วันศุกร์, ธันวาคม 29, 2549

ทางลัด มัลติพลาย Multiply direct link

ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
http://multiply.com/setup/pages/themes
http://multiply.com/setup/pages/home
http://multiply.com/setup/pages/content
http://Your_Username.multiply.com/edit/title
http://notbirth.multiply.com/edit/title
http://plantlovers.multiply.com/photos/import/url 


มีลิ้งค์ไรอีกหว่า
.
.
..
000
เอาเป็นว่า ก้อบมาทั้งดุ้นเลย อิอิ http://multiplynewbie.multiply.com/journal/item/42

This is a list of useful shortcuts (URLs) to be used here on Multiply:

For User Pages

- Editing the Welcome Message title/content:
http://multiply.com/setup/pages/content

- Editing the Page Title (thanks to Ruizinho Braz):
http://Your_Username.multiply.com/edit/title

- Viewing your Network messages (the ones you've created):
http://Your_Username.multiply.com/notes/

- Compose a new Network message:
http://Your_Username.multiply.com/notes/compose

- Viewing someone's profile:
http://Username.multiply.com/profile/

- Removing a contact (from a list):
http://multiply.com/network/remove-contact

- Removing a contact (using her/his Username):
http://multiply.com/network/remove/Username

- Direct acces to your Custom CSS:
http://multiply.com/setup/pages/upload-css










































- Only show CSS not edit

http://USERID.multiply.com/style-custom/custom.css



- Direct access to Page Layouts:
http://multiply.com/setup/pages/home

- Direct access to My Multiply (Message Board) configuration page:
http://multiply.com/setup/messages

- Direct acces to the blocked contacts list, allowing you to unblock them:
http://multiply.com/network/blocked

- Uploading photos using the HTML uploader:
http://Your_Username.multiply.com/photos/upload-html


For Groups

- Editing the Welcome Message title/content:
http://Your_Group.multiply.com/edit/content

- Editing the Page Title:
http://Your_Group.multiply.com/edit/title

- Re-arranging albums (thanks to Carlos Rogerio Toth) :
http://Your_Group.multiply.com/photos/reorder-albums


Replace Your_Username with your actual username, Username with a contact's username and Your_Group with a group's name that you admin.

Of course there are other ones, but these listed here are "hidden" or hard to find. ;)

This list maybe be updated/edited. =)
































- Edit your profile:
http://multiply.com/setup/profile

- Direct Access to Promote My Site (create/edit a promoting banner):
http://Your_Username.multiply.com/promote



-To Guestbook

http://your name.multiply.com/guestbook/edit

-To email alerts (settings-> email alerts)
 http://multiply.com/setup/alerts

- ตั้งสีเวป
http://multiply.com/setup/pages/colors

- ข้อความถึง พี่เวปมาสเตอร์
http://multiply.com/info/inquiry

- take a notes
http://your_name.multiply.com/notes/compose

- Group promote













http://Group-name.multiply.com/promote
* rename id in code to group too

- Group guestbook




http://Group-name.multiply.com/guestbook
* link to this in your first page

- For block a person




http://ชื่อเค้า.multiply.com/block
* เอาออกจากคอนแท้กก่อนเน้อ




เฉพาะ  PM (Personal Message):

ดูพีเอ็มทุกอัน
http://multiply.com/mail/private

ดูว่า เราสั่งให้มีบริการอีเมล์แจ้งข่าวอันไหนบ้าง
http://multiply.com/mail/subscribed      (Subscribed Message)




วันพุธ, ธันวาคม 27, 2549

"ลดบางอย่าง เพื่อ เพิ่มบางสิ่ง"




หากลดบางอย่างให้น้อยลง
คุณจะได้บางสิ่งมากขึ้น


ลดความโกรธให้น้อยลง
คุณจะได้สติกลับมามากขึ้น

ลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง
คุณจะได้เงินเก็บมากขึ้น

ลดความคิดที่จะหาคนที่ถูกน้อยลง
คุณจะได้คำตอบสำหรับทำเรื่องที่ถูกต้องมากขึ้น

ลดการพูดให้น้อยลง
คุณจะได้ทำหลายอย่างได้มากขึ้น

คิดถึงคนที่คุณรักให้น้อยลง
คุณเข้าใจคนที่คุณรักมากขึ้น

รักตัวเองให้น้อยลง
คนอื่นรักคุณมากขึ้น

พูดให้ร้ายคนอื่นให้น้อยลง
มีคนพูดถึงคุณในแง่ดีมากขึ้น

แสดงความฉลาดให้น้อยลง
คุณได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น

ออกนอกบ้านให้น้อยลง
คุณได้ความอบอุ่นในครอบครัวมากขึ้น

นอนให้น้อยลง
คุณทำหลายอย่างได้มากขึ้น

คิดเรื่องเครียดให้น้อยลง
คุณยิ้มได้มากขึ้น

ลดความอายให้น้อยลง
คุณได้ความกล้ามากขึ้น

ดูละครให้น้อยลง
คุณอ่านหนังสือได้มากขึ้น

คุณวิ่งให้ช้าลง
คุณมองเห็นคนข้างหลังมากขึ้น

เชื่อให้น้อยลง
คุณมองเห็นอะไรได้มากขึ้น

ลดทิฐิให้น้อยลง
คุณรู้จักอภัยมากขึ้น

กระโดดให้น้อยลง
คุณเดินได้มั่นคงมากขึ้น

กินให้น้อยลง
คุณอิ่มได้มากขึ้น

ก้มหน้าให้น้อยลง
คุณมองเห็นได้ไกลขึ้น

พักเหนื่อยให้น้อยลง
คุณรู้จักความสบายมากขึ้น

เห็นแก่ตัวให้น้อยลง
มีคนรอดชีวิตมากขึ้น

แบกของหนักให้น้อยลง
ชีวิตคุณเบามากขึ้น

ทะเลาะกับเด็กให้น้อยลง
คุณโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

ทะเลาะกับผู้ใหญ่ให้น้อยลง
คุณได้รับการเอ็นดูมากขึ้น

เป่าลมออกให้น้อยลง
คุณสูดลมเข้าได้มากขึ้น

แอบฟังให้น้อยลง
คุณได้ยินอะไรมากขึ้น

คุณคิดคำถามให้น้อยลง
คุณเห็นคำตอบมากขึ้น

...........แล้วคุณลดอะไรไปบ้างแล้ว............




I love youuuuuuuuuu




วันอังคาร, ธันวาคม 19, 2549

ฟังธรรมะ





+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่โง่

เเต่ถ้าฟังโปเตโต้
ถึงมีรักเเท้เเต่ก็ดูเเลไม่ได้

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ตาใส่เเจ่ม

เเต่ถ้าฟังบอดี้เเสลม
มักจะโทษว่าความรักทำให้คนตาบอด

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เพ้อเจ้อ

เเต่ถ้าฟังพีชเมกเกอร์
จะละเมอถึงเเต่เรื่องบนเตียง

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ปากเราติดดิสเบรก

เเต่ถ้าฟังเบิร์ด-เสก
ถึงอมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจเราชอกช้ำ

เเต่ถ้าฟังไอน้ำ
จะชอกช้ำเพราะรักคนมีเจ้าของ

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เหงาหงอย

เเต่ถ้าฟังเสนาหอย
จะเเอบเหงาคนเดียว

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่งมงายในความเชื่อเเละศรัทธา

เเต่ถ้าฟังทาทา
มักจะพูดว่า ไอ บีลีฟๆ

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันอย่างไม่ต้องนอนละเมอ

เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์
มักจะเจอรักแท้ในคืนหลอกลวง

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่เน่าเสีย

เเต่ถ้าฟังนัท มีเรีย
มักจะโทษว่า รักไม่ช่วยอะไร

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้รักกันจนสิ้นชีวิน

เเต่ถ้าฟังเอนโดรฟิน
เเล้วจะบอกว่า ถ้าเขามาฉันจะไป

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราไม่คุยโม้

เเต่ถ้าฟังโปเตโต้
จะถูกต่อว่าปากดีนะเรา

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรามีสุขเมื่ออยู่ด้วยกัน

เเต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์
เพียงเเค่วางมือบนบ่า น้ำตาก็ไหล่

