล่วงเวลาบอกให้รู้ว่า
ท่านยังทำงานไม่เสร็จ

8. รักษาคำมั่นสัญญา   เจ้านายเข้าใจในปัญหาอุปสรรคของลูกน้องเสมอ
   แต่เจ้านายไม่ปรารถนาที่จะฟังคำแก้ตัวเมื่องานไม่เสร็จตามเวลา


9.
รู้จักเจ้านาย
  หาความรู้พื้นฐานของเจ้านายว่าเป็นอย่างไร  ประวัติ  นิสัยการทำงาน
 เป้าหมาย ในชีวิต ฯลฯ (เจ้านายชอบดูมวย
ไปขอคำปรึกษาขณะที่เจ้านายกำลังลุ้นมวย
  ย่อมก่อให้เกิดความหงุดหงิดไม่มากก็น้อย)

10. อย่าใกล้ชิดเจ้านายมากเกินไป
   ความใกล้ชิดเกินไปจะทำให้ท่านตีเสมอเจ้านาย
     อาจเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
เพื่อนร่วมงานก็อิจฉา
  เจ้านายเหมือนกับไฟ
อยู่ไกลก็หนาว
อยู่ใกล้เกินก็ไหม้

        การพยายามทำให้เจ้านายรัก เจ้านายมองเห็นความดี  ความสามารถของเรา    ในการที่จะสร้างสรรค์งาน และไว้วางใจ
    มอบหมายงานสำคัญให้เราทำด้วยความเต็มใจ
มีความสุขที่จะสนับสนุนงานของเราให้สำเร็จ
  โดยเจ้านายมีความมั่นใจว่า แท้จริงแล้วงานที่เราทำอยู่
 ก็คืองานของเจ้านายนั่นเอง คือสิ่งที่ผู้เขียนเรียกว่า
การบริหารเจ้านายในที่นี้
        แต่ถ้าเป็นการทำแบบหวังกอบโกยความก้าวหน้าส่วนตัว  เหยียบหัวเพื่อนฝูงเพื่อเอาแต่ได้ส่วนตนถ่ายเดียวแล้วไซร้
 สมควรเรียกว่าประจบสอพลอ


รูปมหัศจรรย์



ลองดูรูปข้างข้างนี้ คุณจะเห็นคนขี้โกรธอยู่ด้านซ้าย
และคนใจดีอยู่ทางด้านขวา

ลองลุกขึ้น แล้วถอยหลังมานิดนึงสัก 2-3 ก้าว แล้วคุณก็จะเห็นว่า
รูปภาพสลับที่กันแล้ว

เชื่อว่าภาพนี้สร้างขึ้น
โดย
Phillippe G.Schyns and Aude Oliva แห่งมหาวิทยาลัยกลาสโกลว์

ภาพนี้ทำให้เรารู้ว่าบางทีสิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นอยู่ก็ได้


ทุกครั้งที่เราเห็นคนหน้าบึ้ง แล้วไม่ชอบหน้าเขา อย่าลืมนึกถึงภาพนี้



จัดลำดับในชีวิต

ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชนเพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท


   เขาเตรียมการสอนอยู่หลายวันจึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึดหัดง่ายๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด
  
  
 เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ   เมื่อได้เวลาเรียนเขาหยิบเหยือกแก้วขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ลูกเทนนิสลงไปจนเต็ม


พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือยัง?”  เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท
  
  
 แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่นคิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน
  เต็มแล้ว...”


   เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหันไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจหยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเทกรวดเม็ดเล็กๆ  จำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับเขย่าเหยือกเบาๆ   กรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ระหว่างลูกเทนนิสอัดจนแน่นเหยือก
   
   เขาหันไปถามนักศึกษาอีกเหยือกเต็มหรือยัง?”นักศึกษามองดูอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมาตอบเต็มแล้ว...”
   
   เขายังยิ้มเช่นเดิมหันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมา เททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก
  
  เม็ดทรายไหลลงไปตามช่องว่างระหว่างกรวดกับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดาย
   เขาเทจนทรายหมดถุง เขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก
   เขาหันไปถามนักศึกษาอีกครั้งเหยือกเต็มหรือยัง?”
   
  เพื่อป้องกันการหน้าแตกนักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากัน
  ปรึกษากันอยู่นานหลายคนเดินก้าวเข้ามาก้มๆเงย ๆมองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง
  
   มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน..จวบจนเวลาผ่านไปเกือบห้านาที
  หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน   เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น
   คราวนี้เต็มแน่นอนครับอาจารย์

 แน่ใจนะ
   แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ

 คราวนี้เขาหยิบน้ำอัดลมสองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะแล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอ
   ไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทรายลงไปจนหมด   ทั้งชั้นเรียนหัวเราะฮือฮากันยกใหญ่
   เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีไหนพวกคุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ๆไง


   เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียนวันนี้ไว้
     
  เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคนเรา
   ลูกเทนนิสเปรียบเหมือนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น ครอบครัว   คู่ชีวิต การเรียน สุขภาพ ลูก และเพื่อน   สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณต้องสนใจจริง สูญเสียไปไม่ได้...


   ...เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญรองลงมา เช่น งาน บ้าน  รถยนต์   ทรายก็คือเรื่องอื่นๆ ที่เหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ  ที่เราจำเป็นต้องทำ   แต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆ น้อย ๆ เหล่านี้....
   
   เหยือกนี้เปรียบกับชีวิตของคุณถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อน   คุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอดเวลา    ชีวิตเต็มแล้ว...เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวด   ไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน...”
  
 ...ชีวิตของคนเราทุกคน..ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ
   เราจะไม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเรื่องสำคัญกว่า...   เพราะฉะนั้นในแต่ละวันของชีวิต
  
  เราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข   ใช้ชีวิตเล่นกับลูกๆ   หาเวลาไปตรวจร่างกาย พาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด
  
 พากันออกกำลังกายเล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสองชั่วโมง   เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิต   เราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ   ดูแลลูกเทนนิสของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมด...”
  
  
 หลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ   ตัวเรา...”
   
  
  นักศึกษาคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไปล่ะครับ   หมายถึงอะไร?”


   เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยากให้เห็นว่า   ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวายสับสนเพียงใด   ในความสับสนและวุ่นวายเหล่านั้น  คุณยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ...”
   
   คุณจะเป็นคนประเภทไหน ?   ??? คน 4 ประเภท ???
   
   1. มีเงิน มีเวลา (คงจะมีความสุขเหลือล้น   เพราะสามารถเอาเงินไปใช้พักผ่อนหย่อนใจในเวลาว่างได้เต็มที่)

   2. มีเงิน ไม่มีเวลา (คงแย่หน่อย เพราะไม่มีเวลาว่างให้ใช้เงิน)

   3. มีเวลา ไม่มีเงิน (คงน่าเบื่อแย่  เพราะต้องอยู่กับบ้านเฉยๆ   ออกไปไหนไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน)

   4. ไม่มีทั้งเงินและเวลา !!! (อันนี้คิดเอาเอง???)
  



วันจันทร์, สิงหาคม 07, 2549

ข้อความดีดี ให้ คนที่เรารู้สึกดีดี


เช้าวันหนึ่ง..ที่โรงพยาบาล....

"ขอให้ชั้นดูหน้าลูกหน่อย..ได้มั๊ยคะ" คุณแม่คนใหม่เอ่ยขึ้น..>
เมื่อห่อผ้าน้อย ๆ .............อยู่ในอ้อมกอดเธอ เธอค่อย ๆ คลี่ผ้าที่ห่อออกเพื่อมองใบหน้าเล็ก ๆ ........

กรี๊ดดดด.....เธอกรีดร้อง หมอต้องอุ้มเด็ก..ออกไปอย่างรวดเร็ว เด็กทารกที่เกิดมา...ไม่มีใบหู**

และแล้ว....กาลเวลาพิสูจน์ว่า.... การได้ยินของเจ้าหนู..ไม่มีปัญหา
ปัญหา..มีเฉพาะสิ่งที่มองเห็นภายนอก คือ....ใบหูที่หายไป
หลายครั้ง..ที่เจ้าหนูกลับจากโรงเรียน แล้ววิ่งมาบอกแม่ เธอรู้ว่า..หัวใจลูกปวดร้าวแค่ไหน...

เจ้าหนูพูดโพล่งออกมา..อย่างน่าเศร้า
"พวกเด็กตัวโต ..พวกมันล้อผมว่า...ไอ้ตัวประหลาด

จนกระทั่ง............... เจ้าหนูเติบโตขึ้น..หล่อเหลา เป็นที่รักของเพื่อน ๆเค้ามีพรสวรรค์  ในด้านอักษรศาสตร์.. วรรณคดี..และดนตรี..>

>>> >>>>เค้าอาจได้เป็นหัวหน้าชั้น แต่เพราะเจ้าสิ่งนั้น... ทำให้เค้า..ไม่อยากเจอใคร

"ลูกต้องพบปะกับผู้คนบ้างนะลูก" แม่กล่าว..ด้วยความสงสารลูก


พ่อของเด็กชาย.. ปรึกษากับหมอประจำครอบครัว และได้รับข่าวดีจากหมอว่า...
"ผมสามารถปลูกถ่ายใบหูได้ครับ  ถ้ามีผู้บริจาค..แต่ใครล่ะ..จะเสียสละใบหู..เพื่อเด็กน้อยคนนี้" คุณหมอกล่าว

จนกระทั่ง ..............2 ปีผ่านไป พ่อบอกกับลูกชาย
"ลูกเตรียมตัวไปโรงพยาบาลนะ พ่อกับแม่..หาคนบริจาคใบหูที่ลูกต้องการได้แล้ว...แต่นี่เป็นความลับ"

การผ่าตัด..สำเร็จด้วยดี และแล้ว...คนคนใหม่ก็เกิดขึ้น
เค้ากลายเป็น..ผู้มีพรสวรรค์ เป็นอัจฉริยะในโรงเรียน...ในวิทยาลัย จนเป็นที่กล่าวขานกัน..รุ่นต่อรุ่น
ต่อมาได้แต่งงาน... และทำงาน.. เป็นข้าราชการในสถานทูต


วันหนึ่ง..ชายหนุ่มถามผู้เป็นพ่อว่า

"พ่อครับ.. ใครเป็นคนมอบใบหูให้ผมมา ใครช่างให้ผมได้มากมาย แต่ผมไม่เคยทำอะไร.. เพื่อเค้าได้เลยสักนิด"

"พ่อไม่เชื่อว่า.. ลูกจะตอบแทนเค้าได้หมดหรอก....เรื่องนี้..............เป็นความลับ เราตกลงกันแล้ว" พ่อตอบ..

หลายปีผ่านไป....มันยังคงเป็นความลับ

และแล้ว..วันนึง..วันที่มืดมิดที่สุด..ผ่านเข้ามา..ในชีวิตของลูกชาย แม่เค้าได้เสียชีวิตลง เค้ายืนข้าง ๆ พ่อ...
ใกล้หีบศพของแม่

พ่อเรียกเค้า.."มานี่สิลูก..มานั่งใกล้ ๆ นี่"พ่อลูบผมแม่อย่างช้า ๆ..และนุ่มนวล ผมสีน้ำตาลแดง..ถูกเสยขึ้น
จนมองเห็นใบหน้าที่มองดูเหมือนคนนอนหลับ

...และแล้ว.. สิ่งที่ทำให้ลูกชาย..ถึงกับต้องตะลึง.....ใบหูของแม่...หายไป!.. แม่ไม่มีใบหู...

"นี่เป็นคำตอบ.. ที่ลูกอยากรู้มาตลอดชีวิต".. พ่อกระซิบผ่านลูกชาย

"แม่บอกพ่อว่า..เธอดีใจ.............. ที่ได้ทำอย่างนี้..ตั้งแต่วันผ่าตัด..แม่ไม่เคยตัดผมอีกเลย..ไม่มีใคร..มองเห็นว่า.. เธอไม่สวยจริงมั๊ย?

จงจำไว้..สิ่งมีค่า..............ที่แท้จริง~ไม่ได้อยู่ที่..การมองเห็น..
หากแต่อยู่ที่..~สิ่งที่เรา..มองไม่เห็น

~ความรัก..ที่แท้จริง~  ไม่ได้อยู่ที่..เราได้ทำอะไร.. แล้วมีคน..รับรู้..
หากแต่อยู่ที่.. สิ่งที่เรา..กระทำ..แล้วไม่มีใคร..รับรู้ ..

~ความรัก~ บางครั้ง.. ไม่จำเป็น..ต้องพูดพร่ำเพรื่อ..
หากแต่อยู่ที่....การกระทำ. ซึ่งเรา..อาจรับรู้..เพียงแค่..ฝ่ายเดียว..


อ่านจบแล้ว..ใช้สมอง..ตรึกตรองสักนิด..ถ้าพรุ่งนี้..เราตายไป..
บริษัท..สามารถหาคนมาแทนเราได้ภายในไม่กี่วัน..
แต่ครอบครัวเรา..ต้องสูญเสีย..และคิดถึงเรา..ไปตลอด
เราได้ใช้ชีวิต..กับการทำงาน มากกว่าครอบครัว..หรือเปล่า?
ถ้ามากกว่า...ก็เป็นการลงทุน..ที่ไม่ฉลาดเลยจริง ๆ..


