วันเสาร์, ตุลาคม 15, 2548

วิกฤติคือโอกาส ขึ้นอยู่กับมุมที่จะมองจากใจคุณ


วันหนึ่งเมื่อยังเด็ก
แอนดี้น้องชายของฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องนั่งเล่น


.....ในมือข้างหนึ่งมีปากกาหนึ่งด้าม
ขณะที่ในมืออีกข้างหนึ่งก็ถือหนังสือสะสมราคาแพงของพ่อ
แอนดี้คงจะปีนขึ้นไปหยิบจากบนชั้นหนังสือ .....
เมื่อพ่อเดินเข้ามาในห้อง


แอนดี้ก็ก้มหน้างุดและทำท่ากระสับกระส่าย

เขารู้ตัวดีเชียวละว่ากำลังทำผิดแม้จากระยะไกล
ฉันก็เห็นรอยขีดเขียนเปรอะไปทั่วบนหน้าหนังสือของพ่อ
และตอนนี้แอนดี้ก็กำลังจ้องมองตด้วยความหวาดหวั่น
รอคอยที่จะถูกทำโทษ พ่อหยิบหนังสือขึ้นมามอง
แล้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้โดยไม่พูดอะไรสักคำ
.....



หนังสือทุกเล่มมีความหมายต่อพ่อมาก...
หนังสือคือความรู้

และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือสะสมราคาแพง
แต่ในขณะเดียวกันท่านก็เป็นพ่อที่รักลูกมาก.....
สิ่งที่พ่อทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั้นยอดเยี่ยมมาก

แทนที่ท่านจะลงโทษหรือดุแอนดี้
หรือแม้แต่ตำหนิความซุกซน !!

พ่อกลับนั่งลง
...
หยิบปากกาในมือแอนดี้ขึ้นมาถือไว้

แล้วก็เขียนอะไรบางอย่างลงในหน้าหนังสือสือสะสมราคาแพงนั่นเสียเอง
พ่อเขียนที่ข้างๆ ลายเส้นที่แอนดี้ขีดว่า
ภาษาของแอนดี้เมื่ออายุสองขวบ.....



ต่อไปไม่ว่าครั้งไหนที่พ่อหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเปิด
พ่อก็จะเห็นใบหน้าน้อยๆ
ที่น่ารักและดวงตาที่สดใสของลูก
และจะขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเด็กน้อยคนนี้มาให้ขีดเขียนบนหนังสือแสนหวงของพ่อ
ลูกทำให้หนังสือเล่มนี้ของพ่อมีความหมาย....
เหมือนกับที่พี่ๆ

ของลูกนำความหมายมาสู่ชีวิตของพ่อเหมือนกัน

"
ว้าว...” ฉันคิด นี่หรือคือการลงโทษของพ่อ
?
นานๆครั้งฉันก็จะหยิบหนังสือที่สะสมไว้มาให้ลูกหลานของฉันขีดเขียนเล่น

ทุกครั้งที่มองดูลายมือหยุกหยิกเหล่านั้น
ฉันก็จะนึกถึงสิ่งที่พ่อทำในวันนั้น
พ่อได้สอนให้ฉันรู้ว่า


...’อะไรกันแน่ที่มีค่าต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง
.......
ซึ่งนั่นก็คือ คนที่เรารัก
ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ


ลองมองย้อนดูตัวคุณเองในแต่ละวัน เหตุการณ์แบบนี้
เกิดขึ้นได้อยู่เสมอ
เช่นคุณนั่งกินข้าวกับภรรยาอยู่ที่ร้านอาหาร
เธอหวังดีอยากจะเทซอสให้คุณ
แต่มันกลับหกไปเลอะเสื้อตัวเก่งของคุณ
และคุณก็ทำสีหน้าที่ตำหนิเธอและคำพูดที่บอกว่า...
เดี๋ยวผมเทเองก็ได้นอกจากคำขอโทษที่เธอพร่ำบอก


น้ำตาใสๆก็เริ่มเอ่อขึ้นในใจเช่นเดียวกัน
......
เพราะอาหารมื้อนั้น ไม่มีรสชาติสำหรับเธอเสียแล้ว...

แต่ถ้าคุณบอกกับเธอว่า ถ้าซักไม่ออกก็ไม่เป็นไรหรอก

เมื่อผมหยิบเสื้อขึ้นมาใช้ครั้งใด ผมจะหวนนึกถึงร้านอาหารนี้ทุกครั้งไป...

ที่ได้มีโอกาสมาทานข้าวกับคุณ

และได้คิดถึงทุกครั้งว่าภรรยารัก
และเอาใจใส่ผมมากเท่าใด....
อยากปรนนิบัติเอาใจ (จนเทซอสหกใส่ผม
)
แต่ว่าคราวหน้าออกมาทานข้าว

ผมจะเป็นคนเทซอสให้คุณมั้งล่ะ
ทีนี้ตาผมมั่ง)


รอยยิ้มจากหัวใจของเธอได้เริ่มโบยบินแล้ว


.....
แค่นี้คุณก็ลงโทษเธอให้ระวังมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ
สิ่งที่มีค่าต่อชีวิตคนเรานั้นไม่ใช่ นาฬิกาเรือนละแสน หรือเนคไทเส้นละหลายๆพัน


แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่คุณรู้ว่ามีใครคนหนึ่ง เฝ้ารัก
เฝ้าถนอมความรู้สึกคุณอยู่ตลอดเวลาต่างหาก...


แล้วคุณละ เคยลงโทษใครด้วยความรักหรือยัง?


พจนานุกรมใจ


**น้อยใจ
อาการอ่อนแอของจิตใจที่ไม่ได้รับการตอบสนอง
ยามที่เกิดความต้องการให้คนเอาใจ
วิธีแก้ อย่าเอาแต่ใจ


**เจ็บใจ
อาการเป็นพิษของจิตใจที่ลามมาจากหาง เวลามีใครมาเหยียบมัน
วิธีแก้ ตัดหางทิ้งซะ อย่ายกหางตัวเอง


**ละอายใจ
อาการใฝ่ดีของจิตใจ ที่ออกมาชี้หน้าด่าเรา
ข้อแนะนำ เมื่อละชั่วได้ ก็ไม่อายแก่ใจ


**เสียใจ
อาการวูปทางจิตใจ เกิดจากความไม่มั่นคง
เพราะชอบเอาใจไปผูกเอาไว้กับสิ่งอื่น
วิธีแก้ ตัดใจซะสิ อย่าไปผูกมันไว้


**ใจหาย
อาการนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้ว
วิธีแก้ หายใจเข้าสิ หายใจลึกๆ แล้วจะเลิกใจหาย

**หลายใจ
อาการสืบพันธุ์ของจิตใจโดยการแบ่งตัว
นำไปสู่อาการน้อยใจแก่คนรอบข้างได้ในเวลาต่อมา
วิธีแก้ ระลึกไว้ มีแต่พวกอะมีบาที่ใช้วิธีแบ่งแบบนี้

**ทำใจ
อาการที่แปลกที่สุดของใจ ยิ่งทำมากเท่าไร ใจยิ่งว่างเท่านั้น
ข้อแนะนำ ทำทุกครั้ง ทำบ่อยๆ ค่อยๆทํา