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเจอคนดีเสมอ

เเต่ถ้าฟังไฮเปอร์
มักจะเจอผู้ร้ายคนใหม่

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เราเข้าใจกัน

เเต่ถ้าฟังน้องพั้นซ์
บอกได้คำเดียวว่า ยิ่งกว่าเสียใจ

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้เรารักกันยิ่งกว่าชีวิน

เเต่ถ้าฟังเอนโดรฟิน
จะเป็นได้เเค่เพื่อนสนิท

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจใสเเจ่ม

เเต่ถ้าฟังว่าน วงเเพลม
จะตัดพ้อต่อว่า ไม่บอกให้รู้สักเรื่องได้ไหม

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เเรด

เเต่ถ้าฟังบิ๊กเเอส
มักจะเล่นของสูง

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่หยิ่งยะโส

เเต่ถ้าฟังติ๊ก ชีโร่
จะโอหังว่า รักไม่ยอมเปลี่ยนเเปลง

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้จิตใจเปล่งปลั่ง

เเต่ถ้าฟังอาหรั่งจะคุ้มคลั่งว่า
ทำบ้า....ทำบ้าอะไร

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ดีที่ใจมิใช่เพียงเเค่หน้าตา

เเต่ถ้าฟังปนัดดา
ก็จะรู้เพียงว่า ขอเป็นคนเลวที่รักเธอ

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ใจไม่สั่นคลอน

เเต่ถ้าฟังสุนทราภรณ์
เเล้วเธอจะรู้สึก!!

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เปลืองเเรง

เเต่ถ้าฟังพรศักดิ์
ส่องเเสง จะเปลืองเเรง
เพราะมีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คใครโทรมา

+
ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้สอบผ่านทุกๆ ปี

เเต่ถ้าฟังเเอน
สุชาวดี
มักจะติดร.วิชาลืม






วันพุธ, ธันวาคม 13, 2549

GotoKnow - ยินดีต้อนรับ สำหรับผู้สนใจ KM

http://gotoknow.org/
แหล่งรวมสาระพันความรู้ ไปเพื่อรู้และแบ่งปัน บริหารจัดการความรู้กันเถอะ

GotoKnow - ยินดีต้อนรับ สำหรับผู้สนใจ KM http://gotoknow.org/

สำหรับนักเรียน นิสิต http://learners.in.th/

สำหรับนักวิจัย http://researchers.in.th/

วันจันทร์, ธันวาคม 11, 2549

Exif คืออะไร

Exif คืออะไร

Exif คือคำย่อครับย่อมาจาก Exchangeable image file format

เป็นข้อมูลเฉพาะที่จะบรรจุลงในภาพที่ถ่ายโดยกล้องดิจิตอลทุกตัว พัฒนาโดยthe Japan Electronic Industry Development Association (JEIDA)

ข้อมูลที่บรรจุประกอบไปด้วย

-วันเวลาที่ถ่าย

-กล้องที่ถ่ายและค่าที่เซตไว้ตอนถ่าย เป็นภาพที่เท่าไรที่ถ่ายโดยกล้องตัวนั้น

-สถานที่ที่ถ่าย (เฉพาะรุ่นที่ติด GPS บอกพิกัด)

-เจ้าของกล้อง (เฉพาะรุ่นที่สามารถใส่ชื่อเข้าของลงไปในกล้องได้)

ตัวอย่าง

Manufacturer CASIO

Model QV-4000

Orientation top – left

Software Ver1.01

Date and Time 2003:08:11 16:45:32

YCbCr Positioning centered

Compression JPEG

compressionx-Resolution 72.00y-

Resolution 72.00

Resolution Unit

InchExposure Time 1/659 sec.

FNumber f/4.0

ExposureProgram

Normal programExif

Version Exif Version 2.1

Date and Time (original) 2003:08:11 16:45:32

Date and Time (digitized) 2003:08:11 16:45:32

ComponentsConfiguration Y Cb Cr –

Compressed Bits per Pixel 4.01

Exposure Bias 0.0

MaxApertureValue 2.00

Metering Mode Pattern

Flash Flash did not fire.

Focal Length 20.1 mm

Maker Note 432 bytes unknown data

FlashPixVersion FlashPix Version 1.0

Color Space sRGB

PixelXDimension 2240PixelY

Dimension 1680

File Source DSC

InteroperabilityIndex R98

InteroperabilityVersion (null)

ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/EXIF

ประโยชน์ของมันคือ

ใช้เพื่อตอบสนองความอยากรู้ครับเช่นอยากรู้ว่า

ภาพนี้สีสดจังใช้กล้องอะไรถ่าย ดู Exif

ภาพนี้ถ่ายนานยังหว่า ถ่ายเมื่อไร ดู อีเอกไอเอฟ

ภาพนี้ซอฟจังใช้โหมดอะไรถ่ายหว่า ดูอีเอกไอเอฟ

ภาพนี้หน้าเบลอหลังชัดเปิดหน้ากล้องเท่าไรหนอ ดูอีเอกไอเอฟ

เมื่อเรารู้วิธีดูแล้ว ก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการใดต่อไปอีก เช่นพัฒนาการถ่ายรูป แก้ไขจุดด้อยต่างๆ เป็นต้น

แล้วจะดู อีเอกไอเอฟ ของภาพได้อย่างไร

ก่อนอื่นเลยต้องมีรูปในเครื่องเราครับ ถ้าเปิดกระทู้ก็ต้องเซฟรูปลงเครื่องก่อนแล้วค่อยดูวิธีดู

สำหรับคนใช้

ps http://www.nectec.or.th/courseware/graphics/intro/0033.html

acdsee http://www.nectec.or.th/courseware/graphics/intro/0034.html

โปรแกรมอื่น http://www.nectec.or.th/courseware/graphics/intro/0035.html

http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=104

-ทำไมบางทีเปิดแล้วไม่มีข้อมูลนั้น

เพราะว่า รูปบางรูปที่ผ่านการย่อรูปหรือแต่งรูปด้วยโปรแกรมภาพจะถูกลบข้อมูลนี้ออกไปครับ ทำให้ดูไม่ได้

-ข้อมูลนั้น เชื่อได้แค่ไหน

ตอบได้ว่าเชื่อได้แต่อย่าเชื่อหมดเพราะ

1.ข้อมูล อีเอกไอเอฟ แต่งได้ครับ เขียนเพิ่มก็ได้ (มีโปรแกรมทำ)

2.บางทีเครื่องมันก็อาจจะบันทึกอะไรเพี้ยนๆไปบ้างนิดหน่อย

วันเสาร์, ธันวาคม 09, 2549

โรคทางจิตเวชยอดฮิตคนเมือง






ซึมเศร้า - สาเหตุใหญ่ที่ทำให้คนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าคือปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ตกงาน
ปิดกิจการ ล้มละลาย รวมทั้งการถูกทอดทิ้งให้อยู่ลำพัง เช่น
คนชราถูกทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว ต้องไปพบแพทย์เมื่อ
: ผู้ป่วยมีอารมณ์เศร้า ร้องไห้ง่าย
จิตใจหดหู่ รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ท้อแท้ สิ้นหวัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
อ่อนเพลียไม่มีแรง อยากทำร้ายตัวเอง และรู้สึกอยากตาย


วิตกกังวล - เกิดได้ทั้งปัจจัยภายใน เช่น ขาดความมั่นคงในจิตใจ จิตใจอ่อนแอ อ่อนไหวง่าย
ต้องพึ่งพาผู้อื่นอยู่เสมอ และปัจจัยภายนอกที่พบได้คือ ใกล้สอบแต่ดูหนังสือไม่ทัน
คับข้องใจเรื่องธุรกิจที่ไม่ราบรื่น ตกงาน หรือต้องเผชิญหน้ากับประสบการณ์แปลกใหม่
เช่น ย้ายโรงเรียนใหม่ เริ่มทำงานครั้งแรก แต่งงานใหม่ คลอดลูกคนแรก เป็นต้น