[ ส่งต่อเรื่องดีๆมาจาก.. คุณอรพรรณ ศรีวิชัย นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมหิดล]





วันอาทิตย์, สิงหาคม 06, 2549

ครึ่งหนึ่งของชีวิต


ถ้าเพียงใครสักคนเดินไปจากชีวิต แล้วคุณรู้สึกว่าโลกจะถล่มทลาย  อยู่ต่อไปไม่ได้

ลองปรึกษาชายคนนี้ดูนะ






(ปล.ได้มาจากเมล์ครับ)




นิ้วนาง กบฏ



เค้าว่ากันว่า หากเราทำนิ้ว ทำมือ ประกบกันดังรูปนี้

แล้วลองสั่งให้นิ้วมือแยกจากกันครั้งละคู่้ ในขณะที่นิ้วอื่นๆ ยังประกบติดกันอยู่

เราจะพบว่า เราจะไม่สามารถ"สั่ง"ให้นิ้วนางของทั้งสองมือ แยกจากกันได้ ในขณะที่นิ้วอื่น สั่งได้

นั่นหมายความว่า นิ้วนางเป็นนิ้วที่มีอิสระ เสรีภาพ และสั่งไม่ได้

ซึ่งเหมือนกับเรื่องของหัวใจ และความรัก ที่เราไม่สามารถสั่งมันได้ และอยู่นอกเหนือการควบคุม

นี่จึงเป็นอีกเหตุผลนึงกระมังที่ แหวนแต่งงาน ถูกสวมไว้ที่นิ้วนาง เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ ของความรักที่อิสระและเป็น กบฏต่อการถูกควบคุม ความรักจะเลือกสิ่งที่รัก ด้วยตัวมันเอง





(อีกเหตุผลนึงคือ เพราะเส้นเลือดจากนิ้วนางมือซ้ายจะวิ่งตรงไปสู่หัวใจของเราเอง จึงสื่อว่านิ้วนางซ้ายเป็นสิ่งที่ใกล้หัวใจมาก ปล.เส้นเลือดทุกเส้นก็น่าจะส่งเลือดไปผ่านหัวใจนี่นา)




เค้าว่า คนเกิดวันที่เท่านี้จะเป็นอย่างนั้น

>
> คนเกิดวันที่ 1 เป็นคนรักเสรีกล้าหาญ และไม่ก้มหัวให้ใคร
>เป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองจน เกือบจะเรียกได้ว่าดื้อรั้น
>พอใจที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และไม่สนใจว่าใครคิดยังไงกับตัว
ด้วยมีอารมณ์
>รุนแรง กระด้าง แข็งกร้าว คิดอย่างไรก็พูดไปอย่างนั้น
>ไม่กลัวว่าจะพูดอะไรออกไร
>และเมื่อจำเป็นจะต้องต่อสู้เพื่อสิ่งที่เห็นว่าถูกต้องแล้ว
จะทุ่มเททุกอย่าง
>
> คนเกิดวันที่หนึ่ง จะกำหนดเป้าหมายของชีวิตไว้สูงสุด
>ตั้งใจแสวงหาความเป็นเลิศให้แก่ชีวิตในทุกด้าน
>แต่จะไม่ยอมบอกหรือแม้แต่แสดงออกให้คนอื่นรู้ว่ากำลังประสงค์อะไร
>เป็นคนมีเพื่อนสนิทแต่มักจะหยิ่งเกินกว่าที่จะให้เพื่อนสนิทรู้ว่ากำลังเผชิญปัญหาหรือผิดหวัง
>
> คนที่จะเอาชนะคนเกิดวันที่หนึ่งก็คือคนที่มีนิสัยเหมือนกัน
>ถ้าได้พบคนที่มีนิสัยเหมือนกันแล้ว
>เวลาทั้งหมดที่มีอยู่จะยกให้เพื่อนคนนั้นจนหมดสิ้น
>แต่กระนั้นก็ตามก็ยังไม่ยอมบอกให้เพื่อนสนิทคนนั้นรับรู้ถึงปัญหาหรือความคิดที่แท้จริงของตนเองอยู่ดี
>คนเกิดวันที่หนึ่ง จะหลงรักคนง่ายและรักอย่างลึกซึ้งด้วย
>แต่ความรักก็เป็นเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งที่คนเกิดวันที่หนึ่งปกปิด
>ดังนั้นความรักจึงเป็นเพียงความลึกซึ้งที่เก็บไว้ในใจเท่านั้น
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 2
ของทุกเดือนเป็นคนที่ให้ความสำคัญแก่เพื่อนมากที่สุด
>ไม่ว่าจะคิด จะทำอะไร ก็จะคิดถึงเพื่อนก่อนเสมอ
>และมักจะไม่ทำอะไรโดยไม่ปรึกษาเพื่อน ทั้ง ๆ
ที่ตัวเองเป็นคนฉลาดเฉียบแหลม
>มองการณ์ไกล เห็นประโยชน์ระยะยาว ไม่ใช่คนโลเลต้องคอยทำตามเพื่อน
>แต่เป็นคนที่ต้องการให้เพื่อน (หรือคนรัก)
>รับรองว่าสิ่งที่ทำไปนั้นถูกต้องแล้วทั้ง ๆที่ตัวเองก็รู้ว่าทำ ถูกแล้ว
>แต่ก็อยากให้มีคนมาบอกว่าทำถูกแล้วอยู่ดี
>
>
>เป็นคนฉลาดสามารถหยิบฉวยประโยชน์จากคำแนะนำหรือข้อวิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อน
>นำมาประสมประสานให้เกิดผลดีแก่งานเต็มที่
>เวลาทำงานจะคิดแต่เพียงว่าเพื่อนคนใดจะได้ประโยชน์อันใดบ้าง
>แทนที่จะคิดถึงตัวเองก่อน คนที่มีเพื่อนเกิดวันที่ 2
>จึงมักได้การเกื้อกูลเป็นอย่างดี
>
> โดยปกติแล้วเป็นคนเรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่ชอบขัดใจ
>ใครและพร้อมที่จะคบหาผู้คน (เพราะอยากมีเพื่อนมากอยู่แล้ว)
แต่มีข้อเสียคือ
>อารมณ์จะเปลี่ยนแปลงง่ายใครทำอะไรขัดใจหรือ
>ความรู้สึกไม่ได้เลยจะเกิดน้อยใจหรือโกรธวู่วามขึ้นมาทันที
เมื่อเวลาอารมณ์ดี
>ก็เคล้าเคลียกันเหมือนแมวเชื่อง ๆ แต่
>ถ้าใครทำให้ผิดใจก็จะกลายเป็นพยัคฆ์ร้ายขึ้นมาทันที เพื่อน ๆ
ของคนเกิดวันที่
>2 นี้มักจะพากันห่าง ๆหรือระวังเมื่ออยู่ใกล้ เพราะกลัวอารมณ์แปรปรวน
>จุดอ่อนนี้เองที่ทำให้คนเกิดวันที่ 2 มี เพื่อนน้อยลงกว่าที่ควร
>
> สิ่งที่คนเกิดวันที่ 2 กลัวมากที่สุดคือ ความเหงา ความว้าเหว่
>การอยู่คนเดียว คิดคนเดียว ทำคนเดียว
>บางทีแม้แต่อยู่ท่ามกลางเพื่อนก็ยังแอบนึกไปว่า เพื่อนไม่ให้ควาามสนใจ
>ถ้าเพื่อนของท่านเกิดวันที่ 2 ก็อย่าแปลกใจเลย ถ้าเห็นว่าเพื่อนงอน
เก่งขี้หึง
>และบางทีก็เจ้าอารมณ์ เพราะนั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่เขา(หรือเธอ)
>ก็เป็นเพื่อนที่รักท่านมาก เพราะคนที่เกิดวันที่ 2
>ชอบคบคนวนเวียนอยู่แต่กับเพื่อนเท่านั้น
>
>
>
>
>
> คนที่เกิดวันที่ 3 ท่านคือเพื่อนที่แสนดี คนที่เกิดวันที่ 3
>เป็นคนเฉลียวฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์
>ความคิดของคนที่เกิดวันนี้ไม่เคยหยุดนิ่ง
>และหากใครทำตามความคิดนั้นก็จะได้พบกับความสำเร็จในการสรรสร้างสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม
>
> คนที่เกิดวันที่ 3
>เป็นผู้นำทางความคิดในการพัฒนาเหมาะมากสำหรับงานในตำแหน่ง "ฝ่ายวางแผน
>และพัฒนา" นอกจากจะมีความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังมักคะเนเหตุการณ์ต่าง ๆ
>ข้างหน้า ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทั้งนี้มิใช่อาศัยโหราศาสตร์
>แต่อาศัยความใฝ่รู้ และดวงปัญญาอันแจ่มใสมากกว่า
>
> คนเกิดวันที่ 3
>มีเสน่ห์อยู่ที่ความเปิดเผยมีความคิดความเห็นอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น
ตรง
>ไม่เคยเกรงว่าคนที่ได้ฟังจะมีความรู้สึกอย่างไรต่อตัวเอง
>ถ้าเห็นว่าสิ่งใดไม่ถูกต้อง หรือแม้แต่ไม่ถูกใจก็จะพูดไปตามความรู้สึก
>ซึ่งบางครั้งหรือบ่อยครั้งก็พูดแรงเกินไป
>และแสดงกิริยาไม่ชอบใจออกมาให้เห็นทีเดียว
>
> สิ่งที่คนเกิดวันที่ 3 ชอบมากที่สุดก็คือ
>การที่ได้อยู่ในกลุ่มของเพื่อนสนิทมิตรสหาย
>ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างเต็มที่และตรงไปตรงมา
>จะว่าคนเกิดวันนี้พูดเป็นแต่เรื่องจริงจัง ไม่มีเรื่องโรแมนติกก็คงจะได้
>แต่ที่จริงแล้ว เป็นคนชอบความงามตามธรรมชาติ และความแปลกใหม่
>
> ถ้าท่านมีเพื่อนเกิดวันที่ 3 ท่านไม่ควรพาเขาไปเที่ยวที่เก่า
>ไม่ควรสั่งอาหารชุดเดิมมาเลี้ยงเขาหรือเธอเป็นอันขาด
> เพราะสิ่งเก่า ๆ ขัดกับความคิดที่ไม่หยุดนิ่งของเขา ใครที่ชอบนัด
>"ที่เก่าเวลาเดิม" จะทำให้คนเกิดวันที่ 3 รู้สึกเบื่อ
>
> คนเกิดวันที่ 3 ไม่ชอบให้ใครมากำกับให้ทำหรือไม่ให้ทำอย่างโน้น
>อย่างนี้ บางทีจะทำตรงกันข้ามกับข้อห้ามหรือ "คำแนะนำ" เหล่านั้น
>เพื่อเป็นการประท้วงไปเลยก็ได้
>
> ในขณะที่คนเกิดวันที่ 3 เป็นคนรักเพื่อน
ตรงไปตรงมาและจริงใจกับเพื่อน
>รับผิดชอบการงานอย่างฉลาดและสร้างสรรค์ แต่ในความรู้สึกลึก ๆ
>กลับเป็นคนที่ว้าเหว่ หาเพื่อนสนิทไม่ได้และในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น
>ไม่ค่อยมีใครสนิทกับคนเกิดวันนี้นัก ถ้าท่านมีเพื่อนที่เกิดวันที่ 3
>จงให้ความจริงใจต่อคนผู้นั้นให้ความรัก และเอาใจใส่
>ท่านจะได้รับน้ำใจตอบสนองอย่างเพื่อนที่แสนดี
หรือถ้าท่านรักกับคนเกิดวันที่ 3
>ท่านก็จะได้เพื่อนที่ดีที่สุดเป็นคู่ชีวิต
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 4 ลักษณะนิสัย ของคนที่เกิดวันนี้คือ
จริงใจและมั่นคง
>นอกจากมีความจริงใจต่อเพื่อนแล้ว
>คนเกิดวันนี้ยังต้องการความจริงใจจากเพื่อนเป็นผลตอบสนองด้วย
>คุณสมบัติประการต่อมา คือ เป็นคนรักการทำงาน มีความรับผิดชอบเป็นเลิศ
>ที่สำคัญคือเป็นคนที่มุ่งมั่นในการสร้างชีวิตให้มั่นคง
>คุณสมบัติดังกล่าวทำให้มีจุดอ่อนตามมาด้วย คือ ความจริงใจที่มีต่อเพื่อน
>บางทีรุนแรงไปจนถึงจุดที่เรียกร้องความสนใจจากเพื่อน หรือหึงหวงไปเลยก็มี
>
> คุณสมบัติอีกประการหนึ่งก็คือ ความเป็นคนค่อนข้างระวังตัว
>มีความคิดรอบคอบ
>แต่คุณสมบัติประการนี้ก็มิได้เป็นผลร้ายแก่เพื่อนฝูงที่สุจริตใจ
>เป็นการสร้างกลไกระวังตัวเองของเจ้าตัวเท่านั้น
>เพราะคนเกิดวันนี้จะทุ่มเททุกอย่างให้กับคนที่ตนเองเห็นว่ามีความจริงใจต่อกันอย่างแท้จริง
>ถ้าคิดจะช่วยใครก็ช่วยจน หมดตัวสุดชีวิต
>
> คุณจะต้องระวังตัวบ้างถ้าจะคบกับคนที่เกิดวันนี้
>พยายามหลีกเลี่ยงที่จะทำให้เค้าโกรธหรือเกลียดท่านเป็นอันขาด
>เพราะเค้าจะร้ายกาจกับคนที่ร้ายกาจด้วยอย่างที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง
>และสิ่งที่คนเกิดวันนี้เกลียดมาก ๆ ก็คือการที่รู้สึกว่า
ตัวเองถูกหลอกลวง
>หรือการที่เพื่อนฝูงปันใจไปให้คู่แข่ง
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 5 เขาคือ นักอุดมการณ์หรือบางทีก็เผด็จการ
>ถ้าคนที่คุณรักใคร่คบหาอยู่ขณะนี้เกิดวันที่ 5 ก็ต้องตระหนักไว้ว่า
>คุณได้คบกับคนที่มีลักษณะนิสัยสองอย่างในคนคนเดียว
>
> นิสัยที่แท้จริงของคนเกิดวันนี้ คือการเป็นคนมองโลกในแง่ดี
>เป็นคนมีเหตุผล
>และยอมรับความเป็นจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นแต่จะไม่ปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามยถากรรม
>ถ้าจะเปรียบกับหัวหน้าทีมกีฬา เขาก็เป็นหัวหน้าทีมที่ไม่เคยเสียใจเลย
>ถ้าทีมของเขา (หรือเธอ) ประสบความพ่ายแพ้ แต่ก็จะรีบไปปรับปรุง
ทีมเป็นการใหญ่
>
> คนเกิดวันนี้ จะเกลียดการถูกบังคับให้เป็นอย่างโน้นทำอย่างนี้
>ถ้าเขารู้ตัวว่าถูกสั่งถูกบังคับ
เขาจะมีปฏิกิริยาในการต่อต้านขึ้นมาทันที
>สิ่งที่เขาต้องการอีกอย่างก็คือการเปิดโอกาสให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากจะทำ
>ถ้าเขาเป็นเด็ก คุณก็ควรปล่อยให้เขาเล่นโลดโผนตามใจ เพียงแต่ดูแลอยู่ห่าง

