วันศุกร์, เมษายน 24, 2552

มงคลสูตร

วันนี้ทำบุญแต่เช้า ได้ฟังพระสวดมงคลสูตร (แน่นอนว่าฟังไม่ออกไม่เข้าใจคความหมาย) และได้ฟังประวัติมานิดหน่อย จึงไปตามหาคำแปลมาคตรับ ว่าฟังอะไรมาบ้างเมื่อเช้านี้

----------------------------------------------------------------------------------------------

http://seedang.com/stories/36388

มงคลสูตรเป็นพระสูตรที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ให้ ทวยเทพที่เข้ามาถามไถ่ พระพุทธเจ้าถึงสิ่งที่ทำแล้วเกิดมงคล แก่ผู้ที่หวังความสวัสดีให้ชีวิต จดบันทึกการแสดงธรรมครั้งนั้น โดยพระอานนท์เถระเจ้า พระสาวกอุปัฎฐากของพระพุทธเจ้าผู้เป็นเอตะทัคคะในการจดจำบันทึกถ้อยความครับ .....ปัจจุบันเราสวดมนต์บทนี้กันอย่างมากมายแต่ใจความในบทสวดนี้ มันคือปาฎิหาร์ยงั้นหรือถ้าเราไม่รู้คำแปล เมื่อรู้คำแปลแล้วเราได้ปฎิบัติอย่างในบทสวดมนต์นี้หรือไม่.....ถ้าเราทำได้ เมื่อนั้นเราจะเกิดความสวัสดี เมื่อนั้นเองจึงเกิดสิ่งดีๆในชีวิต นั่นแลผมเรียกว่าปฎิหาร์ย ปาฎิหาร์ยที่เกิดจากการจดจำเข้าใจพระสูตรนี้ หาใช่เกิดจากการท่องบ่นภาษาบาลีจดจำอัครบาลี อย่างไม่รู้ความหมายไม่....สาธุ ขอความเป็นมงคลบังเกิดแก่ผู้ที่ปฎิบัติตามคำสอนในพระสูตรมงคลนี้ได้.... สวัสดี

----------------------------------------------------------------------------------------------

มงคลสูตร
เอวัมเม สุตัง ( อันข้าพเจ้า (คือพระอานนท์เถระ) ได้สดับมาอย่างนี้ )
เอกัง สะมะยัง ภะคะวา ( สมัยหนึ่ง สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า )
สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน, อนาถะปิณฑิกะ อาราเม ( ประทับอยู่ที่เชตวันวิหาร อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถี )
อะถะ โข อัญญะตะรา เทวะตา ( ครั้งนั้นแล เทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง )
อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา ( ครั้งเมื่อราตรีปฐมยามล่วงไปแล้ว มีรัศมีอันงามยิ่งยิ่งนัก )
เกวะละปัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา ( ยังเชตวันทั้งสิ้น ให้สว่าง )
เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิ ( พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ที่ใด ก็เข้าไปเฝ้า ณ ที่นั้น )
อุปะสังกะมิตวา ภะคะวันตัง อภิวาเทตวา ( ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว จึงถวายอภิวาท พระผู้มีพระภาคแล้ว )
เอกะมันตัง อัฏฐาสิ ( ได้ยืนอยู่ในที่สมควรแห่งหนึ่ง )
เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวตา ( ครั้นเทวดานั้น ได้ยืนในที่สมควรแห่งหนึ่งแล้ว แล )
ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิ ( ได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยคาถาว่า )
พะหู เทวา มะนุสสา จะ ( หมู่เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก )
มังคะลานิ อะจินตะยุง อากังขะมานา โสตถานัง ( ผู้หวังความสวัสดี ได้คิดหามงคลทั้งหลาย )
พรูหิ มังคะละมุตตะมัง ( ขอพระองค์จงเทศนา มงคลอันสูงสุด )
อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ( พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า การไม่คบคนพาลทั้งหลาย ๑ การคบคบบัณฑิตทั้งหลาย ๑ )
ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( การบูชาชนที่ควรบูชาทั้งหลาย ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )
ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุเพ จะ กะตะปุญญะตา ( การอยู่ในประเทศอันสมควร ๑ การเป็นผู้มีบุญอันทำแล้วในกาลก่อน ๑ )
อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( การตั้งตนไว้ชอบ ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )
พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต ( การเป็นผู้ฟังมาก ๑ ศิลปะ๑ วินัยอันชนศึกษาดีแล้ว ๑ )
สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( วาจาอันชนกล่าวดีแล้ว ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )
มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะ สังคะโห ( การบำรุงมารดาบิดา ๑ การสงเคราะห์บุตรและภรรยา ๑ )
อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( การงานทั้งหลายที่ไม่อากูล ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )
ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห ( การให้ ๑ การประพฤติธรรม ๑ การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย ๑ )
อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( การกระทำทั้งหลายไม่มีโทษ ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )
อาระตี วิระตี ปาปา มัชชะปานา จะ สัญญะโม ( การงดเว้นจากบาป ๑ การสำรวมจากการดื่มน้ำเมา ๑ )
อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( การไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )
คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา ( การเคารพ ๑ การไม่จองหอง ๑ การยินดีในของที่มีอยู่ ๑ การเป็นคนกตัญญู๑ )
กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( การฟังธรรมตามกาล ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )
ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง ( ความอดทน ๑ การเป็นคนว่าง่าย ๑ การเห็นสมณะทั้งหลาย ๑ )
กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( การเจรจาธรรมโดยกาล ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )
ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง ( ความเพียรเผากิเลส ๑ การประพฤติอย่างพรหม ๑ การเห็นอริยสัจทั้งหลาย ๑ )
นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( การทำพระนิพพานให้แจ้ง ๑ ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )

 
ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ ( จิตของผู้ใด อันโลกธรรมถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว )
อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ ( ไม่มีโศก ปราศจากธุลี เกษม ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด )
เอตาทิสานิ กัตวานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา ( เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย กระทำมงคลทั้งหลายเช่นนี้แล้ว เป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง)
สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ฯ
( ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เหล่านั้น แล ฯ )

ขอให้เกิดปัญญากันถ้วนหน้าแล........................


------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หมายเหตุ* ผู้ใหญ่ที่เล่าประวัติมงคลสูตรให้ฟัง บอกว่า พระพุทธเจ้าเน้นในเรื่องไม่คบคนพาลมา อันดับแรกมาก่อนเรื่องอื่น  อาจเป็นเพราะ หากคนคนพาลแล้ว จะทำให้มงคลข้ออื่นๆ จะปฏิบัติได้ยากก็เป็นได้

4 ความคิดเห็น:

108-1009 HoME กล่าวว่า...

คบคนพาล

พาลพาไปหาผิด เนอะ

Hornbill B กล่าวว่า...

มงคล 38 ประการ ทำบุญอะไรเหรอคุณน้อง

明 เม้ง  ^__^ กล่าวว่า...

ทำบุญเลี้ยงพระของที่ทำงานประจำสองเดือนครับ

phyche phyche123 กล่าวว่า...

ขอให้เกิดปัญญากันถ้วนหน้าแล........................

สาธุ