ต้องไปพบแพทย์เมื่อ : ผู้ป่วยมีอาการวิตกกังวลอย่างมากต่อเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันเกือบทุกวัน
เป็นเวลาไม่น้อยกว่า
6 เดือน
ไม่สามารถควบคุมความวิตกกังวลของตัวเองได้ มีอาการต่อไปนี้ไม่น้อยกว่า
3 ใน 6
อย่างได้แก่ กระสับกระส่าย อ่อนเพลียง่าย สมาธิไม่ดี
หงุดหงิดง่าย ปวดกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ ของร่างกาย และนอนไม่หลับ
ก่อผลเสียต่อการทำงานและเข้าสังคม


โรคจิตเภท - เป็นความผิดปกติทางจิตใจ ผู้ป่วยจะไม่คิดว่าตัวเองป่วย ไม่ยอมรับการรักษา
ก่อให้เกิดความผิดปกติทางบุคลิกภาพ
มีความคิดอ่านและประสาทรับรู้ไม่อยู่ในความเป็นจริง

ต้องไปพบแพทย์เมื่อ : มีอาการหลงผิดต่างๆ
เกิดประสาทหลอนทางหูหรือตา และยังมีพฤติกรรมหรือบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก
เช่น นิ่งเฉย พูดมาก พูดไม่หยุด วุ่นวาย หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย ผุดลุกผุดนั่ง
เดินไปเดินมา การพูดจาบางครั้งได้เรื่องได้ราว บางครั้งก็ไม่มีใครเข้าใจความหมาย
ซักถามก็ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง บางครั้งมีอาการตกใจกลัวว่ามีเสียงคนขู่จะฆ่า


โรคย้ำคิดย้ำทำ - มักพบในคนที่มีภาวะเศรษฐกิจและสังคมระดับกลางและสูง มีเชาว์ปัญญาดี
มีการศึกษาดี เป็นคนที่ชอบคิดชอบทำงาน และรับผิดชอบงานที่ทำ เกิดจากสาเหตุทางจิตใจ
และความผิดปกติของสารเคมีในสมองชื่อซีโรโทนินต่ำกว่าปกติ ทำให้เกิดการย้ำคิดย้ำทำ
และมีอารมณ์เศร้าร่วมด้วย

ต้องไปพบแพทย์เมื่อ : มีความวิตกกังวลในความผิด ความไม่ดีของตนเองในอดีต ทนถูกตำหนิไม่ได้
นอกจากนี้ในบางรายยังเป็นลักษณะย้ำคิดย้ำทำเกี่ยวกับเรื่องของความสะอาด จะล้างมือ
อาบน้ำวันละหลายๆครั้ง ครั้งละนานๆ





วิธีดูแลตัวเองก่อนป่วย




กิจกรรมทางเลือก -
เมื่อเกิดความเครียด
ร่างกายจะมีปฏิกิริยาที่เรียกว่า "สู้หรือหนี" ซึ่งเป็นสัญชาตญาณเพื่อความอยู่รอดของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์
แต่ปฏิกิริยาโต้ตอบภัยคุกคามอย่างทันควันนี้ไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบันที่ไม่ยอมรับวิธีแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังเข้า
" สู้" หรือ "หนี" คนยุคนี้จึงต้องทนฝืนรับความเครียด
แต่ความเป็นจริงแล้วเราควรปลดปล่อยมันออกไป โดยเร็วที่สุดเมื่อรู้ว่าเครียด
เปลี่ยนมาทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น เดินเล่น รำกระบอง ทำสวน อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบาๆ
เต้นรำ ความเพลิดเพลินที่ได้รับจะช่วยให้ผ่อนคลาย


ก้าวออกไปพูดคุยกับใครสักคน - การเกื้อกูลทางสังคมช่วยป้องกันระบบภูมิคุ้มกันได้
จากการศึกษาของนักเรียนแพทย์ในช่วงสอบไล่
พบว่าเซลล์ชนิดหนึ่งในระบบภูมิคุ้มกันของนักเรียนเหล่านี้ไม่ทำงาน
แต่ผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัวจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยดี
ดังนั้นลองติดต่อกับเพื่อนเก่าหรือญาติสนิทที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นปีๆ
รื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่าในอดีต หรือแปรงานอดิเรก เช่น อ่านหนังสือ สะสมสแตมป์
ให้เป็นโอกาสที่จะได้คบเพื่อนที่มีความสนใจร่วมกัน


ลดความคาดหวัง -
ทำใจให้ได้ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
ความเครียดมักจะถามหาคนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกๆสิ่ง
แม้ว่าจะทำสิ่งต่างๆได้ดีเกือบ 99
เปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่เขาจดจ่อและกระวนกระวายใจ
จนหาความสุขไม่ได้มักจะเป็นอีก 1
เปอร์เซ็นต์ที่ทำไม่ได้มากกว่า
พยายามมองโลกในมุมกลับเสียบ้าง เรียนรู้จากข้อผิดพลาด
บางทีเมื่อรู้สึกสบายๆที่จะทำอะไรต่อมิอะไร ความกดดันต่างๆก็จะหายไป
และพร้อมเสมอสำหรับความท้าทายใหม่ในชีวิต


ทำงานด้วยหัวใจ -
กุญแจสู่ความสุขของคนเราคือ
มีความรักในงานที่ทำอยู่ทุกวัน
หลายคนไม่เคยหยุดถามตัวเองว่าเหตุใดจึงทำสิ่งที่กำลังทำอยู่
และชอบงานที่กำลังทำหรือเปล่า จึงควรหาคำตอบให้ตัวเองและเลือกทำงานที่ตนชอบและถนัด
หากยังไม่สามารถเปลี่ยนงานได้ ก็ควรมองหาข้อดีของงานที่ทำให้เรามีความสุข


กินดีมีประโยชน์ -
ในยามที่เครียด ร่างกายจะใช้สารอาหารสำคัญๆ
บางอย่างหมดไปอย่างรวดเร็ว ควรจัดอาหารเรียกพลังงานในมื้ออาหารประจำเช่น ข้าวกล้อง
จมูกข้าวสาลี ผักใบเขียว ถั่วเมล็ดแห้ง เผือก มันเทศ เพราะมีวิตามินบีชนิดต่างๆ
ที่ช่วยบำรุงระบบประสาท และจัดเป็นอาหารจำพวกแป้งไม่ขัดขาวที่ให้พลังงาน
ช่วยให้ใจสงบ


เลี่ยงมลพิษในเมือง -
ควรอยู่ในอาคารให้มากที่สุดที่จะมากได้ในช่วงที่มีหมอกควันสูงสุดคือช่วงประมาณ
14.00 นาฬิกา หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายภายนอกอาคาร บริเวณใกล้ถนน
หากหลีกเลี่ยงควันพิษได้ยาก การกินอาหารที่มีวิตามินซี และวิตามินอี
จะช่วยป้องกันได้บ้าง




วันอาทิตย์, ธันวาคม 03, 2549

ออกจากความเคยชิน



"คุณจะลำบากไป ๑๐ ปี การเงินจะชักหน้าไม่ถึงหลัง
สุขภาพก็จะไม่สู้ดี
"

หมอดูทำนายอนาคตให้ลูกค้าคนหนึ่ง
"หลังจากนั้น ผมจะสบาย มั่งมีศรีสุขใช่ไหม หมอ?"
"เปล่า
หลังจากนั้นคุณจะชินไปเอง
"


ไม่ว่าความทุกข์จะมาในรูปไหน
คนเรามักมีความสามารถในการปรับตัวปรับใจให้คุ้นเคย
จนความทุกข์นั้นๆ กลายเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ที่ทนไม่ได้นั้น
ส่วนใหญ่มักเป็นเพราะมีเวลาปรับตัวน้อยเกินไป