>ไม่ให้เกิดอันตรายร้ายแรงก็พอ
>
> คนเกิดวันที่ 5 เป็นคนที่มีรสนิยมทางเพศสูง
ชอบกิจกรรมทางเพศที่ประณีต
>เป็นคนกล้าได้กล้าเสียในเรื่อง!เพศสัมพันธ์แต่เมื่อถึงบทสุดท้าย
>คุณอย่าได้เผลอไปแนะนำอะไรเขา (หรือเธอ) เป็นอันขาดปล่อย ให้เขา(หรือเธอ)
>มีความสุขอยู่กับแบบที่เขาต้องการจะดีที่สุด
>
>
>
>
>
>
> คนที่เกิดวันที่ 6 คนที่เกิดวันนี้อยู่ได้ด้วยความรัก
เขาหรือเธอคือ
>พ่อบ้านแม่เรือน สถานที่ที่เหมือนทิพย์วิมานของเขาก็ คือ
>บ้านอันอบอุ่นด้วยไอรัก เด็กที่เกิดในวันที่ 6
>ถ้าเกิดในครอบครัวที่แตกสลายร้าวราน จะเป็นเด็กที่น่าสงสาร
>และจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่น่าสงสารมากด้วย
>เพราะคนที่เกิดวันนี้แทบจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดความรัก
>
> คนเกิดวันนี้ค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับคนที่เขารักเอามาก ๆ
>แม้ว่าตัวเขา(หรือเธอ) จะรูปงามและเฉลียวฉลาดเพียงใดแต่ก็ไม่
>ค่อยมั่นใจตัวเองเรื่องความรักและเพศตรงข้าม เขาเกรงไปว่า
>ถ้าเขาตัดสินใจผิดจังหวะความรักจะหลุดลอยไป ดังนั้น ถ้าคุณเป็นหญิง
>และมีคนรักเกิดวันที่ 6 ก็ไม่ควรจะสงสัยว่า
>ทำไมคนรักของคุณไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้นแขนของคุณ ทั้ง ๆที่คุณ
>คิดว่าเขาน่าจะกอดคุณแล้วด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามคนเกิดวันนี้มัก
>จะไม่ขาดเพื่อนต่างเพศเพราะรูปงาม นิสัยดี อ่อนหวาน เป็นคนซื่อๆ
ปราศจากมารยา
>และจะไม่คิด "ขบถ" ต่อคนอื่นเลย
>
> ในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับความรัก คนเกิดวันที่ 6 เป็นคนมุ่งมั่นมานะ
ใจ
>คอก็หนักแน่นมั่นคง ไม่วอกแวกไม่ว่าเรื่องใดเป็นคนที่ไว้ใจ
>และพร้อมที่จะช่วยเหลือคนที่ตัวรักทุกวิถีทางนิสัยใจคอจริงๆ
>จึงน่าจะเป็นครูบาอาจารย์ หรือนักสังคมสงเคราะห์
>
> คนเกิดวันนี้ค่อนข้างปิดตัวเองในเรื่องรสนิยมทางเพศ
>ทั้งที่ความจริงตัวเองเป็น "ไฟ"
>แต่มักแสดงให้ปรากฏในรูปของน้ำแข็งถ้าคุณเกี่ยว
>ข้องสัมพันธ์ด้วยคุณควรจะใช้ความละเมียดละไมของคุณช่วยจุดไฟให้เขา
(หรือเธอ)
>คุณควรเป็นฝ่ายนำแล้วเขาหรือเธอจะค่อย ๆ เกาะตามคุณไปได้เอง
>และคุณไม่ต้องห่วงว่าเขาหรือเธอจะตามไม่ทัน เพราะเมื่อถึงบทสุดท้าย
>คุณอาจเป็นฝ่ายตามไม่ทันก็ได้ อย่าลืมว่าคน เกิดวันที่ 6
อยู่ได้ด้วยความรัก
>ความรักที่คุณส่งให้เขาเธอ) จึงต้องพร้อมมูลทั้งคุณภาพและปริมาณ
>
>
>
>
>
>
> คนที่เกิดวันที่ 7 ลักษณะนิสัย ของคนที่เกิดวันที่ 7 คือ
>นักเล่าประสบการณ์ ลักษณะเด่นของคนที่เกิดวันนี้ก็คือ
>การแสวงหาประสบการณ์ในเรื่องต่าง ๆ ด้วยตนเอง
>ชอบประสบการณ์ตรงมากกว่าการเรียนรู้จากคน
>อื่นแต่เป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันตนเองสูง ไม่ลุ่มหลงอะไรง่าย ๆ
>ไม่ว่าจะเป็นเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด การพนัน หรือแม้แต่เพื่อนต่างเพศ
>
> การที่คนเกิดวันนี้ ไม่ลุ่มหลงอะไรง่ายๆ
>ย่อมเป็นผลดีต่อการชอบลองของเขาเองเพราะเขาจะเรียนรู้ได้โดยไม่ "ติด"
> สิ่งเหล่านั้น
>ถ้าท่านคิดว่าจะเอาตัวเอาใจของท่านไปให้เขาทดลองเพื่อให้คนเกิดวันที่
7หลงใหล
>ท่านก็คิดผิดเท่านั้นเอง
>
> โดยปกติเป็นคนมีศีลธรรมและมีเมตตา ซื่อตรง และค่อนข้างขี้สงสาร
>แต่สำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง คนเกิดวันนี้กลับไม่ค่อยแน่ใจตัวเอง
>มักจะขัดแย้งตัวเองหรือลังเลในสิ่งที่จะตัดสินใจอยู่บ่อย ๆ
>โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขัดแย้งในข้อที่ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรดี ยึดกฎเกณฑ์
>หรือว่าปล่อยตัวตามใจตัวเอง
>
> คนเกิดวันนี้ไม่ใช่คนไม่อิ่มรัก
>แต่เป็นคนที่มีความรักมากพอที่จะแจกจ่ายให้ใครๆ ได้ไม่จบสิ้น
>ชอบคู่ครองที่เข้มแข็งและใจกว้างพอที่ จะให้เขามีเสรีในเรื่องรัก
>แต่เขาไม่ชอบให้ท่านมีรักที่เสรี เขาชอบให้ท่านรักเขา (หรือเธอ) คนเดียว
>
>
>
>
>
>
>

ลักษณะนิสัย ของคนที่เกิดวันที่ 8 คือ ทุกอย่างต้องพร้อม

ลักษณะเด่นของคนเกิดวันที่ 8 ก็คือ ทุกอย่างต้องพร้อมอย่างที่ฝรั่งเขา เรียกว่า Perfectionist ถ้าชีวิตของคนประกอบไปด้วยความสุภาพ ความมั่นคง และความมีการศึกษาดีแล้ว คนเกิดวันที่ 8 ก็คือคนที่ ขวนขวายหาสิ่งนี้มาเพื่อให้ชีวิตของเขาสมบูรณ์แบบ การแสวงหา ความสมบูรณ์ของเขาอาจทำให้เพื่อนฝูงหรือคนรักต้องเหน็ดเหนื่อย ไปด้วย คำว่า ทุกอย่างต้องพร้อมของคนที่เกิดวันที่ 8 ในอีกอย่างก็คือ เขาจะ ปรากฎตัวในที่สาธารณะต่อเมื่อมั่นใจว่าตัวเองพร้อมเท่านั้น

คนเกิด วันนี้ตามปกติส่วนใหญ่จะไม่รับแขกโดยแต่งชุดตามสบาย ถ้าท่านมี เจ้านายเกิดวันที่ 8 และจะเชิญไปเปิดงานตรวจงาน ท่านต้องเตรียม ให้พร้อม มิฉะนั้น ท่านจะถูกตัดเงินเดือนเสียเปล่า ๆ คนเกิดวันนี้มักมีสมองเป็นเลิศ ฉลาดหลักแหลมจนดูเหมือนมีเล่ห์ เหลี่ยม ทั้งที่เป็นเพียงคนตรงต่อกฎเกณฑ์เท่านั้น ความหลักแหลมทำ ให้มีความสามารถหลายด้าน เรียนหนังสือเก่ง ทำงานเก่ง ปรับตัวให้ เข้ากับวิทยาการสมัยใหม่ได้ดี และถึงแม้ว่าเขาเกิดคิดจะเป็นนักโหราศาสตร์ เขาก็จะเป็นนัก พยากรณ์ชั้นเยี่ยม ในอีกด้านหนึ่ง คนเกิดวันที่ 8 มีจิตใจอ่อนไหว รับรู้ความปรารถนาดี จากคนข้างเคียงได้ง่าย แต่จะเก็บความรู้สึกนี้ไว้โดยใช้ความเข้ม แข็งพรางตาเขาจะรับรู้ได้เองว่า ท่านรักใคร่ผูกพันตัวเขา (หรือเธอ) อยู่ ไม่ต้องบอกรัก และในคืนวิวาห์หรือเวลาอันเป็นส่วนตัวท่านช่วยจัด บรรยากาศให้ดี ๆ ห้องสะอาด เตียงเรียบ ข้าวของเป็นระเบียบ ฯลฯ แล้ว ท่านก็จะรู้ลีลาเร่าร้อนที่คนเกิดวันที่ 8 มีอยู่ เรื่องที่ควรปรับปรุงของคนเกิดวันที่นี้คือ การรับและการให้ เพราะคน เกิดวันนี้บางครั้งจะมุ่งมั่นเพื่อความสมบูรณ์มากเกินไป ควรรู้จักลด ความทะเยอทะยานลงบ้าง

