วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 12, 2549
ปรากฎการณ์ นาคเล่นน้ำ
(เก็บตกจากเมล์)
ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งในชั่วอายุคน ชาวเขมรจำนวนหนึ่งนำไปโยงเข้ากับเหตุการณ์ "อาเพศจระเข้เผือก" เมื่อ 31 ปีก่อนที่ทำให้รัฐบาลพังทลาย และกัมพูชาเข้าสู่ยุคฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ภายใต้ระบอบเขมรแดง
นักอุตุนิยมวิทยาอธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพียงเหตุการณ์ทางธรรมชาติ เป็นเรื่องของคลื่นความกดอากาศต่ำไปปะทะกับคลื่นความ กดอากาศสูงอย่างกะทันหันเหนือท้องน้ำ ทำให้เกิดมีไอน้ำรวมตัวกันและถูกพัดหมุนเป็นเกลียวขึ ้นสู่ท้องฟ้าความสูงกว่า 100 เมตร ดูคล้ายกับพายุทอร์นาโด
เหตุการณ์เกิดขึ้นในอาณาบริเวณที่แม่น้ำโขงกับแม่น้ำ ทะเลป่าสัก (Tonle Bassac) ไหลไปบรรจบกันในเขตรอบนอกกรุงพนมเปญ อันเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เกิดบ่อยนัก และบังเอิญไปคล้องจองกับตำนานพญานาคเล่นน้ำของชาวเขมร
ภาพเหตุการณ์ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางทั่วกัมพูชา เนื่องจากมีความสวยงามพอๆ กับความแปลกประหลาด น่าอัศจรรย์ใจ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
18 ความคิดเห็น:
มีภาพให้ดูด้วยไหมคะ ?
มีจ้า
wow ! เห็นแล้วจ้า ...
ถ้าเจอเอง .. วิ่งหนีดีกว่า :)
ว๊าววว ปรากฏการณ์ธรรมชาติหรอเนี่ย..สวยงาม แปลกประหลาด น่าอัศจรรย์ใจ เหมือนว่าจริงๆ..
ถ้าผมอยู่ในเรือกลางน้ำ คงต้องรีบพายเรือกลับฝั่งสุดชีวิตเลยล่ะครับ น่ากลัวมากกกกก
โห..ไม่น่าเชื่อเลยค่ะ
เงิ่ม..ม..ค่อนข้างน่ากลัวค่ะ ไม่เชื่อ แต่อย่าลบหลู่
ถ้าแบบไทยๆเรียกว่างวงช้าง
บทความ พายุ ‘นาคเล่นน้ำ’ สะพานเชื่อม นภาและวารี
บัญชา ธนบุญสมบัติ
http://www.bangkokbiznews.com/scitech/2005/0403/news.php?news=column_17075026.html
ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี้ มีปรากฏการณ์ทางลมฟ้าอากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นในบ้านเรา ตามข่าวระบุว่า
“พายุงวงช้าง ที่เกิดขึ้นกลางทะเลอันดามัน ห่างชายฝั่ง ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 10 กม. ถูก 2 ช่างภาพสมัครเล่นบันทึกภาพเหตุการณ์ระทึกขวัญเอาไว้ได้ … โดยมีนักกอล์ฟที่สนามกอล์ฟ ค่ายรัตนรังสรรค์เห็นเหตุการณ์หลายสิบคน โดยนายอำนวย เจริญวิภาสเจต อายุ 52 ปี ระบุว่า เห็นท้องฟ้ามืดครึ้ม จึงมองออกไปในทะเล พบเส้นสีเทาหมุนเป็นเกลียวพุ่งจากท้องฟ้าลงไปในทะเล เกิดเป็นเกลียวหมุนอย่างรวดเร็วดูดน้ำทะเลขึ้นไปบนอากาศแบบเดียวกับพายุทอร์นาโดในสหรัฐอเมริกา ทำเอาคนในสนามกอล์ฟพากันวิ่งหนีจ้าละหวั่น แต่ก็มีนายพรชัย เอี่ยมโสภณ และนายสรายุทธ สุทธิวงษ์ ผู้ดำเนินรายการของสถานีวิทยุชุมชมระนอง บันทึกภาพปรากฏการณ์พายุงวงช้าง ซึ่งกินเวลานาน 20 นาทีไว้ได้ โดยพายุดังกล่าวไม่ได้พัดเข้าสู่ชายฝั่ง และสลายตัวไปในอากาศเอง” (ข่าวหน้า 1 จาก นสพ. ไทยรัฐ ปีที่ 56 ฉบับที่ 17251 วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2548 และจากเวบไซต์ของไทยรัฐ)
ปรากฏการณ์นี้น่าสนใจเหลือเกิน เพราะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในบ้านเรา โดยผมขอให้ข้อมูลก่อนว่า พายุหมุนแบบนี้จะเรียกตามข่าวว่าพายุงวงช้างก็ไม่ผิด แต่ชื่อเรียกที่ชัดเจนกว่าคือ นาคเล่นน้ำ หรือพวยน้ำ เพราะเกิดในน้ำ (ฝรั่งเรียกว่า waterspout)
‘นาคเล่นน้ำ’ มาจากไหน? ทำไมจู่ๆ จึงเกิดท่อเชื่อมผืนฟ้าและพื้นน้ำขึ้นมาได้? เรื่องนี้นักอุตุนิยมวิทยา (ฝรั่ง) บอกว่า นาคเล่นน้ำมี 2 แบบ แบบแรกเป็นพายุทอร์นาโดที่เกิดขึ้นเหนือผืนน้ำ (ซึ่งอาจจะเป็นทะเล ทะเลสาบ หรือแอ่งน้ำใดๆ) โดยพายุทอร์นาโดจะเกิดขึ้นในช่วงที่ฝนฟ้าคะนองอย่างหนักและเกิดระบบอากาศหมุนวน แบบนี้จึงเรียกว่า นาคเล่นน้ำที่เกิดจากทอร์นาโด (tornadic waterspout)