หรือว่ายังไม่ทันปรับตัวจนคุ้นเคย ก็คิดสั้นไปเสียก่อน

คนที่ประสบเหตุจนตาบอด หูหนวก แม้จะทุกข์เพียงใด

แต่เมื่อเวลาผ่านไป จิตใจก็กลับเป็นปกติ

บางครั้งกลับมีความสุขกว่าคนปกติธรรมดาด้วยซ้ำ
ส่วนคนที่ติดคุกติดตาราง ทีแรกก็อึดอัดระทมทุกข์

แต่ไม่ช้าไม่นานจะเริ่มรู้สึกว่าคุกนั้นเป็นเสมือนบ้าน
คนที่อกหักรักคุดก็เช่นกัน สักพักก็จะทำใจได้
ยิ้มร่าได้เหมือนก่อน


ความเคยชินทำให้เรามีภูมิต้านทานต่อความทุกข์หรือสิ่งไม่พึงปรารถนา

คนที่ไปทำงานในปั๊มน้ำมันหรือเล้าหมู ใหม่ๆ
จะรู้สึกเหม็นตลบอบอวล

แต่อยู่ไปนานๆ
จมูกกลับไม่ได้กลิ่นเหล่านั้นเลย


ความเคยชินนั้นสามารถแปรความทุกข์ให้กลายเป็นความไม่ทุกข์
เปลี่ยนปัญหาให้กลายเป็นเรื่องธรรมดา
นั่นเป็นข้อดีของความเคยชิน

แต่ข้อเสียก็มีอยู่ไม่น้อย
บ่อยครั้งความเคยชินก็ทำให้ปัญหาถูกบดบังและเรื้อรัง

จนแก้ได้ยาก หรือก่อผลเสียหายในที่สุด

คนที่เคยชินกับการนั่งหรือยืนผิดท่า
จะไม่รู้ตัวเลยว่ากระดูกและกล้ามเนื้อเสียรูปไปแค่ไหนแล้ว

นานเข้าๆ โครงสร้างของร่างกายก็จะเสีย
จนยากจะแก้ไข

แถมยังก่อความเจ็บปวดทรมาน

บางคนเดินตัวเอียง จนใครเห็นใครก็ทัก
แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกผิดปกติ

นั่นก็เพราะเคยชินกับการเดินอย่างนั้นมานานนับสิบปี
ยิ่งวันก็ยิ่งเอียงจนเหมือนหอเอียงปิซ่า
ถึงตอนนั้นก็สายเกินแก้แล้ว


เจ้านายที่เครียดเป็นกิจวัตร มักไม่ค่อยรู้ตัวว่าตนเองขี้หงุดหงิดแค่ไหน

เพราะนอกจากตัวเองจะทำเป็นนิสัยแล้ว
คนรอบข้างก็เคยชินด้านชา

จนไม่รู้สึกรู้สาไปเสียแล้ว ฟังดูก็เหมือนดี
แต่ที่จริงไม่ใช่เลย

เพราะนับวันท่านก็จะเครียดง่ายขึ้น ถี่ขึ้น จนโรคหัวใจถามหา

การทำหรืออยู่กับสิ่งที่เคยชินปีแล้วปีเล่า
จึงไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป

บางครั้งก็มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนไปสัมผัสกับสิ่งใหม่
หรือสภาพแวดล้อมอย่างใหม่ดูบ้าง

คนชอบเครียด ลองเปลี่ยนเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนเที่ยวดูบ้าง

อาจพบว่าตัวเองเอาจริงเอาจังมากเกินไป

ยิ่งอยู่กับเพื่อนที่สบายๆ ง่ายๆ มากเท่าไร

ก็ยิ่งเห็นความติดยึดหยุมหยิมขี้กังวลของตนมากเท่านั้น
แล้วจะตระหนักว่าควรรู้จักปล่อยวางเสียบ้าง
สำหรับคนที่เป็นเจ้านาย การรับลูกน้องใหม่ๆ มาทำงาน

อาจช่วยให้ตนเห็นปัญหาในหน่วยงานของตนชัดขึ้น
เพราะคนที่เข้ามาทำงานใหม่นั้น
จะเห็นปัญหาที่สะสมในหน่วยงาน

ได้ชัดเจนกว่าคนที่อยู่นานจนเคยชินกับปัญหา
ของที่วางระเกะระกะในห้องนั้น
คนที่คุ้นเคยย่อมไม่รู้สึกเป็นปัญหา

เพราะเดินหลบจนคล่องแคล่ว แต่ถ้าให้คนใหม่เข้ามาในห้อง
ง่ายที่เขาจะเดินเตะหรือเดินสะดุด

การลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยดูบ้าง
จะช่วยให้เราเห็นข้อจำกัดของตัวเอง

นอกจากจะทำให้เราอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่รู้สึกอหังการ์ว่าข้าเก่งทุกเรื่องแล้ว

ยังช่วยให้เราพัฒนาศักยภาพใหม่ๆ
ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตและการทำงาน

แม้กระทั่งการเปลี่ยนเส้นทางไปที่ทำงาน จากเดิมที่ใช้ชั่วนาตาปี

ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความจำเจ
ยังอาจเปิดตาให้เราเห็นอะไรใหม่ๆ สองข้างทาง

แทนที่จะชินชากับเส้นทางเดิม

กบนั้นเก่งในการปรับตัว เอากบไปวางไว้ในหม้อที่ตั้งอยู่บนกองไฟ

มันจะปรับตัวให้ชินกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นๆ

แต่พอถึงจุดหนึ่ง
มันจะทนไม่ไหวและตายไปในที่สุด

ในสถานการณ์อย่างนี้ ทางออกที่ดีที่สุดคือกระโดดออกจากหม้อขณะที่ยังมีเวลา

ตอนนี้เราเป็นเหมือนกบในหม้อที่ร้อนระอุหรือไม่
ถ้าใช่ น่าจะคิดได้แล้วว่าถึงเวลากระโดด
ออกจากหม้อหรือยัง



วันเสาร์, ธันวาคม 02, 2549

เมื่อไหร่สมควรขัดใจเจ้านาย?




ยิ้มสู้ขัดใจเจ้านายยังไงโดยไม่ตกงานในสถานการณ์ล่อแหลมต่อไปนี้


เดวิด สไตเบล ผู้เขียนหนังสือ When
Talking Makes Things Worse! Resolving Problems When Communication Fails
บอกว่าโฮเมอร์ ซิมพ์สัน ทำถูกแล้ว ประโยคประจำตัวที่เขาพูดอย่างร่าเริงว่า
“ความคิดแจ๋วครับ เจ้านาย!”
รับประกันความสำเร็จในทุกอาชีพ หรือพูดได้ว่าสำเร็จเป็นส่วนใหญ่นั่นล่ะ
แต่ที่สำคัญพอกันคือรู้ว่าควรปฏิเสธเจ้านายถ้าคุณกำลังถูกเอาเปรียบ


แต่การปฏิเสธไม่ได้หมายถึงวิธีแลบลิ้นปลิ้นตาและกระทืบเท้าปึงปัง
แต่หมายถึงการจูงใจเจ้านายให้เชื่อว่าคุณถูกต้องโดยไม่พูดว่าเจ้านายผิด
ต่อไปนี้คือสถานการณ์ล่อแหลม
7
รูปแบบที่คุณสมควรบอกปัดเจ้านายเพื่อรักษาจิตสำนึก
ความนับถือตัวเองและอาชีพของคุณไว้


สถานการณ์ล่อแหลม #1
เจ้านายอยากให้คุณทำสิ่งผิดศีลธรรม
แพท
เฮม ผู้เขียนร่วมในหนังสือ Hardball for Women: Winning at the Game of Business
บอกว่าถ้าเรื่องเล็กๆ คุณทำได้เต็มที่ที่สุดก็คือช่วยปิดบังความจริงให้เธอ
แต่ห้ามทำตามถ้าเกี่ยวกับการปลอมแปลงข้อมูลสำคัญของบริษัท ทำลายเอกสาร
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลลับของใคร
เพราะเรื่องเหล่านี้ส่งผลใหญ่โตที่อาจทำลายบริษัท และต้องแลกกับอาชีพของคุณ