>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 9 ลักษณะนิสัยของคนที่เกิดวันที่ 9 คือ เจ้าความคิด
>บ่งบอกบุคลิกภาพของนักอนุรักษ์นิยมและลักษณะของนักปราชญ์
>เป็นคนที่มีท่าทางเคร่งขรึม สุภาพ และขี้อาย และมีความวิตกกังวล
เป็นเจ้าเรือน
>เป็นคนเอาจริงเอาจังต่อชีวิตและโลกมากเกินไป
>
> เป็นคนที่เห็นว่าการพักผ่อนเป็นเรื่องแปลกประหลาดหรือใหญ่โต
>แต่เห็นว่าการทำงานเป็นเรื่องที่ต้องทุ่มเทตลอดชีวิต ที่น่าเป็นห่วงก็คือ
>เขา(หรือเธอ) ทำงานจนไม่รู้จักพักผ่อนหย่อนใจ
>
> คนเกิดวันที่ 9 มีพรสวรรค์ในด้านการอธิบายหรือเล่าเรื่องต่าง ๆ
>ให้เข้าใจง่าย
>แต่การพูดการอธิบายของเขาดูจะเป็นจริงเป็นจังและไม่มีมุขตลกมากนัก
>จึงเป็นนักพูดที่ดีมีสาระ จึงเป็นครูมีลูกศิษย์ลูกหานิยม
>หรือเป็นนักพูดที่มีผู้คนยกย่อง
>
> ปกติคนเกิดวันนี้ จะชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่ถ้ามีคนมาคุยด้วย
ก็จะพอใจ
>ยิ่งถ้ามาขอคำแนะนำ ขอความช่วยเหลือต่าง ๆ ด้วยแล้ว จะรู้สึกว่าท่านเป็น
>"ภาระงาน" ที่จะต้องปกป้องดูแลเป็นอย่างดี
>ดังนั้นถ้าจะไปสร้างความรักความสัมพันธ์กับคนเกิดวันนี้
>ควรเข้าไปในรูปของคนอกหัก
>หรือต้องการพี่-น้องที่ปรึกษากันได้มากกว่าที่จะเริ่มด้วยการเฮฮาสนิทสนม
>
> คนเกิดวันที่ 9
>จะเอาใจใส่ดูแลคนที่ตนเองรักเป็นอย่างดีทุ่มเทให้กับความรักอย่างเต็มที่
>ไม่เจ้าชู้เลย ออกจะน่ารักทีเดียว ถ้าจะขี้หึง
และขี้กังวลน้อยลงอีกสักหน่อย
>
>
>
>
>
>
> คนที่เกิดวันที่ 10 ลักษณะนิสัย ของคนที่เกิดวันที่ 10 คือ
>แข็ง...หรือไม่ก็...แกร่ง เป็นคนที่มีปัญหาบางอย่างมาตั้งแต่เด็ก
จะโดยรู้ตัว
>หรือไม่ก็ตาม แต่คนเกิดวันนี้จะรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวในโลกบ่อย ๆ
>
> ถ้าคุณมีคู่รักหรือคู่ครองที่เกิดวันนี้
>อย่าเผลอไปท้าทายให้เขาหรือเธอเลิกราฟ้องหย่าเป็นอันขาด
>เพราะคุณจะไม่มีวันได้เพชรเม็ดนั้นกลับมาอีกเลย
>คนเกิดวันนี้พร้อมที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นเลิศด้วยความเต็มใจในตัวเอง
>เพราะเป็นคนฉลาดที่วางแผนทุกอย่างไว้ในใจได้รอบคอบ
และอดทนรอผลได้อย่างใจเย็น
>
> ในเรื่องความสัมพันธ์ คุณจะต้องสังเกตและตัดสินใจเองว่า
ควรเลือกแบบไหน
>คุณไม่ต้องถาม แต่คุณจะต้องเสนอ "แบบ" ที่ถูกใจเขาหรือเธอด้วยตัวเอง
>แล้วก็ไม่ต้องรอถามด้วยว่า "ชอบแบบนี้ไหม?"
>
>
>
>
>
>
> คนที่เกิดวันที่ 11 ลักษณะนิสัย ของคนที่เกิดวันที่ 11 คือ
>แม้จะเจ้าอารมณ์แต่ก็สร้างสรรค์
เป็นคนที่ต้องการคนเอาใจมากกว่าคนเกิดวันอื่น
>ๆ เป็นคนซื่อตรง และปราศจากเล่ห์เหลี่ยม แต่ก็มักใจน้อยและเจ้าอารมณ์
>ดังนั้นจึงมักทำงานที่ต้องอดทน หรือมีรายละเอียดกวนใจมากเกินไปไม่ค่อยได้
>
> คนเกิดวันนี้ชอบที่จะเป็นศิลปิน
>ซึ่งสามารถสร้างสรรค์งานได้โดยจินตนาการและอารมณ์ของตนเอง
>และด้วยเหตุผลที่เป็นคนมีจินตนาการแจ่มชัด
>มีอารมณ์อ่อนไหวช่างคิดช่างฝันนี้เอง
>จึงเป็นผู้ที่มีความสุขมากถ้ามีโอกาสได้ทำงานด้านประดิษฐ์สร้างสรรค์
>
> ถ้าคุณมีบุตรธิดาคนรัก
>หรือแม้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่ามอบงานบริหารให้เลย
>ให้มอบงานประดิษฐ์คิดค้นให้ดีกว่า คุณจะได้ประโยชน์
>และเขาหรือเธอก็จะมีความสุขด้วย
>
> คนเกิดวันที่ 11 ค่อนข้างหัวแข็งในสายตาคนรอบข้าง
>แต่ที่จริงเป็นคนที่เรียกว่า "หยิ่งในตัวเอง" มากกว่า
>ว่ากันว่าถ้าตรวจสอบวันเกิดกันได้ คุณพจมาน สว่างวงศ์ คงเกิดวันที่ 11
>เพราะเป็นคนหยิ่งในตัวเอง
และถ้าอยากจะทำให้อ่อนน้อมนุ่มนวลก็ทำได้เป็นอย่างดี
>ใครที่ทำให้คนที่เกิดวันนี้เกลียดหรือหมั่นไส้จะถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวเลย
>แต่ก็เป็นไปเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น เพรา จะไม่รุกรานคนอื่นเลย
>
> เมื่อพูดกันถึงเรื่องความรัก
คุณคงไม่ต้องบอกรักคนที่เกิดวันนี้ก็ได้
>ถ้าคุณสามารถทำตัวให้เป็นคนที่เป็นเพื่อนกับคนเกิดวันนี้ได้ในทุกสถานการณ์
>เป็นกำลังใจในการทำงานให้แก่เขาหรือเธอผู้นั้น ที่สำคัญคือคุณต้องเป็น
"หลัก"
>ให้เขาได้ในการเป็นผู้นำและตัดสินใจในเรื่องที่เขาหรือเธอไม่ชอบที่จะเกี่ยวข้อง
>
> ในเรื่องของความสัมพันธ์ เมื่อยามคุณอยู่กันสองต่อสองนั้น คำยกยอ
>คำพูดขอร้องที่อ่อนหวานจะเป็นการปรุงรสสวาทที่ดีกับคนเกิดวันที่ 11
>และในส่วนที่เป็นบทรัก คนเกิดวันนี้เป็นคนที่ชอบทำอะไรซื่อ ๆ
ไม่มีพลิกแพลง
>ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า คุณจะทำความเรียบง่ายไม่พลิกแพลงให้เป็นความสุข
>สมของทั้งสองฝ่ายได้อย่างไรเท่านั้นเอง
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 12 คือ คนเก่งที่มีเพื่อนน้อย
>ได้พรจากพระเจ้าในเรื่องต่างๆ เกือบทุกเรื่อง
>เพราะไม่ว่าจะจับทำสิ่งใดก็จะสำเร็จไปหมด โดยนิสัยแล้วเป็นคนเปิดเผย
>ตรงไปตรงมา
และไม่ชอบถูกเอาเปรียบจึงต้องการเพื่อนที่คบกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ
>ไม่หวังประโยชน์ตอบแทน ต้องการเพื่อนที่พูดคุยได้อย่างสนิทใจ
>เพียงแต่คุณมีความจริงใจ คุณก็จะเป็นเพื่อนที่ดีของคนเกิดวันที่ 12
>ได้ไม่ยากเลย
>
> แต่คนที่มีเพื่อนเกิดวันที่ 12 ก็ต้องรู้ใจเพื่อนด้วยว่า
>คนเกิดวันนี้เป็นคนที่มีแต่ความซื่อ
พูดตรงไปตรงมาโดยไม่กลัวใครจะว่าอย่างไร
>เมื่ออยากจะตำหนิใครขึ้นมา ก็มักพูดด้วยถ้อยคำอันรุนแรง
>จนกระทั่งคนฟังรู้สึกว่าแรงเกินไป
>
> วิธีที่จะทำให้คนเกิดวันนี้พอใจอย่างหนึ่งก็คือ
>การพาไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ
>รสนิยมของแต่ละคนต่างกันไปบ้างบางคนอาจชอบให้คุณพาไปชมป่าเขาลำเนาไพร
>บางคนอยากให้คุณไปดูหนังดูละครกับเขาบ่อย แต่ที่แน่ ๆ คือ
เค้าเกลียดการจำเจ
>ส่วนเรื่องลีลาทางเพศสัมพันธ์ คนเกิดวันนี้ไม่ชอบความจำเจเช่นกัน
>ดังนั้นคุณต้องหมั่นเปลี่ยนที่ และเปลี่ยนท่า
>
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 13 คือ เพื่อนขี้อ้อน
>เป็นคนน่ารักมากไม่ว่าโดยบุคลิกภาพภายนอกที่อ่อนหวานแช่มช้อย
>หรือภายในจิตใจที่ซื่อตรง อ่อนโยนเมตตาปรานี และเต็มไปด้วยน้ำใสใจจริง
>
> คนเกิดวันนี้รับรู้ความดีง่ายใจอ่อน
>และมักพอใจที่จะเอื้อเฟื้อผู้อื่นเป็นคนสนใจในการเรียนรู้และปฏิบัติธรรม
>ปราศจากเล่ห์เหลี่ยม มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว และหน้าที่การงานสูง
>ต้องการให้ชีวิตมั่นคงเป็นอันดับแรก ดังนั้นจึงต้องทำงานหนัก
>และทำได้อย่างไม่ย่นย่อท้อถอย เป็นคนอดทนได้ที่จะรอผลอันยาวนาน
>
> คนเกิดวันที่ 13 มีจุดอ่อนอยู่ตรงที่เป็นคนอ่อนไหวง่าย น้อยใจเก่ง
>คุณอาจเห็นน้ำตาได้บ่อย ๆ
>นอกจากนี้คนเกิดวันนี้ก็ยังเป็นคนชอบตัดสินใจตามผู้ใหญ่
>เชื่อผู้ใหญ่มากกว่าตนเอง อาจเป็นเพราะได้อาศัยอยู่ในครอบครัวที่ดี
>ได้พึ่งพาอาศัยพ่อแม่มาตลอด พอมีปัญหาอะไรก็วิ่งไปหาพ่อแม่ก่อนเสมอ
>
> เค้าจะทุ่มเทความรักให้กับใครก็ได้ (อาจเป็นคุณ)
>ถ้าคุณพิสูจน์ให้ประจักษ์ว่าคุณมีความจริงใจต่อกันอย่างแท้จริง
>แล้วก็จะรักจนสุดใจ และจะรักอยู่อย่างนั้นไปจนชั่วชีวิต แม้คุณจะ
(บังเอิญ)
>แต่งงานไปกับคนอื่นก็ตาม
>
> คารมคนเกิดวันนี้ร้ายกาจยิ่งกว่าอาวุธใด ๆ
>และเป็นการยากที่จะทำให้คนเกิดวันนี้หายโกรธ เค้าต้องการบทรักที่นุ่มนวล
>ค่อนข้างเคร่งศีลธรรมและค่อนข้างอนุรักษ์นิยมในทุกเรื่องยกเว้นเรื่องกามารมณ์
>คุณเพียงเริ่มต้นบทแรกกับคนที่เกิดวันนี้บทเดียวเท่านั้น บทที่สอง
และบทต่อๆ
>ไป คุณคอยตามให้ทันก็แล้วกัน
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 14 เป็นคนอ่อนหวานและขี้เกรงใจ
>ซึ่งเป็นลักษณะที่คุณเห็นได้จากภายนอก
และเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์อยู่ภายใน
>ดังนั้นจึงเป็นคนที่น่ารักน่าคบ
แต่คุณต้องรู้ไว้ด้วยว่าความเป็นคนซื่อสัตย์
>ขี้เกรงใจ และช่างเอาอกเอาใจมีอยู่
>เฉพาะเมื่อคุณปล่อยให้คนเกิดวันนี้มีความสุขตามแบบที่เขาหรือเธอต้องการเท่านั้น
>ถ้ามีใครมาสั่งให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้
เค้าจะหงุดหงิดพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที
>คนอ่อนหวานน่ารักช่างเอาใจของคุณจะกลับกลายเป็นแม่เสือที่ดุร้าย
>ดื้อรั้นเอาแต่ใจตัวขึ้นมาทันที
>
> คนเกิดวันนี้เป็นคนมีอำนาจในตนเอง มีพลังใจสูง
>สามารถจูงใจตนเองให้ทำอย่างจนสำเร็จได้ดังประสงค์
>มีอำนาจลึกลับที่จะจูงใจให้ผู้อื่นให้ทำตามที่ตนต้องการ
>แต่จุดอ่อนอันเกิดจากความมีอำนาจและชอบใช้อำนาจนี้ก็จะถูกลดลงไปโดยนิสัยที่เป็นคนมองโลกในแง่ดี
>ใจกว้าง มีเหตุผลยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทั้งทางด้านดีและด้านร้าย
>เป็นคนเข้าใจความเป็นไปรอบกายได้ง่าย
และยอมรับความเป็นไปได้ในเรื่องต่างๆ
>เป็นอย่างดี
>
> ทางด้านเพศรส คนเกิดวันที่ 14 เป็นคนค่อนข้าง "ฝักใฝ่"
>อยู่มากทั้งเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียในเรื่องเพศอยู่มากกว่าคนอื่นๆ
>ถ้าเมื่อไรใจตรงกันเพลงรักก็บรรเลงได้ทันที แต่มีข้อห้ามนะ
>คุณอย่าเผลอไปแนะนำให้คนเกิดวันนี้ทำอย่างโน้นอย่างนี้เป็นอันขาด
>ความหงุดหงิดจะเกิดขึ้นทันที และเพลงรักที่ขึ้นต้นไว้ดีๆ
ก็อาจค้างอยู่แค่นั้น
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 15 ลักษณะนิสัยคือ เห็นง่าย-รู้จักยาก
>เพราะภายนอกดูเป็นคนร่าเริง รักความมีอิสรเสรี
>ชอบแสดงให้เห็นว่าเป็นคนมีความกร้าวแกร่ง จนแม้บางครั้งจะต้องทำอะไรแผลง

