เมื่อวานไปตรวจร่างกายประจำปี
ชั่งน้ำหนัก วัดสายตา เอกซ์เรย์ เจาะเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ
และก็รอ รอฟังผลเลือดและคุยกับหมอ
ชั่วโมงกว่าๆผ่านไป เสียงเรียกชื่อเราพบหมอก็ดังขึ้น
พร้อมกับเลขที่ ออก
211...175...133...
สรุปว่า ไขมันในเลือดเกินทั้งสามตัวเลยทั้ง คลอเลสเตอรอล ไตรกีเซอไล แอลดีแอล
เกินมาอย่างละนิดหน่อย 11....25....3....
------------------------------------------------------------------------------------------
เสร็จแล้วก็ต่อด้วยการฟังคุเล็คเชอร์ เอ้ย ให้คำแนะนำทางการแพทย์
ข้อแรก หมอบอกตัวเลขของผม + ด้วยปัจจัยน้ำหนักตัว เสี่ยงต่อภาวะเส้นเลือดตีบ เฉียบพลัน
แต่ หมอจะยังไม่ถึงขั้นทำการรักษา เพราะตัวเลขเกินมาไม่มาก หมออยากให้ลดตัวเลขด้วยตัวเองก่อน
ด้วยวิธีการออกกำลังกาย
ข้อสอง หมอบอกให้ระมัดระวังการอาหารที่ไม่เห็นมัน บางประเภท "อาหารที่ไม่เห็นมัน" งง มะ
หมอยกตัวอย่าง น่องไก่ไร้หนัง ข้าวสวย ไข่แดง กะทิ
ผมยิ่ง งง เข้าไปใหญ่
หมอเห็นหน้าผมคงจะอ่านออก เห็นตัว ง งูเต็มหน้า ไม่ใช่บนหัวนะ
เลยอธิบายเพิ่มเติมว่า
ในอาหารนั้นจะมีของสองประเภท แยกจากกัน คือ ไข และ มัน
สำหรับ มัน เราคงเห็นๆกันอยู่ เช่น หมูสามชั้น มันปลา มันกุ้ง (มันเทศ มันสำปะหลังไม่นับ)
มันเหล่านี้พอกินเข้าไปในร่างกาย ก็จะไปสะสมเป็น มัน เหมือนที่เราเห็นนั่นเอง มักไปอยู่ที่รอบเอว
ทีนี้ มาถึงไข หมอบอกว่า ไข ในตัวเราคือของเหลวที่ไหลเวียน เบียดกันไปกับกระแสเลือด ในร่างกายเรา
พร้อมจะรวมกลุ่มจับกันให้เส้นเลือดตีบตันได้ทุกเมื่อ
ไขเหล่านี้มาจากไหน หมอยกตัวอย่าง ไข่แดง ปกติจะไม่เห็นมัน แต่ถ้าทำไข่เค็ม เอาไปต้มแล้วผ่า จะเห็นไขเหล่านี้ไหลออกมา ได้ หรือข้าวสวยที่เรากินๆกัน หมอบอกว่าเวลาหมอล้างหม้อหุงข้าวจะรู้ได้เลยว่าหม้อนั้นมีไขเคลือบอยู่ ไขมันออกมาจากกระบวนการหุงข้าว (ดังนั้นเราจึงมีน้ำมันรำข้าวนั่นเอง)
สรุปได้ว่า ไขตัวร้ายเหล่านี้เรามองไม่เห็นจากอาหารปกติ แต่จะออกมาในกระบวนการย่อยผ่านลำไส้ใหญ่ของเรานั่นเอง
หมอบอกอีกว่า ไขเหล่านี้เมื่อเข้าไปในกระแสเลือดแล้วจะวนเวียนไร้ทางออก จนกว่าจะถูกดึงไปใช้ด้วยออกกำลังกาย