วิธีปฏิเสธแบบมือโปร :
อธิบายอย่างสงบว่าคุณอึดอัดใจที่จะทำตามที่เธอขอมา ช่วงที่เฮมเริ่มทำงานใหม่ๆ
เจ้านายเคยกดดันให้เฮมเอาผลการสำรวจความพอใจของลูกจ้างที่เป็นความลับมาให้เธอดู
หลังจากเจ้านายกวนใจอยู่หลายอาทิตย์ เฮมก็ยื่นคำขาดว่า “คุณไล่ฉันออกก็ได้
ไม่อย่างนั้นก็เลิกพูดถึงเรื่องนี้ เพราะฉันจะไม่เอาข้อมูลให้คุณดู” เฮมบอกว่า
“ฉันเดินออกจากห้องทำงานของเธอ ใจก็สงสัยว่าพรุ่งนี้ฉันจะตกงานหรือเปล่า
แต่ฉันต้องทำสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร”


ผลข้างเคียง : ถ้าคุณโชคดี
เจ้านายจะรู้ตัวว่าล้ำเส้นและจะเป็นฝ่ายถอยเอง เช่นกรณีของเฮม ถ้าโชคร้าย
คุณอาจถูกเหม็นขี้หน้าได้ เจ้านายที่ผูกใจเจ็บอาจไล่คุณออกด้วยเหตุผลเล็กๆ น้อยๆ
ควรปกป้องตัวเองด้วยการเก็บบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้
เพื่อแสดงให้ฝ่ายบุคคลดูในกรณีที่คุณถูกกล่าวหาผิดๆ ทีหลัง


สถานการณ์ล่อแหลม #2
เจ้านายกำหนดเส้นตายที่เป็นไปไม่ได้
ควรต่อรองขอเวลามากขึ้นดีกว่าไปสัญญาแล้วทำไม่ได้ โรบิน แดเนียลสัน
ประธานบริษัท Mad Dogs & Englishmen เอเจนซี่โฆษณาในนิวยอร์ค บอกว่า
“ลูกจ้างส่วนใหญ่จะตอบรับไปซะทุกเรื่อง แล้วพอถึงกำหนดเวลา
พวกเขาก็จะส่งงานที่ไม่ได้เรื่อง”


วิธีปฏิเสธแบบมือโปร :
ไม่ต้องบ่นว่ากำหนดเวลานั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ให้บรรยายว่าโครงการนี้มีอะไรต้องทำบ้าง
อธิบายว่าโครงการที่คล้ายกันก่อนหน้านี้ใช้เวลานานแค่ไหน
รายงานสภาวะการทำงานของคุณในเวลานี้ จากนั้นให้ขอเวลาเพิ่ม
แต่ถ้ากำหนดเวลาไม่สามารถเลื่อนได้จริงๆ ให้ขอคนช่วยเหลือชั่วคราว


ผลข้างเคียง :
คุณอาจถูกมองว่าไร้ประสิทธิภาพ
ดังนั้นอย่าใช้วิธีนี้เวลาที่คุณอยากหลบงานกลับบ้านไปดูละครเรื่องใหม่ ข้อดีคือ
เจ้านายอาจชื่นชมความซื่อตรงของคุณ
ที่ดีที่สุดคือคุณจะแสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมทำงานอะไรก็ได้
แต่ก็รู้ดีว่างานนั้นต้องทำอะไรบ้างถึงจะสำเร็จ
นายจ้างส่วนใหญ่ชื่นชมลูกจ้างประเภทนี้ แดเนียลสันบอกว่า
“ผมส่งเสริมลูกน้องที่สามารถตัดสินได้ว่างานนั้นๆ
จะใช้เวลานานแค่ไหน”


สถานการณ์ล่อแหลม #3
เจ้านายชวนออกเดท
ไม่ว่าคุณจะปลื้มหรือเปล่า
คุณต้องปฏิเสธสถานการณ์นี้เพื่อความน่าเชื่อถือของตัวคุณในอาชีพการงาน เพลเลอร์
มาเรียน ผู้เขียนหนังสือ Crisis Proof Your Career เตือนว่า
“แม้คุณจะเป็นคนฉลาดที่สุด มีพรสวรรค์ที่สุดในแผนก
แต่ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าคุณได้งานดีๆ
หรือได้เลื่อนตำแหน่งเพราะความสามารถของตัวเอง”


วิธีปฏิเสธแบบมือโปร :
บอกปัดเขาตรงๆ แต่นุ่มนวลประมาณว่า “ฉันชอบคุณนะ
แต่ฉันไม่คิดจะปนเรื่องงานกับความสุขส่วนตัว และถึงยังไงคุณก็คือเจ้านายของฉัน
ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป บางทีเราอาจกลับมาพิจารณาเรื่องนี้กันใหม่”


ผลข้างเคียง :
เขาอาจโต้ตอบคุณด้วยการทำตัวแย่ๆ
แต่ผลอาจออกมาแบบเดียวกันนี้ได้ถ้าคุณเดทกับเขาแล้วเลิกกันทีหลัง
พยายามเก็บบันทึกบทสนทนาระหว่างคุณเอาไว้
จะได้มีหลักฐานส่งให้แผนบุคคล


สถานการณ์ล่อแหลม #4
คุณเก่งมากจนเจ้านายให้งานมากเกินไป
แน่นอนว่าคุณอยากให้เธอไว้ใจคุณ
แต่ไม่ใช่ทำให้คุณยุ่งซะจนไม่สามารถทำงานที่จะสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้เลย
เฮมเตือนว่า “อย่าปล่อยให้ความเก่งของตัวเองกลายเป็นโทษ”


วิธีปฏิเสธแบบมือโปร :
ตอบรับงานนั้น แต่หลังจากผ่านไปสองสามวัน
ขอให้เจ้านายช่วยลำดับความสำคัญของงานให้คุณ ประมาณว่า “หนูมี 3 โครงการใหญ่ และ 10
งานย่อยอยู่ในมือตอนนี้ค่ะ หนูควรมุ่งไปที่งานไหนก่อนคะ?”
เมื่อเจ้านายเห็นว่าคุณเอาใจใส่และกำลังพยายามเต็มที่ เธอก็จะมอบหมายงานเล็กๆ
ให้คนอื่นทำ


ผลข้างเคียง :
จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก ตราบใดที่คุณไม่ตอบปฏิเสธไปเฉยๆ


สถานการณ์ล่อแหลม #5
คุณได้รับการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว...ไปตำแหน่งที่คุณไม่อยากทำ
ถ้าสิ่งที่คุณต้องการคือตำแหน่งในฝ่ายการตลาด
การได้เลื่อนไปอยู่ในฝ่ายบุคคลคงไม่เหมาะกับคุณ
แม้นั่นจะหมายถึงเงินเดือนเพิ่มก็ตาม
การเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้อาจทำลายอาชีพของคุณในระยะยาว
ถ้าคุณยอมรับงานที่คุณไม่พอใจจะทำ งานก็จะออกมาไม่ดี
อาชีพของคุณก็เช่นกัน


วิธีปฏิเสธแบบมือโปร :
เจ้านายมองว่าการโยกย้ายครั้งนี้คือโอกาสดี
ดังนั้นบอกเธอว่าคุณอยากขอคิดดูอีกสองสามวัน สไตเบล บอกว่า
จากนั้นอธิบายอย่างจริงใจว่าทำไมคุณไม่เหมาะกับตำแหน่งนั้น
และเสนอทางเลือกที่ดีต่อทั้งสองฝ่ายว่า “ฉันขอบคุณจริงๆ ค่ะกับข้อเสนอนี้
แต่จุดแข็งของฉันคือการทำวิจัยและพัฒนากลยุทธ์การตลาด
ฉันคิดว่าฉันจะใช้ความสามารถของตัวเองได้ดีที่สุดถ้าอยู่ในตำแหน่งเดิมและมุ่งสร้างฐานลูกค้า”
เมื่อคุณปฏิเสธโดยใช้การแจกแจงในแง่บวก
คุณจะดูเหมือนร่วมมือกับเจ้านายอยู่ต่างหาก