>เพื่อให้ดูเก่งในสายตาเพื่อนๆ ก็ตาม
>สิ่งที่ปรากฏภายนอกคนเกิดวันนี้มักเป็นภาพของคนที่ชอบอยู่กลางแจ้ง
>ชอบการผจญภัย ชอบแสดง เด่น เป็นนักกีฬา นักแข่งขัน นักทำงานเสี่ยงอันตราย
>แต่ในลักษณะที่เป็นอุปนิสัยภายในเป็นคนที่ใจอ่อน อ่อนไหวง่าย สงสารคนง่าย
>ขี้งอน และซ่อนความอ่อนหวานน่ารักไว้ภายใน
>
> น้ำใจของคนที่เกิดวันนี้ เป็นน้ำใจที่ประเสริฐ
>เพราะเป็นคนที่รักครอบครัว รักบ้าน
>มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำลงไปเป็นอย่างดี
เป็นคนมีน้ำใจรักหมู่รักคณะ
>และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวมได้โดยไม่ลังเลรีรอ
>นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติพิเศษในด้านความคิดริเริ่ม
>และมีพรสรรค์ในการประดิษฐ์คิดค้นอีกด้วย
>คนเกิดวันนี้จึงเป็นคนแปลกตรงที่ว่าข้างนอกดูเข้มแข็ง และง้อใคร ไม่เป็น
>แต่ความจริงกลับต้องการให้คนมารัก มาเอาใจมากๆ
>ยิ่งถ้าตอนไหนต้องอยู่คนเดียวแล้วก็ยิ่งต้องการเพื่อน
>ต้องการคนรักคนเอาใจมากขึ้นไปอีก
>คุณคงรู้แล้วว่าจะเริ่มต้นและสานต่อความรักกับคนเกิดวันที่ 15 อย่างไร
>
> ยอมรับความเด่นที่เขาหรือเธอแสดงออกทุกอย่างเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน
>และเมื่อคุณอยู่ด้วยกันอย่างเป็นส่วนตัวแล้ว คุณเติมความอ่อนหวาน
>ความเป็นคนช่างรู้ใจของคุณเข้าไปอีกนิดหน่อย
>ทำตัวเป็นที่พึ่งที่ปรึกษาและร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่เงียบ ๆ
>คนเกิดวันนี้ก็จะเกาะอยู่กับคุณตลอดไป และในเรื่องบทบาทรัก
>ถ้าคุณมีโอกาสคุณก็ต้องทราบว่า
>คนเกิดวันนี้แข็งแกร่งต่อเมื่ออยู่กลางแจ้งเท่านั้น เมื่ออยู่กับคุณ
>คุณต้องใช้วิธีอ่อนและนุ่ม นิ่มนวลให้มากที่สุด
>
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 16 ไม่ลุ่มหลงอะไรง่าย ๆ
เป็นคนที่ชอบแสวงหาประสบการณ์
>เป็นคนเห็นชีวิตมีค่าแต่คิดว่าจะต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
>ดังนั้นจึงชอบทำอะไรที่เป็นการโลดโผนผจญภัย
แต่ได้รสชาติแปลกใหม่สำหรับชีวิต
>แม้เรื่องที่จะต้องเรียนรู้ด้วยชีวิต เช่น ยาเสพติด การพนัน หรือกามกรีฑา
>ก็ไม่ลังเลที่จะเรียนรู้
>
> คนเกิดวันนี้ เป็นคนตรงไปตรงมา และมีกฎเกณฑ์
>แต่กฏเกณฑ์ดังว่านั้นเป็นกฏเกณฑ์ที่เขาตั้งขึ้นเองว่าอะไรผิดอะไรถูก
อะไรควร
>อะไรไม่ควรทำ และเมื่อตั้งกฏเกณฑ์ขึ้นแล้วก็ทำไปตามนั้น
>ไม่สนใจว่าจะไปขัดแย้งกับใคร
>
> ความ รักเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ต้องแสวงหา คนเกิดวันที่ 16
>ต้องการคนรักคู่ครองที่แท้จริง รักอิสรเสรี และพึ่งตัวเองได้
>อยู่ได้โดยไม่มีกันและกัน และอยู่อย่างมีความสุขเมื่อมีกันและกัน แต่แปลก
>เมื่อถึงจุดหนึ่งของการใช้ชีวิตคู่แบบเสรีนี้เอง
>เค้าก็จะกลับมาเป็นคนขี้หึงเอาดื้อ ๆ
>
> ถ้าคนรักของคุณเกิดวันที่ 16 ก็ต้องระวังเอาเอง ในเรื่องบทสวาท
>คุณก็รู้อยู่ว่า คนเกิดวันนี้ชอบสนุก ชอบผจญภัย
>ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าคุณจะพาความสนุก ความตื่นเต้น
>และประสบการณ์ใหม่มาให้เขาได้เพียงพอไหมเท่านั้นเอง
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 17 เป็นคนที่มีความสามารถสูง ฉลาด และมีไหวพริบดี
>มีบุคลิกลักษณะเป็นผู้นำที่ผู้คนเชื่อถือ สามารถโน้มน้าวจิตใจคน ใช้คน
>และบริหารงานด้านบุคคลได้ดี
>แก้ปัญหาเก่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
>
> คนเกิดวันที่ 17
เป็นคนที่ปรารถนาในชีวิตค่อนข้างสูงทุกสิ่งทุกอย่าง
>พยายามอย่างมากที่จะสร้างความสมบูรณ์ในชีวิต สุขภาพดี มีปัญญา มีทรัพย์
>มีคู่ครองที่ดีเลิศ ดังนั้นจึงต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้สิ่งเหล่านี้มา
>
> จุดอ่อนของคนเกิดวันนี้คือ โดยปกติจะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
>แต่จะเปลี่ยนเป็นคนเครียดหรือเอาแต่ใจตัวขึ้นมาเมื่อไรก็ได้
>คนที่อยู่ด้วยหรือเป็นเพื่อนสนิทจึงต้องคอยปรับตัวปรับใจอยู่เสมอ
>และจุดอ่อนอีกประการหนึ่งก็คือ
>มักเป็นคนประเภทเล็งผลงานมากกว่ามุ่งความสัมพันธ์กับผู้คน ดังนั้น
>คนที่เป็นเพื่อนสนิท คู่รัก หรือคู่ครอง
จึงจำเป็นต้องคอยดูแลและช่วยเหลือ
>อย่าให้ขาดเรื่องมนุษยสัมพันธ์มากนัก
>
> จุดดีของคนเกิดวันที่ 17 คือ เมื่อแต่งงานมีครอบครัวแล้ว
>ความอ่อนไหวแปรปรวนของอารมณ์จะลดลงไปได้มาก เป็นคนคงเส้นคงวามากขึ้น
>ยอมมีความสัมพันธ์กับผู้คนมากขึ้น เรื่องของบทบาทรัก
>เห็นจะต้องบอกว่าเป็นคนดูยาก บางทีก็เย็นชา เสียจนคุณเองก็อ่อนใจ
>แต่ถ้าหากคิดถึงเรื่องพิศวาสขึ้นมาแล้ว
>เขาก็จะพาคุณไปอย่างโลดลิ่วตามไม่ทันทีเดียว ก็อย่างที่บอกไว้แล้ว
>คนที่อยู่ด้วยค่อนข้างลำบาก เพราะเอาใจไม่ค่อยถูก
>
>
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 18 คือ ที่ปรึกษาผู้เคร่งครัด ถ้าคุณเองเกิดวันที่
18
>คุณอาจค้านคำทำนายนี้ แต่ถ้าคุณใกล้ชิดกับคนที่เกิดวันที่ 18
>คุณอาจเห็นด้วยมาก ๆ เลยทีเดียว
>
> คนเกิดวันนี้ เป็นคนที่ชอบแสวงหาความรู้
และความจริงของชีวิตตลอดเวลา
>เป็นคนเอาจริงเอาจังต่อชีวิตมากเกินไป
> จนอารมณ์เสียอยู่เสมอ หงุดหงิดง่าย และไม่เคยพอใจตนเองเลย
>บ่อยครั้งที่รู้สึกรำคาญตัวเองและรู้สึกที่ตัวเองไม่ได้ดังใจ
>เป็นคนที่หาอะไรมาทำอยู่ได้โดยไม่ชอบพักผ่อน
>กังวลเก่งจนเครียดและมักนอนไม่หลับบ่อย ๆ
>
> จุดเด่นของคนที่เกิดวันที่ 18 มีอยู่ไม่น้อย
>แม้ว่าจะเป็นคนอารมณ์ปรวนแปรง่าย และอาจจะเป็นคนขี้อิจฉาก็ตาม
>จุดดีที่ว่านี้เป็นคนเต็มใจที่จะให้คำแนะนำ ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มที่
>ประกอบกับมีความสามารถในการพูดการอธิบาย หรือการโน้มน้าวใจคน
>จึงทำให้มีคนไปมาหาสู่ด้วยเสมอในฐานะที่ปรึกษา
และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ
>รับผิดชอบสูงต่อคนรัก ถ้ารักใครแล้วจะทุ่มให้อย่างเต็มที่
>ทั้งร่างกายและชีวิตจิตใจ และก็หวังจะได้รับความรักตอบแทนเต็มที่เช่นกัน
>แต่ว่าก็ว่าเถอะ
คนที่เกิดวันนี้ความหวังที่จะได้รับความรักตอบแทนมักล้มเหลว
>มักได้รับการตอบแทนกลับมาในรูปของความนับถือเสียเป็นส่วนใหญ่ ใครๆ
>ที่คบกับคนเกิดวันนี้ มักอยากให้คนที่เกิดวันนี้เป็นพี่ชาย
>พี่สาวมากกว่าอยากได้ไว้เป็นคู่รัก
>
> ถ้าคุณเกิดนึกรักคนเกิดวันนี้ขึ้นมาจริงๆ
>คุณก็ต้องเป็นคนเป็นระเบียบเรียบร้อยในทุกโอกาสทุกกรณีพยายามหาวิธีทำให้คนเกิดวันนี้มั่นใจและกังวลน้อยลง
>โดยรับภาระบางอย่างไว้เสียบ้าง และแน่นอนว่าในเรื่องบทรัก
>คุณก็ต้องแสดงให้คนที่คุณรักคนนี้รู้สึกว่า
>เขาหรือเธอเป็นคนเก่งด้วยไม่เช่นนั้น ความ
>เครียดความกังวลจะทำให้รสรักจืดชือไปเลยก็ได้
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 19 เปี่ยมด้วยกำลังภายในถึงสามประการคือ กำลัง
>ความมานะพยายาม กำลังความเมตตา และกำลังสติปัญญา
>
> คนเกิดวันนี้ มีพลังความมานะพยายามสูงมาก อดทนไม่ย่อท้อต่อความยาก
>และอุปสรรคไม่ว่าจะรุนแรงเพียงใด
มีพลังสติปัญญาที่จะนำเอาความรู้ความสามารถ
>ประสบการณ์ที่มีอยู่ ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่และทรหดอดทน
>ทั้งเป็นคนหนักแน่นไม่สะดุ้งสะเทือนต่อสิ่งใดทั้งสิ้น
>คนเกิดวันอื่นที่เป็นนักสู้อาจต้องการกำลังใจจากคนอื่น
>แต่คนวันนี้เขามีกำลังใจให้กับตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมอยู่เสมอทีเดียว
>เป็นนักสู้ที่สู้ได้ทั้งประเภทเดี่ยวและประเภททีม
>
> กำลังภายในประเภทที่สองของคนเกิดวันที่ 19 คือ ความเมตตาคน
>รู้สึกต่อคนอื่นเหมือนรู้สึกต่อตนเอง รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง
>มีอยู่ในตัวคนเกิดวันนี้อย่างเต็มเปี่ยม มีความเห็นใจคนที่อ่อนด้อยกว่า
>ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ก็สอนศิษย์ด้วยความอดทนต่ออาการร้ายกาจต่างๆ ของศิษย์
>เป็นเพื่อนที่เห็นอกเห็นใจเพื่อนและเป็นที่พักพิงใจที่ดี
>ที่สำคัญถ้าเขาเป็นคนรักหรือคู่ครองของใครแล้ว เขาจะรับผิดชอบต่อคนรัก
>และครอบครัวอย่างดีเยี่ยม
>
> กำลังภายในประการที่สาม ก็คือความเป็นผู้มีระดับสติปัญญาสูง
>มีปฏิภาณไหวพริบดี ว่าที่จริงคนที่เกิดวันนี้เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม
>และมักรู้ได้ว่าจะทำตัวให้ได้เปรียบคนร่วมงานได้อย่างไร
>แต่เขาไม่ทำเพราะเป็นคนมีเมตตาเป็นคุณธรรมอยู่แล้ว ความมีสติ
>ปัญญาและปฏิภาณไหวพริบของเขาจึงใช้เพียงเพื่อทำความสำเร็จให้แก่ตัวเอง
>และป้องกันการรังแกของคนอื่นเท่านั้น ไม่ได้ใช้เพื่อรังแกคนอื่น
>
> จุดด้อยของคนเกิดวันที่ 19
>ก็มีอยู่ที่อารมณ์ของตัวเองซึ่งปรวนแปรไปได้บ่อย ๆ
แต่ด้วยสาเหตุเดียวเท่านั้น
>คือความหึงและมักจะหึงอย่างไม่มีเหตุผลด้วย แต่ท่านก็รู้แล้วว่า
คนเกิดวันที่
>19 เป็นคนดีและรักครอบครัว ท่านจะไปทำตัวให้เขาต้องหึงทำไม
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 20 ลักษณะนิสัยคือ อารมณ์เหมือนใบไม้ไหว แต่น่ารัก
>คนเกิดวันนี้เป็นคนค่อนไปในทางเจ้าอารมณ์
>แต่ก็มักรู้ตัวเองจึงต้องระวังอารมณ์ตัวเองอยู่เสมอ จนกระทั่งค่อยๆ
>เกิดเป็นความกดดัน ภายใน อารมณ์จึงปรวนแปรง่าย
จึงปรากฏบุคลิกภาพในทำนองที่ว่า
>โดยปกติจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย น่ารัก อ่อนหวานและผ่อนปรน
>แต่ถ้าเกิดความกดดันจนยับยั้งชั่งใจไม่อยู่ก็จะระเบิดอารมณ์ออกมาราวภูเขาไฟ
>ที่กล่าวอย่างนี้ทำให้ดูเหมือนว่าคนเกิดวันนี้มีอารมณ์อ่อนไหวเป็นจุดด้อยที่สำคัญและน่ากลัว
>ที่จริงแล้วมิใช่เช่นนั้น
>
> คนเกิดวันนี้มักมีมันสมองเป็นเลิศ
ฉลาดรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนอื่น
>และลึกซึ้งพอที่จะทำเป็นรู้ไม่ทัน เพื่อตลบหลังศัตรูอีกด้วยซ้ำ
>เป็นคนมีความสามารถรอบด้าน รอบรู้ในปรัชญา การเมือง การเศรษฐกิจ
ทำธุรกิจเก่ง
>เขียนหนังสือก็ดี วิทยาการสมัยใหม่ก็เยี่ยมยอด
>แถมยังมีน้ำใจกว้างขวางในเรื่องความรู้ความคิดพร้อมที่จะให้ความคิดเห็น
>คำแนะนำ และความรู้แก่ใครก็ตามที่ถูกใจ และกล้าเข้าไปขอ
>
> คนเกิดวันที่ 20 เป็นคนชอบมีเพื่อนฝูง
จะมีความสุขถ้าได้อยู่กับเพื่อน
>โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนที่เข้าใจอารมณ์ และรู้จักความสามารถของเขา
>ยิ่งถ้ามีความรู้ความสามารถในระดับเดียวกันแล้ว จะยิ่งโปรดเป็นพิเศษ
>ถ้าท่านพบคนเกิดวันที่ 20 และนึกพอใจถูกใจแล้ว
>ท่านต้องเรียนรู้วิธีที่จะเข้าใจอารมณ์ของเขา
>และต้องทำตัวเป็นผู้แสดงความยอมรับ ความสามารถของเขาอย่างถูกจังหวะ
>ไม่ใช่หัวประจบ
>
> คนเกิดวันนี้อาจมีอารมณ์รุนแรงไปบ้างในบางครั้ง แต่ถ้าคบกันนานๆ
>และเข้าใจกันขึ้นเรื่อย ๆ ท่านจะพบว่าคนเกิดวันนี้เป็นคนที่น่าคบ
>และพร้อมที่จะเป็นหลักพักพิงหัวใจรักของคุณได้ดี
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 21 เป็นคนนุ่มนวล เจ้าเสน่ห์ เป็นคนที่ใคร ๆ
>ถ้าได้สัมผัสใกล้ชิด
>
>หรือแม้เป็นเพื่อนร่วมงานด้วยก็จะรู้สึกในความนุ่มนวลเจ้าเสน่ห์น่าคบได้เป็นอย่างดี
>เพราะคนเกิดวันนี้เป็นคนง่าย ๆ
> คบกับใครก็ทำตัวเรียบง่ายเสมอ หน้ากันหมดทุกคนทุกระดับชั้น
>
> ความสามารถพิเศษของคนที่เกิดวันนี้ก็คือ
>การแก้ไขสถานการณ์ตึงเครียดลงไปได้ด้วยความนุ่มนวลที่มีอยู่ในตัว
>คุณสมบัติยอดเยี่ยมอีกอย่างคือ การเก็บซับรายละเอียดต่างๆ
อย่างรอบคอบตลอดเวลา
>เมื่อถึงเวลาตัดสินใจก็ทำได้รอบคอบถูกต้อง
>ซึ่งจุดนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่มีเพื่อนเกิดวันที่ 21 ควรรู้เพราะ
>ท่านจะเสแสร้งเพื่อให้ถูกใจคนเกิดวันนี้ได้ยาก ท่านจะถูกสังเกตอยู่เสมอ
>โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกสังเกต
>
> คนที่เกิดวันนี้ มีพรสวรรค์ในการสร้างมิตรภาพ
>มีวิธีการที่แนบเนียนและนุ่มนวลในการทำความรู้จักกับคนอื่น ๆ
> ยิ่งเมื่อประกอบกับนิสัยร่าเริงสนุกสนาน เป็นคนง่าย ๆ
>เข้ากับคนได้ทุกระดับชั้นด้วยแล้ว จึงเป็นคนมีมิตรสหายมากมาย
>
> คนที่เกิดวันนี้จะไม่ยกตัวเองโดยข่มคนอื่นเป็นเด็ดขาด
>และเขาไม่ชอบคนที่ข่มคนอื่นด้วย
>จึงเป็นคนที่ทำให้คนที่รู้จักรู้สึกสบายใจและปลอดภัยเมื่อได้พูดคุยด้วย
>แล้วท่านจะหลีกเพื่อนที่ดีน่ารักเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
>
> คนเกิดวันที่ 21 เข้าใจคน เห็นอกเห็นใจ และเป็นคนช่างเอาใจ
>และมีจิตสำนึก
คือมีความรู้สึกนึกคิดในทางที่ดีงามอยู่เสมอเมื่อมีปัญหาใดๆ
>ก็พอใจที่จะเข้าไปแก้ปัญหาด้วยการเจรจาอย่างนุ่มนวลแบบนักการทูตมากกว่าที่จะใช้วิธีการที่รุนแรง
>แต่ก็คนเกิดวันที่ 21 นี้เอง
>เมื่อถึงคราวจะต้องใช้ความเด็ดขาดรุนแรงขึ้นมาก็จะใช้ได้อย่างเฉียบขาด
>และเฉียบคมมีคำพูดที่เชือดเฉือนหัวใจยิ่งกว่าที่เรียกว่า
"ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง"
>เสียอีกจะบอกให้
>
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 22 คนเกิดวันนี้ เมื่อดูภายนอกจะเห็นว่า
>เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปจะอ่อนไหวง่ายในตอนแรก
>และจะมีปฏิกิริยาตอบสนองในทันที
>จึงจำเป็นที่จะต้องมีคนมาประคับประคองให้กำลังใจปลอบใจ
>คนเกิดวันนี้เมื่อผิดหวังจะแสดงความเสียใจทันที แต่จะค่อยๆ รับฟังเหตุผล
>ทบทวนไตร่ตรองตามความเป็นจริง รับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์แยกแยะปัญหา
>แล้วก็จะค่อยกลับคืนมาทำใจ ยอมรับความเป็นจริง
เรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้
>
>
ในส่วนที่เป็นบุคลิกภาพทางจิตใจที่แท้จริงของคนเกิดวันนี้นั้นก็คือ
>การเป็นคนที่ทำอะไรเป็นระเบียบเรียบร้อยละเอียดลออ
รักษากฏเกณฑ์ได้ครบถ้วน
>และใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจที่เด่นมาก คือความเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย
>คงเส้นคงวา ไม่ว่าจะในด้านการทำงาน
>ความสัมพันธ์กับคนอื่นหรือเรื่องความรักและครอบครัว
>คนเกิดวันนี้จะแสดงให้เห็นอย่างสม่ำเสมอถึงความรักและห่วงใยคนรักหรือคู่ครอง
>ซึ่งก็หมายความว่าถ้าท่านเป็นคนยุ่งเหยิงไร้ระเบียบและตามอารมณ์แล้ว
>ท่านก็คงไม่ถูกใจคนเกิดวันที่ 22 นัก
>
> คนเกิดวันนี้ เป็นคนเอาใจใส่ รับผิดชอบการงานเป็นอย่างดี
>ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า "มิตรภาพ" มากทีเดียว
> ทั้งเป็นคนจริงใจต่อมิตร
>พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือมิตรทุกคนอย่างเต็มที่
>อยากจะพูดเลยไปถึงลีลารักของคนเกิดวันนี้ด้วยว่า ครั้งแรก ๆ
>เขาจะตื่นเต้นตกใจปรับตัวแทบไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก ท่านควรค่อยๆ สอน
>เขาอย่างฉลาด ให้กำลังใจจนกว่าเขา (หรือเธอ) ตั้งหลักได้ ว่าอะไร
เป็นอะไรแล้ว
>จึงปล่อยให้เป็นตัวของตัวเอง ท่านจะพบว่า ท่านเป็นฝ่ายถูกคนเกิดวันที่ 22
>พิชิตอย่างราบคาบ
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 23 ลักษณะนิสัยคือ ความมั่นใจ
>มีลักษณะที่คนมักจะมองดูห่าง ๆ ด้วยความระแวดระวังหรือเกรงกลัว
>เพราะเป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่สง่ามั่นคง
และมักแสดงออกให้เห็นได้ชัดเจนว่า
>มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง คนเกิดวันนี้
แม้ไม่อยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจใดๆ
>แต่ก็มีอำนาจและอาจก้าวขึ้นสู่อำนาจได้จริง ๆ คนเกิดวันที่ 23
>จึงเป็นคนที่ใครๆ เห็นว่ามีความไว้ตัวและดื้อรั้น
>ซึ่งก็เป็นการมองที่ถูกต้องในลักษณะนิสัย ด้านหนึ่ง
>แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้นคนเกิดวันนี้เป็นคนเข้าใจซาบซึ้งใน บทกวี ดนตรี
ศิลปะ
>และปรัชญา มีความอ่อนโยนต่อธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง
>
> ท่านที่จะเป็นมิตรกับคนเกิดวันนี้
>จึงควรเป็นคนรอบรู้ศิลปวิทยาการเหล่านี้
>และควรเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตกับคนเกิดวันที่ 23
อย่างผู้มีรสนิยมอันเลิศด้วย
>คนกลุ่มนี้พร้อมที่จะตกหลุมรักใครง่ายๆ โดย
>เฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มีนิสัยและรสนิยมตรงกันแต่ถ้าเกิดขัดแย้งกันนิดเดียว
>เขาก็จะปล่อยคนที่เคยรักไว้อย่างไม่แยแสได้เหมือนกัน
>
> ชีวิตของคนเกิดวันที่ 23 เป็นชีวิตที่มีการทำงานเป็นส่วนสำคัญ
>คนเกิดวันนี้ต้องการทำงานและทำอย่างอิสระ
ต้องการโอกาสที่จะแสดงความสามารถ
>และถ้าใครสักคนเข้าไปปิดกั้นโอกาสไม่ให้แสดงความสามารถ
>หรือได้ทำสิ่งที่เขาต้องการ แม้จะรักใคร่กันเพียงใด
>ก็อาจเป็นศัตรูคู่ปรปักษ์กันได้ทันที แม้แต่คนที่เป็นภรรยาหรือสามี
>
> คนเกิดวันนี้เป็นคนโลกทรรศ์กว้าง
>และพอใจที่จะคบคนโลกทรรศ์กว้างด้วยเช่นเดียวกัน
>เขาจะเป็นนักธุรกิจหรือนักบริหารที่เก่งมาก ไม่ยอมให้ใครมาชี้นำ
>ไม่ยอมให้สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มาทำให้หวั่นไหวได้
>ไม่เปลี่ยนหลักการโดยไม่มีเหตุผล
>เมื่อทำงานใจก็จะมุ่งอยู่แต่ตามหลักการเพื่อให้งานบรรลุผลเท่านั้น
>
> คนเกิดวันที่23
>มีความสามารถที่จะติดต่อกับคนทุกชั้นให้ประสบผลสำเร็จได้
>อย่างไรก็ตามคนเกิดวันนี้จะมีจุดอ่อนอยู่ที่สามารถเป็นคนใจหินขึ้นมาง่าย

