วันอาทิตย์, กันยายน 10, 2549

มาสาย-กลับดึก โดย วินทร์ เลียววาริณ.

วันแรกที่เข้าเรียนในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
   จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
       ผมพบเรื่องอัศจรรย์อย่างหนึ่งเมื่อรุ่นพี่บางคนบอกว่า
           "การอดนอนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนในคณะนี้"
วันสุดท้ายในคณะนี้
   ผมพบว่าตั้งแต่เรียนมาห้าปี
    ไม่เคยต้องอดนอนเลย
       ยกเว้นเมื่อต้องทำงานกลุ่ม
         ทั้งนี้มิใช่เพราะผมทำงานเร็วกว่าคนอื่น
           แต่เพราะผมไม่เชื่อในทัศนคตินั้น
             จึงพยายามพิสูจน์ว่ามันไม่จริง และพบว่า
               การวางแผนที่ดีแก้ปัญหาได้ทั้งหมด
                                        แม้แต่การสร้างสรรค์งานศิลปะ
 
ที่น่าขันก็คือ
    น้อยคนที่อดนอนได้คะแนนดี
   
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมานานร่วมสามสิบปี
   ห้าปีในนั้นผมทำงานในต่างประเทศ
       เมื่อกลับมาเมืองไทย ผมพบเรื่องอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง
 
นั่นคือหลายคนมองการก้าวเท้าออกจากสำนักงานตรงเวลาเป็นเรื่องประหลาดที่สุดในโลก
       (มิพักเอ่ยถึงการออกก่อนเวลาเมื่องานเสร็จแล้ว)
    
ผมรู้ความจริงภายหลังว่า
    คนจำนวนมากไม่ยอมออกจากสำนักงานตรงเวลา
    
 เพื่อแสดงให้เจ้านายเห็นว่า
       ตนเองขยันขันแข็ง ยิ่งอยู่ดึก ยิ่งเป็นพนักงานตัวอย่าง
           เสียสละเพื่อองค์กร
                น่ายกย่องชมเชย
    
บ่อยครั้งมีผลถึงการได้รับโบนัสตอนท้ายปี
   เนื่องจากเจ้านายมักเห็นหน้าเห็นตาใครคนนั้น
       หลังเวลาเลิกงานแล้วเสมอ
           หากไม่เคยทำงานในต่างประเทศมาก่อน 
                                           ผมอาจเข้าร่วมวงไพบูลย์
                      "มาสายกลับดึก"ด้วย
   
 แต่หลายปีในชีวิตการทำงานในประเทศที่มีประสิทธิภาพในการจัดการที่สุด
      ทำให้เห็นค่าเวลาทุกนาทีในชีวิต
    
 ผมกลับมองว่าคนที่อยู่ดึกเป็นประจำคือพวกไร้ประสิทธิภาพ
    ไม่สามารถทำงานให้เสร็จทันเวลา
        จึงต้องอยู่ดึก
            ยิ่งทำงานมากชั่วโมงยิ่งแสดงถึงการทำงานโดยไม่มีการวางแผน
                              ไม่มองภาพรวม
    
   


ลองคิดดู
  การอยู่ดึกเพื่อทำงานพิเศษหนึ่งคืนหมายถึงค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
    เครื่องปรับอากาศทำงานมากขึ้น ค่าทะนุบำรุงสูงขึ้น
        ผลกระทบต่อคนทำงานคือพักผ่อนน้อยกว่าที่ควรเป็น
           ยิ่งอยู่ดึก
               ประสิทธิภาพของงานในวันถัดไปยิ่งตกต่ำลง
   
     
มือกระบี่ชั้นหนึ่งในแผ่นดินมองท่วงทีของศัตรูอย่างระวัง
       ตวัดกระบี่ในมือเพียงฉับเดียวก็เข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม
       
มือกระบี่ชั้นรองต้องประกระบี่ดังโคร้งเคร้งนานนับชั่วโมง
    ราวกับอยากบอกโลกว่า
       ข้าก็ใช้กระบี่นะโว้ย
  
 โลกรับรู้ แต่คมกระบี่ก็บิ่น
     ต้องเสียเวลาลับกระบี่อีกหลายวัน
    
งานดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องตรงเวลาด้วย
   งานดีไม่มีทางเกิดขึ้นตามยถากรรม หรืออารมณ์ขึ้นลง
       ไปจนถึงความหนาแน่นรัดกุมของกฎเกณฑ์ "ตอกบัตร"
       
ปริมาณเวลาในการทำงานชิ้นหนึ่งไม่ได้เป็นสัดส่วนกับคุณภาพของผลงานเสมอไป
      บ่อยครั้งเป็นปฏิภาคกัน
          หลายครั้งงานที่ให้เวลาน้อย 
                                        กลับออกมาดีกว่างานที่ให้เวลามาก
    
คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง
   ทำงานเสร็จแล้วก็เลิก 
                ไม่ต้องรอเทวดาบนสวรรค์วิมานมารับรู้
               เพราะถึงเวลานั้นเทวดาก็กลับบ้านไปแล้ว
        
       วินทร์ เลียววาริณ


 





8 ความคิดเห็น:

XXXX YYYY กล่าวว่า...

เห็นด้วย

Nu Gade ... กล่าวว่า...

ช่ายค่ะเห็นด้วยกับความคิดนี้อย่างยิ่ง..

แต่เอ..ไม่รู้นายเราจะเห็นด้วยป่าวน๊า...~_~''

明 เม้ง  ^__^ กล่าวว่า...

เราควรรีบออกจากออฟฟิสในแต่ละวันไม่ควรอ้อยอิ่ง เดี๋ยวจะพลาดชอทพระอาทิตย์ตกดินของวันนั้นๆ ซึ่งมันอาจจะสวยก็ได้

XXXX YYYY กล่าวว่า...

คิคิ ช่วงนี้พระอาทิตย์ตกสวยทุกวันเลยนิ

nuchsara j กล่าวว่า...

ตรงใจจริงๆเพราะว่าทุกวันนี้ก็ปฏิบัติแบบนี้ค่ะ ^ ^
มาเพิ่มเติมค่ะเดี๋ยวเข้าใจผิด ที่ทำอยู่ก็คือ
มาเช้าแต่ว่ากลับตรงเวลา ไม่ชอบกลับดึกค่ะ

eBeauty ^_- กล่าวว่า...

มาแปะ

Moowan a little girl กล่าวว่า...

เห็นด้วยเกือบทั้งหมดค่ะ
ยกเว้นการกลับบ้านตรงเวลา
เพราะต้องแวะทักทายประชาชนก่อนค่ะ ถึงจะกลับบ้านได้ค่ะ
แรงงานสัมพันธ์นิดนึงงั้ยคะ ฮ่าๆๆ :P

明 เม้ง  ^__^ กล่าวว่า...

มานุดสัมพันธ์ต่างหาก ก่อนกลับบ้านอย่าลืม สว้สดีชาวโลก