ผลข้างเคียง : สไตเบล เตือนว่า
“คุณอาจไม่ได้รับการพิจารณาในการเลื่อนขั้นครั้งต่อไป ถ้าเป็นอย่างนั้น
คุณควรไปสมัครงานใหม่จะดีกว่า


สถานการณ์ล่อแหลม #6
คุณได้รับงานที่ขัดแย้งทางศีลธรรม
คุณควรเชื่อจิตสำนึกของตัวเอง เมื่อต้นทศวรรษ 1980 เชอรีล ดี.
บรูซสาร์ด ซึ่งเป็นนายหน้าค้าหุ้นอยู่ขณะนั้น
ปฏิเสธไม่ขายหุ้นที่มีความเสี่ยงให้แก่นักลงทุน
เพราะนักลงทุนคงตายก่อนจะได้เห็นเงินปันผล บรูซสาร์ด ผู้เขียนหนังสือ Sister CEO:
The Black Woman’s Guide to Starting Your Own Business บอกว่า
“ฉันไม่ชอบธุรกิจที่หลอกเอาเงินจากคนอื่น สำหรับฉันแล้ว
การลงทุนเป็นเรื่องผิดศีลธรรมนะ”


วิธีปฏิเสธแบบมือโปร :
ขอเจ้านายมอบหมายงานอื่น ถ้าคุณจะปฏิเสธ คุณควรเสนอตัวทำงานด้านอื่น


ผลข้างเคียง :
การไม่ทำตามคำสั่งอาจทำให้คุณถูกไล่ออก ถูกลดขั้น
ไม่ขึ้นเงินเดือนหรือไม่ได้รับพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง เจ้านายอาจบอกว่า
“ถ้าคุณไม่ชอบสินค้าที่เรากำลังขาย แล้วคุณมาอยู่นี่ทำอะไร?” สุดท้าย
คุณอาจยอมทำตามเพื่อสงบศึก แต่ถ้าคุณไม่ยึดมั่นกับคุณค่าที่คุณเชื่อ
คุณจะทำงานอย่างไม่มีความสุข และกระทบต่อคุณภาพของงานได้


สถานการณ์ล่อแหลม #7
คุณทำงานล่วงเวลาไม่ได้เพราะปัญหาทางบ้าน
มาเรียน อธิบายว่า
“คุณไม่ควรเกรงใจที่จะปฏิเสธงานล่วงเวลาในเมื่อคุณมีลูกเล็กที่กำลังป่วยรออยู่ที่บ้าน
หรือแม่ป่วยเข้าโรงพยาบาล” ในสถานการณ์แบบนี้
มีเหตุผลพอที่คุณจะให้ความสำคัญกับปัญหาทางบ้านก่อนแล้วค่อยปรับตารางงานให้เข้ากัน


วิธีปฏิเสธแบบมือโปร :
บอกเจ้านายว่าคุณไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นข้ออ้างเลย แล้วพูดประมาณว่า “ช่วง 2
เดือนที่มีปัญหานี้ ฉันจะทำงานประจำให้เต็มที่ แต่จะไม่ทำงานล่วงเวลา ต้องขอโทษด้วย
แล้วฉันจะเร่งงานให้มากขึ้นทันทีที่แก้ปัญหาทางบ้านได้แล้ว”
และอย่าลืมทุ่มเทกับงานมากเป็นพิเศษ พยายามมาเร็ว
และกินมื้อเที่ยงที่โต๊ะ


ผลข้างเคียง :
คุณอาจพลาดงานที่อยากทำ หรืองานที่น่าสนใจ
แต่การรับงานฉุกเฉินไม่ได้ทำให้อาชีพของคุณพุ่งทะยาน
ถ้าคุณยังทำงานได้ดีแม้จะมีปัญหาทางบ้าน เจ้านายต้องอยากได้คนแบบคุณร่วมทีมแน่




วันศุกร์, พฤศจิกายน 17, 2549

เวปดอกไม้

Rating:★★★★★
Category:Other
อยากรู้ว่าดอกไม้ชื่อนี้ หน้าตาแบบไหนลองเข้าไปตามหาได้

รึจำไดู้้ว่าดอกหน้าตาอย่างไร แต่ไม่รู้ชื่อ ก็เข้าไปไล่ดูตามสีได้ครับ

มีลิ้งค์ให้ดูสามสี่เวปทางด้านซ้ายด้วย

http://www.sarapad.com/dada/mainpage.asp

http://www.sarapad.com/


วันพุธ, พฤศจิกายน 15, 2549

การเปลี่ยนหรือคืน สินค้าทำได้แค่ไหน(นักช็อปควรรู้)



เมื่อเดือนกันยายน 2005 ที่ผ่านมาบรรดาห้างสรรพสินค้าและดิสเคาน์สโตร์ รวมถึงคอนวีเนียนสโตร์หรือร้านสะดวกซื้อได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือกำหนดมาตรฐานการรับประกัน คุณภาพสินค้าและบริการร่วมกับกรมการค้าภายในเพื่อเป็นการยืนยันว่า สินค้าที่มีการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าได้มาตรฐานและรับประกันคุณภาพของสินค้า ซึ่งรายละเอียดการรับประกันสินค้าของแต่ละห้างเป็นอย่างไร เชิญตรวจสอบกันได้ในบทความนี้เลยนะคะ



ไม่พอใจสินค้า เรายินดีคืนเงิน นักช้อปโดยทั่วไปมักเข้าใจว่าการเปลี่ยนหรือคืนสินค้านั้นจะทำได้เฉพาะ กับสินค้าที่ชำรุดบกพร่องหรือผลิตมาไม่ได้มาตรฐานเท่านั้น แต่ความจริงแล้วการเปลี่ยนหรือคืนสินค้านั้นทำได้แม้กระทั่งสินค้านั้นไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เพียงแค่คุณไม่ชอบใจมันเอาดื้อๆ คุณก็สามารถเปลี่ยนหรือเอาเงินคืนได้ ในห้างสรรพสินค้าบางแห่งคุณอาจจะเคยเห็นป้ายแบบนี้บ้างแล้ว " ไม่พอใจสินค้า เรายินดีคืนเงิน " ซึ่งหมายความว่า สำหรับสินค้าที่คุณจ่ายเงินซื้อนำกลับไปถึงบ้านแล้ว แม้ว่าตัวสินค้ามันจะไม่มีความผิดอะไร ไม่มีความเสียหายชำรุดบกพร่อง เพียงแต่แค่คุณเกิดความรู้สึกไม่พอใจสีสันหรือรูปทรงของสินค้า ( แม้ว่าตอนที่อยู่ในห้างคุณจะรู้สึกพอใจเอามากๆก็ตาม ) คุณมีสิทธิ์ขอคืนสินค้าเปลี่ยนเป็นเงินคืนได้



แล้วคุณเคยลองพิสูจน์ข้อความเช่นว่านั้นหรือไม่ว่าทำได้จริงหรือเปล่า วารสารฉลาดซื้อได้ทดลองส่งอาสาสมัครไปซื้อสินค้าราคาปกติตามร้านค้าที่อยู่ในความรับผิดชอบของห้างสรรพสินค้าและดิสเคาน์โตร์ทั้งหมด 7 แห่ง เป็นห้างสรรพสินค้า 4 แห่ง คือ