>เมื่อเกิดไม่สบอารมณ์ขึ้นมา
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 24 ลักษณะเด่นของคนเกิดวันนี้
>ในด้านนิสัยใจคอก็คือความมีน้ำใจ พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อน
>หรือแม้แต่คนอื่นที่มิใช่เพื่อนหากตกอยู่ในภาวะที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือแล้ว
>จะให้ความช่วยเหลือทันทีด้วยไมตรีจิต และไม่สนใจการตอบแทน คนเกิดวันที่
24
>เป็นเพื่อนที่ดี เมื่อท่านมีความทุกข์คนแรก ๆ
>ที่จะมาให้ท่านเห็นคือคนเกิดวันที่ 24
>และเมื่อท่านมีความสุขเพื่อนคนที่เกิดวันที่ 24 ก็จะมาถึงก่อนด้วย
>
> คนเกิดวันที่ 24 จะเป็นเพื่อนที่นำสิ่งที่มีประโยชน์
>ชักชวนให้ทำสิ่งที่ดีงาม และนำความสุขสมบูรณ์มาให้ท่านเสมอ
>เป็นคนมีเสน่ห์ช่างรู้ใจ ถ้าท่านมีคนรักเป็นคนเกิดวันนี้
จะรู้ซึ้งถึงเสน่ห์
>ใครที่รู้จักมักคุ้นจึงทั้งรักทั้งหลงคนเกิดวันนี้
>ลักษณะนิสัยที่ดีเยี่ยมอีกอย่างหนึ่งของคนเกิดวันนี้ก็คือ
>ความเป็นคนรับผิดชอบสูง ทั้งการงานและครอบครัว โดยเฉพาะในเรื่องครอบครัว
>ถือว่าครอบครัวเป็นชีวิตจิตใจของเขา (หรือเธอ) เลยทีเดียว การมี
>"คู่สร้าง-คู่สม" ที่รักและรับผิดชอบครอบครัวนับเป็นโชคอย่างวิเศษ
>
> และถ้าท่านมีคนรักเกิดวันที่ 24 ท่านก็มีโชคอย่างวิเศษไปด้วย
>เสน่ห์ประการหนึ่งของคนเกิดวันนี้ คือเสน่ห์ในการสนทนา หรือที่
เรียกกันว่า
>เสน่ห์น้ำคำ แถมเป็นนักฟังที่ดีและเห็นอกเห็นใจผู้พูดที่พูดไม่เก่ง
>หรือเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยปัญหา จับใจความเก่ง
จับความคิดของผู้พูดได้ไว
>และเมื่อถึงเวลาพูด คนเกิดวันนี้ก็พูดได้ เพราะฉลาด สามารถเจรจาชักจูงใจ
>หรือให้ทัศนะที่เป็นประโยชน์หรือสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ๆ
>
> จุดอ่อนของคนเกิดวันนี้
>อยู่ที่ความรักเพื่อนและกลัวว่าตนจะเป็นภาระทำให้เพื่อนเดือนร้อนนี่เอง
>จึงทำให้คนเกิดวันนี้เป็นคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกในใจออกมา
>และยากที่จะปริปากบอกใครถึงความรู้สึกของตนเอง
>ดังนั้นคนที่ทำงานด้วยหรืออยู่ร่วมกันอยู่ใกล้ชิดควรต้องระวังตัวไว้
>เพราะหากอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ทำอะไรร่วมกันอยู่เพลิน ๆ คนเกิดวันที่ 24
>ซึ่งเป็นเพื่อนของท่านอาจฟุบไปเฉย ๆ ก็ได้ เพราะอ่อนเพลียแต่ไม่ยอมบอกใคร
>และเพราะความที่ชอบเก็บความรู้สึกนี่
> เองที่หากประสบปัญหาบ่อย ๆ เข้าอาจกลายเป็นโรคประสาทได้
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 25 เป็นตัวอย่างอันดีสำหรับการอธิบายภาษิตที่ว่า
>"รวงข้าวที่มีเมล็ดมากย่อมโน้มต่ำติดดิน" โดยพื้นฐานทางสติปัญญา
>คนเกิดวันนี้มักเป็นคนมีสติปัญญาดี เป็นคนเรียนอะไรก็เข้าใจง่าย
>จะจับทำอะไรก็ทำเป็นทำได้ดี
>แต่ไม่ว่าเขาหรือเธอที่เกิดวันนี้จะมีความรู้ความสามารถสักแค่ไหน
>ก็จะไม่มีวันประกาศสรรพคุณของตัวเองเลย
>และถ้าหากว่าจำเป็นจะต้องใช้ความรู้ความสามารถให้ปรากฏ
>เขาหรือเธอก็จะแสดงออกอย่างชนิดที่ถ่อมตัว
>แสดงตนว่าไม่ใช่ผู้รู้วิเศษกว่าใครแม้แต่สักครั้ง
>
> ลักษณะนิสัยที่ดีเด่นอีกอย่างหนึ่งของคนเกิดวันนี้ก็คือ
>เห็นธุระของเพื่อนสำคัญกว่าเสมอ ถ้ามีธุระที่ต้องทำพร้อมๆ กัน
>เขาหรือเธอที่เกิดวันนี้จะทำให้เพื่อนเป็นอันดับแรก
>และให้ความรักใคร่ไว้วางใจเพื่อนเต็มที่เสมอ
>
> คนเกิดวันนี้ เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ แสวงหาสิ่งใหม่ๆ
>ดังนั้นจึงมักไม่อยู่เฉยๆ ชอบให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ท้าทายและตื่นเต้น
>คนเกิดวันที่ 25 อาจไม่ชอบเพื่อน หรือคนรักที่อนุรักษ์นิยม
>หรือเป็นคนที่ค่อนข้างเฉื่อย
>เขาหรือเธอที่เกิดวันนี้เป็นคนมีความคิดริเริ่มสูง
และชอบที่จะมีเพื่อนที่จะ
>"วิจารณ์" ความคิดริเริ่มของเขาได้อย่างเฉียบคม
>
> คนเกิดวันที่ 25 เป็นคนมีลักษณะเด่นอยู่ในตัว
>ดังนั้นไม่ว่าจะออกไปในงานสังคมใดก็เป็นที่น่าสนใจของคนในกลุ่มในงานนั้นทั้งๆ
>ที่มิได้รูปร่างใหญ่โตหรือสวยสะดุดตาผู้ใดเกินปกติ แต่บุคลิกภาพ ทีท่า
>และการแต่งกายและลักษณะเด่นในตัวเองจะจูงความสนใจจากคนอื่นได้มาก
>ความสามารถในการเลียนแบบก็เป็นความเด่นอีกอย่างหนึ่งของคนเกิดวันนี้
>ทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกสนุกสนานและพอใจ
>
> คนเกิดวันนี้ไม่ชอบที่จะอยู่ในสถานการณ์ "เผชิญหน้า"
>ดังนั้นเมื่อมีปัญหาขัดแย้งกับคนรัก คู่ครอง เพื่อนหรือแม้แต่ปัญหาในงาน
>เขาจะทำเป็นไม่สนใจหรือปล่อยให้เป็นไปตามปกติก่อน
แล้วจึงใช้วิธีชวนคุยนอกเวลา
>หาข้าวหาปลากินกันไป คุยกันไป และปรับความเข้าใจกันทีหลัง
>จุดอ่อนของคนเกิดวันนี้ก็คือ ความรู้สึกที่อ่อนไหวง่ายต่อคำพูด
>ในบางครั้งคนที่เกี่ยวข้องพูดผิดหูเพียงนิดเดียว และโดยไม่ได้เจตนาเลย
>คนที่เกิดวันนี้ก็เก็บไปน้อยใจเสียยกใหญ่
เพื่อนจึงต้องระวังคำพูดอยู่เสมอ
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 26 มีลักษณะสุขุม มองไกล
>ใครที่รู้ตัวว่าไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ขอได้โปรดคบเพื่อนหรือรักกับ
>คนที่เกิดวันนี้เถิด ถ้าท่านอยู่ใกล้ก็จะค่อย ๆ
มีความมั่นใจตัวเองขึ้นได้
>ความมีกำลังใจเข้มแข็งมั่นคงเป็นคุณลักษณะเด่นประการแรกของ
คนเกิดวันที่26
>ดังนั้น ไม่ว่าในชีวิตของเขาหรือเธอจะเผชิญกับอะไร อุปสรรคหนักแค่ไหน
>ก็ไม่เคยหวั่น อาจร้องไห้ แต่ไม่เคยยอมพ่ายแพ้แต่จะใช้สติปัญญา
>เริ่มต่อสู้กับอุปสรรคอย่างสุขุมต่อไป
>
> ความสุขุม และมองการณ์ไกลเป็นสิ่งเสริมความมั่นใจตัวเองที่สำคัญ
>ของคนที่เกิดวันที่ 26 คนเกิดวันนี้มักไม่ตื่นเต้นกับเหตุการณ์
>ไม่หวาดตระหนกแต่จะแก้ปัญหาต่างๆ อย่างฉลาด รอบคอบสุขุม คนเกิดวันที่ 26
>เป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น
>และมีคุณสมบัติที่ทำให้เข้าใจปัญหาของคนอื่นได้ง่าย ความฉลาด รอบคอบ
สุขุม
>ความคิดลึกซึ้งที่มีอยู่ประจำ
> ทำให้เขาหรือเธอที่เกิดวันนี้เป็น คนเห็นอกเห็นใจคนอื่น
>มีอะไรเกิดขึ้นเพียงนิดเดียวก็จะเข้าใจความเป็นมาเป็นไปได้ทันที
>
> คุณสมบัติเด่นอีกอย่างของคนที่เกิดวันที่ 26 ก็คือความเป็นผู้นำ
>คนเกิดวันนี้จะเป็นผู้นำที่ดี
>มีความสามารถในการจัดการและเป็นนักบริหารที่มีความสามารถ
>เป็นคนมีความรอบรู้และเก่งหลายด้าน
>ประกอบกับเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูงไม่ชอบเป็นลูกน้องใคร
>จึงทำให้คนเกิดวันที่ 26 ปรากฏภาพโดดเด่นในฐานะเจ้าพ่อลูกพี่ หรือหัวหน้า
>
> คนเกิดวันที่ 26 เป็นคนที่ไม่ชอบความปนเปก้าวก่าย
>โดยนิสัยส่วนตัวจะค่อนข้างปราณีต เช่น
>เสื้อผ้าแต่งกายของเขาหรือเธออาจต้องจัดไว้เป็นชุดอย่างถูกต้อง
>ท่านจะไม่ค่อยพบคนเกิดวันนี้แต่งกายชนิดสีรองเท้าไปทางหนึ่ง
>สีเสื้อผ้าไปอีกทางหนึ่ง กระเป๋าถือไปอีกสีหนึ่งเป็นอันขาด
>คนเกิดวันนี้จะหงุดหงิดง่ายกับการประชุมที่ไม่ตรงเวลา
>ห้องอาหารที่ผู้คนสับสนเจี๊ยวจ๊าว
หรือการชุลมุนแย่งกันรีบบริการโดยไม่เรียง
>ลำดับ
>
>
>คนเกิดวันนี้จะไม่ยอมให้ชีวิตครอบครัวเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการงานอย่างเด็ดขาด
>ถ้าเป็นคู่รักคู่ครองหรือเพื่อนสนิทจงอย่าน้อยใจเลย
>ถ้าท่านไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับงานของเขาหรือเธอผู้ที่เกิดวันที่ 26
>แม้ว่าจะเป็นคนเห็นอกเห็นใจคนอื่น สุขุม รอบคอบมั่นคงไม่หวั่นไหว
>และอยากให้ทุกคนรักใคร่เข้าใจกัน
>แต่ก็เป็นคนที่ยึดมั่นในลักษณะของตนเองอย่างมั่นคง
> อาจกล่าวได้ว่า เป็นคนดื้อทีเดียว อย่าไปขอให้คนเกิดวันที่ 26
ทำตามใคร
>(แม้แต่คนที่เขาหรือเธอรัก มากดังชีวิต) โดยไม่ถูกหลักเกณฑ์เป็นอันขาด
>ถ้ายังอยากมีไมตรีอันยืนยาวต่อกัน
>
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 27 ลักษณะนิสัยคือ ซื่อสัตย์ยุติธรรม มีคนพูดว่า
บางที
>"เปาบุ้นจิ้น" อาจเป็นคนที่เกิดวันที่ 27 ก็ได้ คนเกิดวันนี้
>มีความสามารถเป็นพิเศษในการแยกแยะสิ่งที่ถูกกับสิ่งที่ผิด
>สิ่งที่ดีกับสิ่งที่เลวออกจากกันได้ง่าย และเมื่อเห็นว่าสิ่งใดผิด
>สิ่งใดชั่วแล้ว
>ก็จะถูกจิตสำนึกมโนธรรมภายในคอยบังคับมิให้กระทำสิ่งนั้นเป็นอันขาด
>และถ้าบังเอิญได้กระทำลงไป จะด้วยประมาทหรือสถานการณ์บังคับก็ตาม
>คนเกิดวันนี้จะไม่ลืมเรื่องดังกล่าวเป็นอันขาด
>จะประทับเหตุการณ์นั้นไว้เป็นความไม่สบายใจไปจนชั่วชีวิต
>หรือจนกว่าจะมีการแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง
>
> คนเกิดวันนี้นี่แหละ คือคนที่ "จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด"
>เป็นคนมีเมตตาสูง รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง
>แต่ความเมตตานี้มีขอบเขตโดยจะมีให้อย่างเหลือเฟือกับคนที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
>แต่ถ้าคนผิดคนชั่วแล้ว สิ่งที่คนเกิดวันนี้มีให้ก็คือ ความเห็นใจ
ความเสียใจ
>คนเกิดวันนี้เป็นคนรับผิดชอบสูง เป็นพ่อแม่ที่ดี เป็นครูที่ดี
>และเป็นหัวหน้าผู้เที่ยงธรรม
คนเกิดวันนี้มีลักษณะบางอย่างที่ขัดแย้งในตัว
>คือมักชอบคบมิตร สหายฮาเฮ แต่ก็ชอบนิ่งเงียบ ๆ
อยู่กับความคิดของตัวเองบ่อยๆ
>ดังนั้น ถ้าเพื่อนผู้เกิดวันที่ 27 ของท่าน อยู่ ๆ ก็หายหน้าไป
>ท่านก็ไม่ต้องติดใจอันใด อีกไม่นานคนผู้นั้นก็จะกลับมา
>
> คนเกิดวันที่ 27
จะเก็บความรู้สึกเจ็บปวดในใจอันเกิดจากความรักได้ดี
>ถ้าคนรักจะแยกทางไป
>เขาหรือเธอก็จะเพียงนิ่งเฉยและเก็บความเจ็บปวดไว้ในใจไม่ให้ใครได้เห็น
>และถ้าท่านเองเกิดวันนี้ ลดความเอาจริงเอาจังอีกนิด เครียดน้อยอีกหน่อย
>ท่านก็จะมีความสุขอันบริบูรณ์ด้วยความดีในตัวของท่านนั้นเอง
>
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 28 ลักษณะนิสัยคือ เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง
>เป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตที่ไม่เคร่งครัด หลักเกณฑ์หรือกำหนดการต่าง ๆ
>ของชีวิตเป็นเพียงที่สำหรับหมายตาในบางโอกาสเท่านั้น
>มิได้มีความสำคัญแก่ชีวิตมากนัก ชีวิตของคนเกิด วันที่ 28
>จึงค่อนข้างเป็นชีวิตที่ตามสบาย
>
> คนเกิดวันนี้เป็นคนมีจิตใจอ่อนโยน สงสารคนง่าย รักคนง่าย
ไว้ใจคนง่าย
>ชอบความสะดวกสบายและชอบอำนวยความสะดวกให้กับเพื่อนหรือคนรัก
เป็นคนที่รักใคร ๆ
>และอยากให้ใคร ๆ รัก อยากให้ทุกคนรักกัน และ อยากให้เพื่อน ๆ
>รักกันอย่างมีความสุข ดังนั้น ความทุกข์ของคนเกิด วันที่ 28
>จึงมักเกิดจากการที่เพื่อนของคนเกิดวันนี้ทะเลาะกันเอง
>และความโชคร้ายของคนเกิดวันที่ 28 ก็คือ การถูกเพื่อนเลวหลอกลวง
>
> "เพื่อน" เป็นคำที่มีความหมายที่สุดสำหรับคนเกิดวันที่ 28
>เพราะคนเกิดวันนี้ขี้เหงาและอยู่คนเดียวไม่ได้เด็ดขาด
> ต้องมีเพื่อนชีวิตจึงจะเป็นสุข
>ท่านจึงพบคนเกิดวันนี้เริงร่าอยู่ในหมู่เพื่อนเสมอ ๆ
>มิใช่น้อยเลยที่ถึงแม้จะแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ยังแบ่งเวลาให้เพื่อนมากกว่าครอบครัวของตนเอง
>ถ้าคู่ครองไม่เข้าใจกันก็ถึงกับโกรธกันมีบ่อยไป แต่อย่างไรก็ตาม
>แม้คนเกิดวันที่ 28
>จะรักเพื่อนและให้ความสำคัญกับเพื่อนมากแต่ก็จะตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ
>ด้วยตัวเองเสมอ รักเพื่อน แต่ไม่ยอมให้เพื่อนมีอิทธิพลเหนือตน
>
> ลักษณะที่ขัดกันของคนเกิดวันที่ 28 จะพบได้ในเรื่องความดื้อรั้น
>คนเกิดวันนี้เป็นคนรักเพื่อนเป็นคนสนุกสนาน
>มีอารมณ์ขันแต่มักดื้อดึงอย่างไม่มีใครเทียบ
ถ้าหากเขาหรือเธอคิดจะดื้อขึ้นมา
> คนเกิดวันที่ ๒๘ แม้ว่าจะเป็นคนสะเทือนใจง่าย ใจอ่อนกับ
>
> จุดอ่อนของคนเกิดวันที่ 28 ก็อยู่ตรงที่ว่า
>ปกติแล้วเป็นคนไม่เคร่งครัดอันใด ปล่อยชีวิตไปเรื่อย ๆ ตามสบาย
>แต่เมื่อมีอะไรมากระทบกระเทือนใจแล้วมักวู่วามทำให้มีความสุขน้อยลงไปจนกว่าจะรู้จักระงับและหาทางระบายออกที่นุ่มนวลขึ้น
>ถ้าท่านมีเพื่อนเกิดวันนี้ขยับเข้าใกล้เขาหรือเธออีกนิดได้ไหม
>เพราะคนเกิดวันนี้อยู่คนเดียวไม่ได้เด็ดขาด
>ถ้าขาดเพื่อนแล้วจะรู้สึกว้าเหว่ที่สุด พวกเขาคือ "เพื่อนขี้เหงา"
>
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 29 รักใครไม่ผันแปร
>มีพรสวรรค์อยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการประดิษฐ์อันเป็นการทำให้ความคิดสร้างสรรค์กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้
>นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์คิดค้นหลายคนเกิดในวันนี้
>
> คนเกิดวันที่ 29
>ส่วนใหญ่จะมีความสุขมากถ้าได้ทำงานในด้านการประดิษฐ์คิดค้น
>โดยเหตุที่พื้นนิสัยเป็นเช่นนี้คนที่เกิดวันนี้จึงมีเพื่อนหรือคนรักที่มีความเข้าใจ
>ไม่ปล่อยให้เขาหรือเธอจมอยู่กับเครื่องมือทดลองวิจัยทางวิทยาศาสตร์
>หรือในห้องคอมพิวเตอร์ แต่ควรจะต้องพาเขาหรือเธอออกไปสู่สังคม
>รู้จักโลกที่แท้จริง
>รู้จักชื่นชมกับความสุขและความงามของมนุษย์ของธรรมชาติของภาษากวี ดนตรี
>และศิลปะ เรื่องอย่างนี้บางทีพ่อแม่ต้องทำตั้งแต่วัยเด็กด้วยซ้ำ
>แทนที่จะดีใจว่าลูกของท่านอันเกิดวันที่ 29 เป็นคนขยันเรียนอย่างเดียว
>
> ความทุกข์ของคนเกิดวันที่ 29
>จะเกิดขึ้นในเมื่อเขาหรือเธอต้องทำงานที่ตัวเขาหรือเธอผู้นั้นไม่ชอบใจ
>หรือต้องเรียนรู้หรือทำความเข้าใจในเรื่องที่เขาไม่สนใจ
>เขาจะเบื่อเรื่องดังกล่าวเหล่านั้นง่าย ๆ อันที่จริงแล้ว คนเกิดวันนี้
>เป็นคนมีเสน่ห์ และน่ารักกับคนที่เขาหรือเธอพอใจ
>เป็นคนที่เรียกได้ว่ารักเดียวใจเดียว
>เมื่อได้พอใจหรือรักใครแล้วก็จะไม่ผันแปรไปได้
>มีความรับผิดชอบต่อคนรักและครอบครัวดี
>
>
แต่ใครก็ตามที่เป็นคนรักกับคนที่เกิดวันนี้ก็จะต้องพบข้อยุ่งยากบ้าง
>โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อยุ่งยากอันเกิดจากความเก่ง
>แต่ประสบการณ์ดิ่งลึกมากกว่ากว้าง ของเขาหรือเธอผู้นั้น
>ทำให้เขาหรือเธอเป็นคนมองโลกอย่างไม่เข้าใจ
>บางทีถึงกับกลายเป็นคนหลงตัวเองหรือหลงกลุ่มไปได้
>เช่นหลงผิดไปว่ากลุ่มของตนเท่านั้นที่มีความชำนาญในสาขาวิชาชีพนี้เป็นเลิศ
>หรือเป็นพวกที่ชอบมองว่าคนต่างกลุ่มมีเกียรติน้อยกว่าตน บางทีเผลอๆ
>ยังแอบดูถูกภรรยาสามีและญาติของภริยาสามีว่าโง่กว่าตนก็มี
>
>
>และที่สำคัญคนเกิดวันนี้เป็นคนที่แม้แต่คนใกล้ชิดที่สุดก็ยากที่จะหยั่งรู้ความรู้สึกจริง
>ๆ ของเขาหรือเธอได้ เป็นพวกที่ชอบมีชีวิตลึกลับ ชวนให้คนพิศวง
>และเขาหรือเธอผู้เกิดวันที่ 29 จะรู้สึกอึดอัดใจมาก
>ถ้ามีคนรู้เกี่ยวกับตัวเขาหรือเธอมากกว่าที่ต้องการให้รู้
>
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 30 คือ ทรราชน้อย มีพื้นนิสัยที่ดีหลายอย่าง
>แต่สิ่งที่พระเจ้าลืมให้มากับเขาหรือเธอ หรือให้มาก็น้อยสักหน่อย
>ก็คือความมีเสน่ห์ โดยพื้นฐานของดวงชะตา คนเกิดวันที่ 30 มักจะเป็นคนฉลาด
> และมีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ว่าดูภายนอกจะมีลักษณะอย่างไร
>แต่ภายในจิตใจของเขามี "วิธีการ" หรือ "คำตอบ" หรือ "คำตัดสิน"
>ของปัญหาที่จะต้องเผชิญไว้พร้อมแล้ว และเมื่อตัดสินใจแล้วก็เป็นอันจบกัน
>ไม่ต้องหวนกลับมาพูดกันด้วยเรื่องเก่านั้นอีก
>
> การ "คิดในใจ" อย่างฉลาดนี้เองทำให้คนเกิดวันที่ 30
สามารถแก้ปัญหาต่าง
>ๆ ลุล่วงไปด้วยดี สามารถตัดสินใจทำอะไร ๆ ได้ โดยไม่ลังเลใจ คนเกิดวันที่
30
>มีบุคลิกภาพที่เข้มแข็งแสดงให้เห็นความเป็นคนเด็ดขาด ดูน่าเกรงขาม
>เป็นคนที่รู้ว่าตัวเองมีดีอะไรและศัตรูคู่แข่งมีดีอะไร
>สามารถใช้ความได้เปรียบที่มีอยู่เอาชนะคู่แข่งได้โดยไม่ยากลำบาก
>อ่านความคิดคนอื่นได้ปรุโปร่ง
>หรือมีญาณสังหรณ์ที่ช่วยป้องกันกลอุบายของคู่แข่งได้จึงมักเอาชนะคนอื่นได้เสมอ
>อำนาจก็ยิ่งมีมากขึ้น
>คนที่เกิดวันนี้มีสติปัญญาหลักแหลมเรียนรู้อะไรได้เร็วกว่าคนอื่น
>โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรื่องนั้นเป็นการตีความถ้อยคำสัญลักษณ์และปรัชญาต่าง