ส่วนนาคเล่นน้ำอีกแบบหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นบ่อยกว่า และน่าจะตรงกับกรณีที่เกิดขึ้นในบ้านเรา (เพราะตามข่าวดูเหมือนจะไม่มีฝนฟ้าคะนองร่วมด้วย) เกิดจากการที่มวลอากาศเย็นเคลื่อนผ่านเหนือผิวน้ำที่อุ่นกว่า โดยบริเวณใกล้ๆ ผิวน้ำมีความชื้นสูง และไม่ค่อยมีลมพัด (หรือถ้ามีก็พัดเบาๆ เอื่อยๆ) ผลก็คือ อากาศที่อยู่ติดกับผืนน้ำซึ่งอุ่นในบางบริเวณจะยกตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้อากาศโดยรอบไหลเข้ามาแทนที่ จากนั้นจึงพุ่งเป็นเกลียวขึ้นไป แบบนี้เรียกว่า นาคเล่นน้ำของแท้ (true waterspout) หรือ นาคเล่นน้ำที่เกิดในช่วงอากาศดีพอสมควร (fair-weather waterspout)
ในช่วงที่อากาศพุ่งขึ้นเป็นเกลียววนนี้ หากน้ำในอากาศยังอยู่ในรูปของไอน้ำ เราจะยังมองไม่เห็นอะไร แต่หากอากาศขยายตัวและเย็นตัวลงถึงจุดหนึ่ง ไอน้ำก็จะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำจำนวนมาก ทำให้เราเห็นท่อหรือ ‘งวงช้าง’ เชื่อมผืนน้ำและเมฆ
พายุนาคเล่นน้ำส่วนใหญ่ยาวประมาณ 10-100 เมตร แต่ยาวมากถึง 600 เมตร ก็เคยพบ เส้นผ่านศูนย์กลางก็ตั้งแต่เล็กๆ แค่ 1 เมตร ไปจนถึงหลายสิบเมตร ในนาคเล่นน้ำแต่ละตัว อาจมีท่อหมุนวนเพียงท่อเดียวหรือหลายท่อก็ได้ โดยแต่ละท่อจะหมุนด้วยอัตราเร็วในช่วง 20-80 เมตรต่อวินาที (ลองเปรียบเทียบกับพายุทอร์นาโดซึ่งมักจะยาวประมาณ 100-300 เมตร และหมุนวนเร็วกว่าคือ 40-150 เมตรต่อวินาที) กระแสลมในตัวพายุเร็วถึง 100-190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจสูงถึง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งคว่ำเรือเล็กๆ ได้สบาย
นอกจากหมุนวนรอบตัวเองแล้ว นาคเล่นน้ำยังสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วตั้งแต่ 3 ถึง 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่จะเคลื่อนที่ค่อนข้างช้าประมาณ 18-28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นจึงมีคำแนะนำสำหรับชาวเรือว่า ให้สังเกตทิศทางการเคลื่อนที่ให้ดี แล้วหนีไปในทิศตรงกันข้าม (ซึ่งอาจโชคดีหนีได้ทัน)
อย่างไรก็ดี พายุนาคเล่นน้ำมีอายุไม่ยืนยาวนัก คืออยู่ในช่วง 2-20 นาที (แต่นานถึง 30 นาทีก็เคยพบ) และหากนาคเล่นน้ำขึ้นฝั่ง ก็จะสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว
น่าสนใจว่า นาคเล่นน้ำมักจะเกิดพร้อมๆ กันคราวละหลายตัว คือ มากันเป็นครอบครัว ตามสถิติที่ค้นได้พบว่า เคยเกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว 7 ตัว ที่เกรทเลคส์ (Great Lakes) ตามแนวพรมแดนระหว่างแคนาดากับอเมริกา ในปี 2003
ส่วนในเขตประเทศอเมริกาเองนั้น นาคเล่นน้ำมักจะเกิดแถวๆ ฟลอริดาในบริเวณที่เรียกว่า ฟลอริดาคียส์ (Florida Keys) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ทำให้บางคนสันนิษฐานว่า นาคเล่นน้ำอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินและ เรือจำนวนมากสูญหายไปในบริเวณสามเหลี่ยมลึกลับนี้ก็เป็นได้!
ว้าว น่าสนใจๆ
ไม่น่าเชื่อว่าไทยเราก้อเกิดแบบงวงช้างขึ้นได้
เมืองไทยยังมีสินามิได้ งวงช้างนี่เด็กๆไปเลย
เอาลิ้งค์มาเพิ่ม http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=331
น่ า ก ลั ว ม า ก
ได้ยินข่าวมาว่า สองสามวันนี้ มีทั้งที่ บึงบรเพ็ดและที่ ชลบุรี
มันใกล้ตัวเรามาทุกที
ภาพจากพันทิพ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X6982156/X6982156.html จากคุณ : livrut (livrut)
กำลังค้นภาพจากกูเกิ้ล ดันมาเจอลิ้งค์นี้ อิอิ
อยากเห็นแต่ไม่อยากเห็น
อยากถ่ายมั่ง
แสดงความคิดเห็น