1 .
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว

2.
ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน

3.
ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาธนบุรี

4.
ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขารัชดาภิเษก



และเป็นดิสเคาน์สโตร์ 3 แห่ง คือ

1 .
คาร์ฟูร์ สาขาบางปะกอก

2.
บิ๊กซี สาขาสุขสวัสดิ์ และ

3.
เทสโก โลตัส สาขางามวงศ์วาน



โดยมีเงื่อนไขให้กับอาสาสมัครว่าให้ซื้อสินค้าที่ขายในราคาปกติ ขายโดยร้านหรือบูธที่เป็นส่วนของห้างสรรพสินค้า ( ไม่ใช่ร้านที่เข้ามาเช่าพื้นที่ ) และเมื่อซื้อสินค้ามาแล้ว 1-2 วันให้นำสินค้าไปคืน โดยขอคืนเงินที่จ่ายไปทั้งหมดไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนสินค้าแทน โดยมีข้ออ้างว่าไม่พอใจสินค้าด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่ความชำรุดบกพร่องของตัว สินค้า เช่น ไม่ชอบสีสันหรือรูปทรงที่เลือกไป เป็นต้น

ผลการสำรวจมาตรการการรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าเพื่อความพอใจของลูกค้าผลที่ได้คือ ดิสเคาน์สโตร์ทั้ง 3 แห่ง ยอมคืนเงินให้กับลูกค้า โดยคาร์ฟูร์และบิ๊กซีขอจดชื่อที่อยู่ของลูกค้าไว้ ในขณะที่ เทสโก โลตัส ยอมคืนเงินให้โดยไม่มีการจดข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าแต่อย่างใด

สำหรับกลุ่มห้างสรรพสินค้าพบว่า



*
ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง

เมื่ออาสาสมัครขอคืนสินค้ากับพนักงานขาย พนักงานขาย ไม่ยอมให้คืนสินค้าแต่เสนอให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าอื่นเปลี่ยนแทน แต่เมื่อลูกค้ายังยืนยันต้องการคืนสินค้าเหมือนเดิม พนักงานขายก็ยังไม่ยอมคืนให้ ท้ายที่สุดอาสาสมัครได้ไปติดต่อที่จุดบริการลูกค้าของห้างสรรพสินค้าจึงได้รับเงินคืน



*
ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน

เมื่ออาสาสมัครขอคืนสินค้า พนักงานขายเสนอให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าอื่นเปลี่ยนแทน แต่เมื่อลูกค้ายืนยันขอคืนเงินเหมือนเดิมพนักงานขายบอกให้ไปติดต่อที่แคชเชียร์ของแผนกสินค้านั้น ซึ่งทางแคชเชียร์แจ้งว่าไม่สามารถคืนเป็นเงินได้ ( ทั้งๆ ที่มีป้ายเขียนไว้ว่า รับประกันความพอใจ เปลี่ยนคืนสินค้าสำเร็จได้ภายใน 5- 1 0 นาที แสดงไว้อย่างชัดเจนที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ ) และได้ออกเป็นใบคูปองใช้แลกซื้อสินค้าในห้างแทนมีอายุ 30 วัน จนท้ายที่สุดฉลาดซื้อต้องโทรไปแจ้งว่าเรากำลังทดสอบมาตรการการรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าของห้างกับผู้บริหารระดับสูง ทางห้างจึงคืนเงินให้ พร้อมกับคำขออภัยและแจ้งว่าจะมีมาตรการลงโทษกับการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสม ของพนักงาน แคชเชียร์และพนักงานขาย



*
ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์

เมื่ออาสาสมัครขอคืนสินค้า พนักงานขายเสนอให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าอื่นเปลี่ยนแทน แต่เมื่อลูกค้ายืนยันขอคืนเงินเหมือนเดิมพนักงานขายและแคชเชียร์ปฏิเสธ ซึ่งทางแคชเชียร์แจ้งว่าไม่สามารถคืนเป็นเงินได้และได้ออกเป็นใบคูปองใช้แลกซื้อสินค้าในห้างแทน แต่มีระยะเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น จนท้ายที่สุดฉลาดซื้อต้องโทรไปแจ้งว่าห้างกำลังถูกทดสอบมาตรการการรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้า กับผู้บริหารระดับสูง ทางห้างจึงคืนเงินให้ พร้อมกับคำขออภัยและแจ้งว่าจะมีมาตรการลง โทษกับการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสมของพนักงานขาย



*
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล

เมื่ออาสาสมัครขอคืนสินค้า พนักงานขายเสนอให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าอื่นเปลี่ยนแทน แต่เมื่อลูกค้ายืนยันขอคืนเงินเหมือนเดิมพนักงานขายบอกให้ไปติดต่อที่แคชเชียร์ของแผนกสินค้านั้น ซึ่งทางแคชเชียร์แจ้งว่าไม่สามารถให้คืนเป็นเงินได้ จนท้ายที่สุดฉลาดซื้อต้องโทรไปแจ้งว่าเรากำลังทดสอบมาตรการการรับเปลี่ยนหรือคืนสินค้าของห้างกับผู้บริหารระดับสูง ทางห้างจึงคืนเงินให้ พร้อมกับคำขออภัยและแจ้งว่าจะมีมาตรการลงโทษกับการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสมของพนักงานขาย และแจ้งว่าหากลูกค้าต้องการเปลี่ยนหรือคืนสินค้าให้ไปติดต่อที่จุดบริการลูกค้า ( ซึ่งอยู่ที่ชั้นสอง คนละชั้นกับจุดที่มีปัญหา ) จะดีที่สุด



จะเห็นได้ว่าแม้จะมีข้อตกลงดังกล่าว ( ซึ่งตามจริงหลายๆ ห้างก็มีข้อตกลงการเปลี่ยนหรือคืนสินค้ามาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว ) แต่ในทางปฏิบัติคุณอาจพบปัญหาได้ โดยเฉพาะกับพนักงานขายของห้างสรรพสินค้าที่สนใจเปอร์เซ็นต์ยอดขายมากกว่าหัวใจในการบริการลูกค้า ไม่สนใจที่จะคืนเงินให้กับลูกค้า ทั้งๆ ที่ลูกค้าได้แสดงเจตน์จำนงค์อย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งหากผู้บริหารของกลุ่มห้างสรรพสินค้าไม่มีการปรับตัว เช่น ไม่มีการเข้มงวดกวดขันอบรมพนักงานขายที่ดีพอหรือไม่มีจุดบริการลูกค้าที่เห็นเด่นชัดทุกชั้น ทุกแผนก ก็อาจกลายเป็นจุดอ่อนของห้างสรรพสินค้าที่ทำให้ลูกค้าเข็ดขยาดจนต้องหันไปใช้บริการกับกลุ่มดิสเคาน์โตร์ใหญ่ๆ ได้ง่าย สำหรับผู้บริโภคที่มีปัญหาในการขอเปลี่ยนหรือขอคืนสินค้าให้ติดต่อกับฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือผู้บริหารระดับสูงของห้างทันที



กรณีสินค้าชำรุดบกพร่องเปลี่ยนหรือคืนได้เพียงแค่วันที่ห้างกำหนดจริงหรือ ?



ความรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่อง

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม . 472 ในกรณีที่ทรัพย์สินซึ่งขายนั้นชำรุดบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่งอันเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อันมุ่งจะใช้เป็นปกติก็ดีประโยชน์ที่มุ่งหมายโดยสัญญาก็ดี ท่านว่าผู้ขายต้องรับผิด ความที่กล่าวมาในมาตรานี้ย่อมใช้ได้ทั้งที่ผู้ขายรู้อยู่แล้วหรือไม่รู้ว่าความชำรุดบกพร่องนั้นมีอยู่ ม .473 ผู้ขายย่อมไม่ต้องรับผิดในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ



( 1 )
ถ้าผู้ซื้อได้รู้อยู่แล้วแต่ในเวลาซื้อขายว่ามีความชำรุดบกพร่องหรือควรจะได้รู้ เช่นนั้นหากได้ใช้ความระมัดระวังอันจะพึงคาดหมายได้แต่วิญญูชน

(2)
ถ้าความชำรุดบกพร่องนั้นเป็นอันเห็นประจักษ์แล้วในเวลาส่งมอบและผู้ซื้อรับเอาทรัพย์สินนั้นไว้โดยไม่อิดเอื้อน