>แต่ก็ไม่ค่อยชำนาญเรื่องเครื่องกลไกต่าง ๆ มากนัก
>
> คนเกิดวันที่ 30 ชอบทำอะไรที่ยาก ๆ ที่คนธรรมดาสามัญไม่ค่อยทำกัน
>จะทำแต่สิ่งที่ดีเลิศจริง ๆ แม้ในเรื่องความรัก
> เขาหรือเธอก็มักจะพุ่งความสนใจไปยังคนที่มีลักษณะเป็น "ดอกฟ้า"
หรือ
>"โดมผู้จองหอง" มากกว่าที่สนใจคนธรรมดา ๆ
>ถ้าท่านอยากให้คนเกิดวันนี้สนใจท่านก็ต้องทำตัวให้เป็น
"งานที่ยากกว่าธรรมดา"
>นอกจากจะเป็นคนชอบทำอะไรยาก ๆ แล้ว
>คนเกิดวันนี้เป็นคนที่มีอะไรบางอย่างแปลกไปจากคนอื่น
>มีความสามารถพิเศษที่คนทั่วๆ ไปอาจทำไม่ได้
>หรือนึกไม่ถึงว่าจะมีใครทำได้เช่นนั้น แต่คนเกิดวันที่ 30
>ก็อาจทำได้ถ้านึกพอใจจะทำ จนบางครั้งดูเหมือนบ้าระห่ำ
>หรือมีความคิดเห็นที่รุนแรงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเมือง ศาสนา
ชีวิต
>
> ส่วนเรื่องความรัก คนเกิดวันนี้มีลักษณะของคนที่ขาดเสน่ห์
>คนที่เกิดวันนี้ค่อนข้างพอใจที่จะรักคนที่เก่งกาจ
แต่ต้องเก่งกาจน้อยกว่าตนเอง
>ชอบใช้อำนาจหรือแสดงท่าทีให้คนอื่นเห็นว่าตนเองมีอำนาจเหนือคู่ครอง
คู่รัก
>ทำให้คนที่เกิดวันที่ 30 ขาดเสน่ห์ไปอย่างน่าเสียดาย
มีคนเรียกคนเกิดวันนี้ว่า
>"ทรราชย์น้อย"
>เพราะชอบเผด็จการตั้งแต่เรื่องเพศสัมพันธ์ไปจนถึงเรื่องบริหารบ้านเมืองทีเดียว
>
>
>
>
>
>
> คนเกิดวันที่ 31 ต้องการกำลังใจ
>คนเกิดวันนี้ได้รับพรจากพระเจ้าเรื่องสติปัญญา
>จึงเป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดแบบที่เรียกกันว่า มีไหวพริบดี
>(ไม่ใช่เรียนหนังสือเก่ง) ดังนั้นเมื่อจะจับทำงานใด
>ก็มักจะประสบความสำเร็จระดับสูงเสมอ
>
> โดยลักษณะนิสัยคนที่เกิดวันนี้เป็นคนสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน
>และไม่ชอบโอ้อวดหรือแม้แต่แสดงตนเกี่ยวกับความสำเร็จหรือความก้าวหน้าต่าง

