วันศุกร์, กรกฎาคม 22, 2554

จิตใจที่โหยหาความสุข

พุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง ถามพลวงพี่ไพศาล วิศาโลว่า
 
ความสุขภายนอกจำเป็นไหม
 
และถ้ายังจำเป็น ควร "จำกัด" มันไว้แค่ไหน ไม่ให้เสพติดมัน
 
เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต ตอบว่า "ยังจำเป็นอยู่" ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสี่ ที่ยังจำเป็นในชีวิตประจำวัน
 
"แต่จำเป็นเพราะความอยู่รอด โดยปกติ จิตใจจะโหยหาความสุข
ถ้าไม่ได้ความสุข มันจะป่วน คนที่ทำตัวเกกมะเหรกเกเรเพราะเขาขาดความสุข
 
ความสุขมีสองประเภท คือความสุขทางวัตถุกับความสุขทางจิตใจ
 
ถ้าเรายังไม่มีนิรันดร์สุข เราก็ต้องอิงแอบอยู่กับความสุขที่เรามี
 
แต่เมื่อใดก็ตามที่เรามีความสุขหล่อเลี้ยงใจมากขึ้น เราก็จะต้องการความสุขทางวัตถุน้อยลง
 
แต่ถ้าเราไม่มีความสุขภายในเลย เราก็ต้องการความสุขทางวัตถุมากจนกลายเป็นทาสของมัน เช่น คนติดยา ติดเหล้า เพราะนั่นคือ ความสุขอย่างเดียวของเค้า
 
เช่นนั้นแล้ว ถ้าเราต้องการเป็นอิสระจากสุขภายนอก เราก็ต้องหาสุขอย่างอื่นมาทดแทน เช่น ตอนเด็กๆ เราชอบกินกล้วยแขก เพราะมันอร่อยมาก แต่พอโตขึ้นมาเจอชอกโกแลต พบว่ามันอร่อยมาก เราก็เบื่อกล้วยแขกไปเลย เพราะเจอของอร่อยกว่า แต่ต่อไปเราก็จะหน่ายชอกโกแลตอีกเพราะเราเจอสิ่งที่ดีกว่า" หลวงพี่ตอบเป็นแนวทางกว้างๆ
 
 
กับคำถามต่อมา ปุจฉาโดยพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง ที่กำลังมีปัญหาในที่ทำงาน
 
 
"เราควรวางตัวอย่างไรให้มีความสุขในที่ทำงาน เพราะต้องทำตัวให้แข็งแกร่ง มีความรู้ เพื่อให้ผู้ร่วมงานให้เกียรติ และเราเองก็หวังความสุขจากตรงนั้น แต่บางทีใจเรารู้ว่ามันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง แต่ถ้าเราไม่ทำ ก็จะเกิดความกลัวว่า เพื่อนร่วมงานจะนำปัญหามาให้"
 
หลวงพี่วิสัชนาว่า
"ปัญหาอยู่ที่ความสัมพันธ์ เราเองต้องทำใจส่วนหนึ่ง อย่าไปอิงกับความคาดหวัง สายตา หรือความรู้สึกของคนรอบข้างมากนัก ถ้าเราพึ่งพิงหรือแคร์ เราจะไม่มีทางมีความสุขได้เลย เพราะสายตาคนรอบข้างไม่มีความแน่นอนอยู่แล้ว แคร์มากเราก็จะทุกข์ การที่เขาจะมองว่าเราไม่แข็งแกร่ง ไม่มีความรู้ ก็เป็นเรื่องของเขา อย่างน้อยให้เรามีความมั่นใจในตัวเอง ไม่หวั่นไหวต่อสายตาคนอื่น นี่เป็นสิ่งสำคัญกว่า
 
ส่วนที่สอง คือ ปฏิสัมพันธ์กับเขา ถ้าเราปฏิสัมพันธ์กับเขาอย่างเพื่อน ด้วยความจริงใจแล้ว ด้วยความเมตตา ถ้ามีอะไรก็กล้าพูดกับเขา จะช่วยได้ การสื่อสารระหว่างกันเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง ในการช่วยลดปัญหา"
 
 
..............................................
คนเรามักมีความสุขจากการได้ มากกว่าการมี มีเท่าไหร่ก็ยังจะอยากได้มาใหม่เพราะเรามักคิดว่า ของใหม่จะให้ความสุขแก่เราได้มากกว่าสิ่งที่มีอยู่เดิม บ่อยครั้งของที่ได้มาใหม่นั้นก็เหมือนกับของเดิมไม่ผิดเพี้ยน แต่เพียงเพราะมันเป็นของใหม่ ก็ทำให้เราดีใจแล้วที่ได้มา

ถ้าหากว่าของใหม่ให้ความสุขได้มากกว่าของเก่าจริงๆ เรื่องก็น่าจะจบลงด้วยดี แต่ปัญหาก็คือ ของใหม่นั้นไม่นานก็กลายเป็นของเก่า และความสุขที่ได้มานั้นในที่สุดก็จางหายไป ผลก็คือกลับมารู้สึก "เฉยๆ" เหมือนเดิม และดังนั้นจึงต้องไล่ล่าหาของใหม่มาอีก เพื่อหวังจะให้มีความสุขมากกว่าเดิม แต่แล้วก็วกกลับมาสู่จุดเดิม เป็นเช่นนี้ไม่รู้จบ น่าคิดว่าชีวิตเช่นนี้จะมีความสุขจริงหรือ? 
 
(ตอนหนึ่งจากหนังสือความสุขที่ปลายจมูก)
เนื้อธรรมทั้งหมดที่พระไพศาลบรรยายมาทั้งหมด เชื่อว่าเป็นสิ่งที่หลายคนรู้อยู่แล้ว นี่อาจจะเพียงการช่วยตรวจทานอีกรอบว่า ความสุขมีกันอยู่แล้ว หยิบมันออกมาใช้บ้าง อย่าเอาใจออกห่าง 
...อยู่ใกล้แค่นี้เอง

3 ความคิดเห็น:

` aay .. กล่าวว่า...

ถ้าทำได้จะสุขมาก

Tinnie N. กล่าวว่า...

สาธุจ้า

phyche phyche123 กล่าวว่า...

ความสุขมีกันอยู่แล้ว หยิบมันออกมาใช้บ้าง อย่าเอาใจออกห่าง
...อยู่ใกล้แค่นี้เอง................... หยิบมาใช้ๆๆ