(3)
ถ้าทรัพย์นั้นได้ขายทอดตลาด ม . 474 ในข้อรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่องนั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ได้พบเห็นความชำรุดบกพร่อง



หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับคืนสินค้าหรือเปลี่ยนสินค้าใหม่ของห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ นั้น ในทางกฎหมาย มีลักษณะเป็นคำมั่น ซึ่งหากทางห้างไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับผู้บริโภคจะมีผลเป็นการผิดสัญญา อย่างไรก็ตาม หากสินค้าชำรุดบกพร่องทางห้างจะต้องรับผิดชอบทุกกรณีตามกฎหมาย ( มีอายุความ 1 ปี ) โดยไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขการรับคืนสินค้าซึ่งห้างเป็นผู้กำหนดขึ้นส่วนจะรับผิดชอบในลักษณะใดนั้น ก็ต้องพิจารณาตามความบกพร่องที่เกิดขึ้น เช่น การคืนเงิน การเปลี่ยน

 

คู่แข่งที่แท้จริง



ทุกปีในสหรัฐอเมริกาจะมีการประกวดแข่งขันสะกดคำ
โดยจำกัดเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า
๑๖ ปี
งานนี้เป็นงานระดับชาติ มีเด็กมาร่วมแข่งขันถึง ๑๐
ล้านคน และมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศในรอบสุดท้าย

ปีนี้ผู้ที่ฝ่ามาถึงรอบสุดท้ายมีเพียง ๑๓
คน ซามีร์ ปาเตล
วัย ๑๒
ขวบ ซึ่งปีที่แล้วได้อันดับ
เป็นตัวเต็งอันดับ
ส่วนอันดับ
คือราชีพ ทาริโกพูลา ซึ่งได้ที่
เมื่อปีที่แล้ว

ชัยชนะน่าจะเป็นของซามีร์ แต่แล้วเขาก็พลาดเมื่อเจอคำว่า eramacausis (แปลว่าอะไร โปรดหาจากพจนานุกรมเล่มใหญ่
เอาเอง) การตกรอบของซามีร์ ทำให้ราชีพเป็นตัวเต็งอันดับ
ทันที

มีนักข่าวคนหนึ่งถามราชีพว่า ดีใจไหมที่คู่ปรับตกรอบไป คำตอบของราชีพก็คือไม่ครับ
นี่เป็นการแข่งขันกับ คำ
ไม่ใช่กับ
คน ครับ

ไม่ทันขาดคำ
เสียงตบมือก็ดังก้องห้องประชุม
คำตอบของราชีพคงทำให้ผู้ใหญ่หลายคนได้คิด ใช่หรือไม่ว่าเวลาเราแข่งขันในเรื่องอะไรก็ตาม เรามักจะมองเห็นผู้ร่วมแข่งขันเป็นปรปักษ์หรือฝ่ายตรงข้าม ในใจจึงอยากให้เขามีอันเป็นไป เพื่อเราจะได้เป็นผู้ชนะแต่ผู้เดียว หารู้ไม่ว่าลึก
ความอิจฉาและพยาบาทกำลังก่อตัวขึ้น ดังนั้นแข่งไปจึงทุกข์ไป แข่งเสร็จแล้วก็ยังทุกข์อีกที่เห็นคนอื่นเก่งกว่าตน

แต่สำหรับราชีพ แม้การแข่งขันจะดุเดือดอย่างไร เขาไม่ได้มองไปที่คน แต่มองไปที่คำ สำหรับเขาความท้าทายอยู่ที่การต่อสู้กับคำยาก คำยากทุกคำคือปริศนาที่เขาต้องถอดออกมาเป็นตัว ให้ได้
เมื่อใจไปจดจ่ออยู่ที่คำเหล่านี้ เขาจึงไม่ยินดียินร้ายที่ผู้ร่วมแข่งขันจะไปหรืออยู่

แม้ว่าในที่สุดราชีพจะได้เป็นที่
(
เพราะแพ้คำว่า
Heiligenschein)
แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทุกข์เพราะเกลียดหรืออิจฉาคนที่เก่งกว่าเขา คงมีแต่ความมุ่งมั่นที่จะศึกษาค้นคว้าให้หนักขึ้นเพื่อพิชิตคำยาก
ในปีหน้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปีหน้าเขาต้องฉลาดกว่าปีนี้แน่ มองในแง่นี้ แม้เขาจะ
แพ้แต่เขาไม่ขาดทุนเลย กลับมีกำไรด้วยซ้ำ

มุมมองของราชีพนั้น ไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะในยามแข่งขันเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าสำหรับการดำเนินชีวิตและสัมพันธ์กับผู้คนด้วย ใช่หรือไม่ว่า ในชีวิตประจำวัน เมื่อเราถูกวิพากษ์วิจารณ์ ใจเรามักจะพุ่งตรงไปยังคนวิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่ค่อยสนใจคำวิพากษ์วิจารณ์เท่าใดนัก ดังนั้นแม้ว่าคำวิพากษ์วิจารณ์จะถูกต้อง ให้แง่คิดที่ดี เพียงใดก็ตาม แต่เราไม่สนใจที่จะไตร่ตรองเสียแล้ว เพราะใจนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดและโกรธคนที่วิพากษ์วิจารณ์เรา

ถ้าเราหันมาใส่ใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์กันให้มากขึ้น และสนใจให้น้อยลงกับการตอบโต้เพื่อเอาชนะคะคานคนที่วิพากษ์วิจารณ์ นอกจากเราจะทุกข์หรือโกรธเกลียดน้อยลงแล้ว เรายังมีโอกาสที่จะได้ประโยชน์จากคำวิพากษ์วิจารณ์นั้นด้วย โดยเฉพาะหากเป็นคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ถูกต้อง ด้วยท่าทีเช่นนี้ เราจะได้กำไรสถานเดียว

คุณเล็ก
วิริยะพันธุ์ ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ ถึงกับบอกว่า วันไหนไม่ได้รับคำตำหนิ วันนั้นถือเป็นอัปมงคลเลยทีเดียว
เวลาทำงานก็เช่นกัน ถ้าเรามองว่านี้เป็นการต่อสู้ปลุกปล้ำกับงาน เราจะไม่เดือดร้อนที่คนอื่นทำได้ดีกว่าเรา ใครจะดีจะเก่งก็เป็นเรื่องของเขา เพราะในใจนั้นนึกอยู่เสมอว่าฉันกำลังแข่งขันกับงาน ไม่ใช่แข่งขันกับคนอื่นนอกจากจะไม่อิจฉาเขาแล้ว ยังพยายามเรียนรู้จากเขาว่ามีวิธีการอย่างไร เพื่อเอาไปใช้ในการพิชิตงานที่กำลังทำอยู่ หรือทำให้งานนั้นดีขึ้น

มองให้ลึกลงไปแล้ว คนไม่ใช่คู่แข่งของเรา กิเลสตัณหา
ความเห็นแก่ตัว หรือความหลงตนต่างหากที่เป็นคู่แข่งของเรา แทนที่จะสู้กับใครต่อใคร เราควรหันมาสู้กับอกุศลธรรมในตัวเราดีกว่า ที่แล้วมาเราต่อสู้กับใครต่อใครมากแล้ว แต่ไม่ได้ต่อสู้กับอกุศลธรรมเหล่านี้ เราจึงทุกข์ไม่เว้นแต่ละวัน

ถึงที่สุดแล้ว แม้แต่คนที่คิดร้ายต่อเรา เขาก็ไม่ได้เป็นศัตรูของเรา ความโกรธเกลียดหรือความเห็นแก่ตัวในใจเขาต่างหาก ที่เป็นศัตรูของเรา สิ่งที่เราควรจัดการคือความชั่วร้ายในใจของเขา มิใช่จัดการตัวเขา ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เราจะปลอดภัยและมีชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริง เพราะ การขจัดศัตรูที่ดีที่สุดคือเปลี่ยนเขามาเป็นมิตร

แล้วอะไรล่ะที่จะเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตรได้ หากมิใช่การใช้ความดีชนะใจเขา