>คนทั่วไปแม้จะรู้ว่าเขาหรือเธอเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
แต่ก็ไม่มีใครรู้จริง
>แม้แต่เพื่อนสนิทว่าที่จริงแล้ว
>ความสำเร็จที่คนอื่นเห็นนั้นเป็นเพียงเศษส่วนเท่าใดของความสำเร็จที่เขาได้รับ
>
> คนเกิดวันที่ 31 เป็นคนรักเพื่อนฝูง
>ความสุขที่แท้จริงของคนเกิดวันนี้ก็คือการได้อยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูง
>เขาหรือเธอเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนที่รักเป็นอย่างดี
>ถ้าท่านเคยอ่านหนังสือวรรณคดีเรื่อง ลิลิตนิทราชาคริต คนเกิดวันนี้ก็คือ
>อาบูหะซัน พระเอกในเรื่องนั้นนั่นเอง (ถ้าไม่เคยอ่านก็ขอเชิญลองอ่านดู
>สนุกมาก)
>
> ความมีมนุษยสัมพันธ์ (หรือจะเรียกว่า มีเสน่ห์ก็คงจะได้)
>เป็นคุณลักษณะที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของคนเกิดวันที่ 31
> เขาหรือเธอที่เกิดวันนี้มีบุคลิกภาพอันสง่างาม เด่น
>เป็นที่ต้องตาต้องใจและผู้คนมักอยากปราศรัยทักทายด้วย
>ประกอบกับความมีมนุษยสัมพันธ์ สามารถเข้ากับคนทุกระดับชั้นได้ดี
คนเกิดวันที่
>31 จึงเป็นผู้ที่มีคนรู้จักมาก
>
> จุดอ่อนของคนเกิดวันที่ 31
อยู่ที่ว่าแม้ดูภายนอกจะเข้มแข็งเด็ดขาด
>แต่ในเบื้องลึกคนเกิดวันนี้มักจะขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
>มักไม่ทำสิ่งใดโดยปราศจากคำยืนยันจากคนที่ไว้ใจได้เสียก่อนว่า
>สิ่งที่เขาทำนั้นถูกแล้วดีแล้ว ดังนั้น
>ถ้าท่านเป็นคู่รักคู่ครองหรือเพื่อนของคนเกิดวันนี้จะต้องรับบทบาทนี้ให้ได้
>และข้อสำคัญที่ท่านลืมไม่ได้ก็คือ อย่าแสดงตัวว่าเขาขาดท่านไม่ได้
>แต่จงแสดงให้เห็นว่าท่านขาดเขาไม่ได้
>ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้เขาหรือเธอผู้เกิดวันที่
>31
>
> ในด้านความสัมพันธ์ทางเพศ คนเกิดวันนี้จะต้องเยี่ยมกว่าคนอื่นเสมอ
>เป็นคนตั้งกฎเกณฑ์หรือหลักการไว้สูง ถ้าท่านปรับตัวตามเขาหรือเธอไม่ได้
>ทำตัวอย่างที่คนเกิดวันนี้ต้องการไม่ได้
>เขาหรือเธอที่เกิดวันนี้ก็จะไม่ลังเลที่จะเมินคุณไปได้อย่างปราศจากเยื่อใย
>ที่สำคัญที่สุด ท่านอย่าทรยศหรือหักหลังคนที่เกิดวันนี้เป็นอันขาด
>แม้แต่ตุกติกมีเล่ห์เหลี่ยมท่านก็ไม่ควรทำ
>เพราะจะโต้ตอบท่านอย่างเต็มที่และรุนแรงทันที
>และท่านไม่มีทางที่จะเอาชนะเขาหรือเธอได้เลย
>
>
>