ถึงแม้ปีหน้าทั้งปี ผมจะลดอาหาร แต่ถ้าหากไม่ออกกำลังกายด้วย
ปีต่อไปเมื่อมาตรวจ หมอบอกว่าตัวเลขเหล่านี้มันจะไม่ลดลง เพราะมันหาทางออกมาไม่ได้
การลดอาหารเปนการลดการนำเข้า แต่ไม่ได้ช่วยการส่งออกไขจากกระแสเลือดแต่อย่างใด
ผมเลยคิดเร็วๆถามไปว่า เอ๊ะ ถ้าผมบริจาคเลือดบ่อยๆบ่อยละ
หมอมองหน้าผมแวบนึง แล้วบอกว่า เลือกคนเรา 3500 ซีซี ผมบริจาคครั้งนึง 350 ซีซี ไข ก้อจะหลุดออกมาได้นิดเดียวเอง ดังนั้น ออกกำลังกายดีที่สุด
เชื่อหมอ เห้อะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติม
เดวนี้การ เอกซ์็เรย์ปอด เค้ามีพลาสเตอร์ให้แปะหัวนมด้วยแฮะ
เหตุผลก็คือ เพื่อทำเครื่องหมายแยกแยะในฟิล์เอกเรย์ ว่า
ไอ้จุดขาวที่เห็นนี่ เป็นจุดในปอด รึหัวนมเรากันแน่ หุหุ
15 ความคิดเห็น:
เป็นข้อมูลที่ดีมากๆเลยอะ ขอบคุณผลตรวจความอวบของเม้งคุงนะ
ข้อมูลดีจังเลยค่ะ
555 ต้องรีบออกกำลังกายแล้วนะคะ คุณเม้ง มนก็เกินมานิดหน่อยค่ะ เพิ่งตรวจไปเมื่อเดือนก่อนเอง 555 หมอสั่งออกกำลังกายเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ค่อยได้ทำเลย : P
นี่เป็นการตอบข้อสงสัยที่ดีมากว่า ทำไมคนผอมๆบางคนถึงมีค่าไขมันในเลือดสูง
เพราะไข ไปกองในเลือด ไม่อยู่ที่รอบเอวนั่นเอง
ใช่ค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ร่างกายผอมๆ ไม่ได้แปลว่าไม่มีเจ้าไขมันเยอะค่ะ บางคนกลับมีเยอะกว่าคนที่ร่างกายอวบๆ เสียอีก
ฟิตๆ ณ บัดนาว ^^
กางเกงฟิตเดะ
555+++ เราก็ฟิตเป้า วันๆกินๆ นั่งๆ ตรูดหย่าย -*-
กลับถึงบ้านก็เหนื่อยๆ กินแล้วก็นอน
ไม่ได้สัมผัสกลิ่นอายหนุ่มๆในฟิตเนสมานานมาแว้ว เหอะๆๆๆ
ป่ะไปขึ้นเขาลงห้วยสัก2-3 วัน จะได้ผอมๆเอาไหม๊ลุง
อย่าบอกนะ ว่า ขี้เกียจอีก -*-
รู้ใจเจรงๆ หนีตาม เกลิเลโอดีก่า
อ่านแล้วคลำๆพุงเลย เฮ้อมันและไขน่ากลัวจัง
อิอิ งั้นก้อ ออกกำลังวันละนิดให้จิตแจ่มใส ไขมันหาย แล้วกัน
เต้นๆๆๆ
ของเค้าก็เกินนิดๆหน่อยๆ น้อยว่านี้นิดๆอ่ะ
โอ้ น้อยก่าเราอีกอะ กุ้งเผาพัทยาไม่มีผลแหะ
แหม กุ้งนะเค้านานๆกินทีจ้ะ
โดยมากกินปลา มากกว่ากุ้งอ่ะ
แต่ความดันสิสูง ปี๊ดเลย
148/99
ความดันทุรังพอใช้ได้ กินเค็มจิ
แสดงความคิดเห็น